14 ต.ค. 2022 เวลา 10:11 • หนังสือ
สามฮอร์โมนแห่งความสุข
ตั้งแต่มนุษย์เริ่มคิดอะไรออก ความพยายามตามหา “ความสุข” น่าจะเป็นเรื่องราวหลักของชีวิตที่เราดำเนินอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักปราชญ์สมัยโบราณจนถึงนักคิดในปัจจุบัน หลักการที่ว่ามนุษย์นั้นเกิดมาก็เป็นทุกข์ตามหลักศาสนาก็ดูจะเป็นแบบนั้น ยิ่งไขว่คว้าหาความสุขมากเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนความทุกข์ก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
1
การอธิบายเรื่องการแสดงหาความสุขนั้นมีมาหลายรูปแบบ ล่าสุดผมอ่านหนังสือเรื่องพีระมิดสามสุข (the three happiness) ของคุณชิอน คาบาซาวะ แปลโดยคุณนิพดา เขียวอุไร แล้วชอบในวิธีคิดของคุณคาบาซาวะมาก คุณคาบาซาวะเป็นจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาศาสตร์
1
เขาเริ่มจากการสังเกตสารเคมีในสมองเวลามนุษย์มีความสุขว่ามีสารอะไรหลั่งออกมาบ้าง มนุษย์ในรอบหลายพันปีนั้นแทบไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนทางร่างกายและฮอร์โมนเลย
1
ถึงแม้ว่าโลกจะหมุนไปอย่างรวดเร็ว การตอบสนองสิ่งเร้าและการหลั่งสารเคมียังแทบจะเหมือนเดิม เวลามนุษย์มีความสุขในรูปแบบต่างๆนั้นจะมีสารเคมีหลั่งออกมาเป็นร้อยชนิด แต่ตัวที่สำคัญที่สุดมีอยู่สามตัวก็คือ เซโรโทนิน ออกซิโดซิน และโดพามีน
มนุษย์จะหลั่งสารเซโรโทนินออกมาเวลามีความสุขที่ผมเรียกว่าปกติสุข คือมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ จะหลั่งสารออกซิโตซินเวลามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือมิตรภาพ และจะหลั่งสารโดพามีนออกมาเวลาประสบความสำเร็จ ได้เงินทอง ชื่อเสียง บรรลุเป้าหมายทั้งทางดีและไม่ดี รวมถึงการเล่นการพนันหรือแม้แต่การใช้มือถือ
1
คุณคาบาซาวะบอกว่าการเรียงลำดับความสำคัญของความสุขจากฮอร์โมนสามอย่างนั้นสำคัญมาก ถ้าเรียงผิดนี่ชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว เช่นถ้ามัวแต่ทำงานหนักไขว่คว้าหาความสำเร็จโดยแลกมาซึ่งสุขภาพหรือความสัมพันธ์ ต่อให้ได้มาก็จะไม่มีความสุข รากฐานของความสุขที่แท้จริงนั้นต้องเริ่มจากตัวเอง (เซโรโทนิน) ก่อน แล้วต่อด้วยการให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง (ออกซิโดซิน) แล้วถึงเป็นความสำเร็จเรื่องการงาน (โดพามีน).
สภาวะที่ร่างกายจะหลั่งเซโรโทนินนั้นเป็นสภาวะปกติสุข ร่างกายแข็งแรง สดชื่นแจ่มใส ผ่อนคลาย รู้สึกดีเวลาออกกำลังตอนเช้าๆ ไม่เจ็บไม่ป่วยอะไร ถ้าเซโรโทนินลดลงเราจะควบคุมอารมณ์ได้ยาก จะหงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย โมโหง่าย หม่นหมอง ซึมเศร้า
สภาวะที่ร่างกายจะหลั่งออกซิโตซินนั้นเกิดจากความผูกพัน ความรัก มิตรภาพ ความสัมพันธ์เชิงบวกกับคนรอบข้าง ความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า รู้สึกซาบซึ้งกับการที่รู้ว่ามีคนห่วงใย แม้กระทั่งการมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ถ้าขาดออกซิโตซินก็จะรู้สึกว้าเหว่ โดดเดี่ยวด้วยเช่นกัน
ส่วนโดพามีนนั้น ร่างกายจะหลั่งเวลาเกิดสิ่งเร้าทำให้ตื่นเต้น สำเร็จ เช่นเรื่องหน้าที่การเงิน เงินเดือนขึ้น แม้แต่การเล่นเกม เล่นการพนัน เล่นมือถือ กินของอร่อย สนุกสนานเพลิดเพลิน แต่ก็จะทำให้เราอยากจะได้มาเพิ่มขึ้นไปอีก แถมระดับเดิมที่ได้พอได้บ่อยๆก็จะเริ่มชิน ต้องได้มากได้ดีกว่าเดิมจึงจะพอใจ รวมถึงจะมีอาการเสพติดด้วยเช่นกัน การดื่มเหล้าเบียร์ก็มีโดพามีนหลั่งออกมา เราถึงติดเหล้า ติดการพนัน ติดมือถือได้โดยง่าย
1
คุณคาบาซาวะเลยนิยามความสุขจากแนวความคิดของการหลั่งสารความสุขไว้ว่า จริงๆแล้วความสุขไม่ใช่การไขว่คว้าแต่เรามีอยู่แล้วตอนนี้ถ้าเราเป็นอยู่ เช่นออกไปเดินเล่นตอนเช้า มีสุขภาพดี มีครอบครัวที่อบอุ่น สองสารแรกก็จะหลั่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปตั้งเป้าความสุขใหญ่ๆที่ยากที่จะได้มาและพอถึงแล้วก็ไม่อยู่จริงเพราะจะต้องอยากได้มากขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นภาพลวงตาที่นำมาสู่ความทุกข์ในที่สุด เช่นได้เงินเดือนมากตามที่เคยคิดพอได้มาก็จะอยากได้มากไปอีก เป็นต้น
3
นอกจากนั้นวิธีคิดเวลาได้รับสิ่งที่ได้ตามเป้าหมายที่ทำให้โดพามีนหลั่งแล้ว ถ้าเรามีวิธีคิดถึงคนรอบข้างที่ช่วยเหลือเราจนมีวันนี้ มีความซาบซึ้งใจพร้อมไปด้วยก็จะทำให้สารความสุขที่ยั่งยืนอย่างออกซิโตซินหลั่งออกมาด้วย พลังแห่งความสุขก็จะมากขึ้นมาก เพราะโดพามีนเป็นความสุขที่ลดลงได้ง่าย แต่อีกสองฮอร์โมนนั้นจะยืนยาวกว่ามาก
1
ผมไม่ได้มีความรู้อะไรด้านสารเคมีหรือเข้าใจอะไรเกี่ยวกับฮอร์โมนมนุษย์เลย แต่คิดตามตรรกะแล้วก็เห็นจริงตามที่คุณคาบาซาวะเล่า พื้นฐานของความสุขที่ผมคิดตามก็คือการรักษาร่างกายให้แข็งแรง จิตใจให้แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้มีเซโรโทนินซึ่งเป็นผู้บัญชาการฮอร์โมนหลัก ปรับสมดุลย์ให้ร่างกายให้ “ปกติสุข” และมองความสัมพันธ์ของคนรอบข้างทั้งขอบคุณผู้ที่ทำเรื่องดีๆให้เรา
1
และพยายามสร้างคุณค่าที่ทำให้คนอื่นมา “ขอบคุณ” เรา เหตุดังกล่าวก็จะทำให้ออกซิโตซินหลั่งออกมา และก็ดูจะเป็นเรื่องราวเดียวกับเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญพยายามหาว่าทำไมคนโอกินาวาอายุยืนแล้วค้นพบคำว่า “อิคิไก” ที่ดูจะเป็นเรื่องสอดคล้องกันอยู่ไม่น้อย
1
ส่วนความสุขแบบโดพามีนนั้นน่าจะต้องใช้ความระมัดระวังด้วยการใช้เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายที่ดีๆ พัฒนาตนเอง แทนที่จะหันไปแสวงหาโดพามีนจากการเสพติดสิ่งต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นสารเสพติดหรือกิจกรรมเสพติดต่างๆเช่นไถมือถือ หรือ เล่นการพนัน และเมื่อแสวงหาความสุขแบบโดพามีนนั้นก็ควรจะต้องมองถึงคนรอบข้างที่ “ไปด้วยกัน ไปได้ไกล” กับเรา รวมถึงหาเป้าหมายที่ทำแล้วมีคนได้ประโยชน์ไปพร้อมกันกับเรา ก็จะได้สารแห่งความสุขมากกว่าหนึ่งอย่างตามไปด้วย
2
คุณคาบาซาวะ เริ่มด้วยสารแห่งความสุขสามอย่างแต่จบด้วยข้อสรุปสามประการไว้ว่า ความสุขอันเปี่ยมล้นนั้นประกอบด้วย สุขภาพดี ความซาบซึ้งใจ และความมีน้ำใจ…
1
ใครแวะไปงานสัปดาห์หนังสือ เล่มนี้ก็เป็นเล่มหนึ่งที่น่าสอยมากๆเลยครับ
โฆษณา