25 ต.ค. 2022 เวลา 11:02 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นับตั้งแต่ที่กระทรวงกลาโหมาสหรัฐฯได้ออกมาเปิดเผยภาพของ "ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุที่มาได้" หรือ UAP (ในอดีตเรียกว่า UFO) ในปี 2018 อย่างเป็นทางการตามหลักการความโปร่งใสของภาครัฐ ซึ่งทำให้สื่อบางสำนักและสาธารณชนบางส่วนให้ความสนใจเป็นอย่างมากและคาดการณ์ว่า เหตุการณ์นี้อาจเป็นหลักฐานของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ได้เดินทางมาเยือนโลก
1
โดยทางองค์กรนาซาที่มีภาพจำว่าเป็นองค์กรที่เน้นด้านการสำรวจอวกาศเป็นหลัก ก็กลับถูกดึงเข้ามาร่วมศึกษาปรากฏการณ์ UAP นี้ด้วย ซึ่งพึ่งมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบอิสระทั้ง 16 คน ขึ้นมา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะเริ่มดำเนินงานในวันอังคารที่จะถึงนี้
แต่ทว่าทฤษฎีสมคบคิดที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด ก็ได้ถูกลบล้างออกไปด้วยรายงานจาก สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (ODNI) ที่ได้ระบุถึงความเป็นไปได้ของ UAPs 5 กรณี ได้แก่
1
1. การรบกวนในอากาศ เช่น ฝูงนก บอลลูนตรวจสภาพอากาศ โดรนของมือสมัครเล่น และถุงพลาสติก
2. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในชั้นบรรยากาศ อาทิ ผลึกคริสตัลน้ำแข็ง ความผันผวนของอุณหภูมิ
3. โครงการที่เป็นความลับทางการทหารขั้นสูงของกองทัพสหรัฐฯเอง ซึ่งไม่ได้เปิดเผยต่อสายบังคับบัญชาระดับล่าง และภาคส่วนอื่น ๆ ของรัฐบาล
4. เทคโนโลยีอากาศยานของต่างชาติ เช่น จีน รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ อีกทั้งยังรวมไปถึงองค์กรที่ไม่ใช่ของภาครัฐใด ๆ อีกด้วย
5. ความเป็นไปได้อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้สามารถระบุได้ เนื่องจากข้อมูลที่มีจำกัด และความยากในการวิเคราะห์ จนต้องอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเหตุผลนี้เองทำให้นาซาได้เข้ามามีบทบาท ในการตรวจสอบครั้งนี้
โดยทางองค์กรนาซาได้ระบุไว้ในเอกสารที่เผยล่าสุดต่อสื่อว่า "แทบมีความเป็นไปไม่ได้เลยที่ UAP จะเกิดจากการกระทำของสิ่งมีชีวิตต่างดาว"
เรียกได้ว่าตราบใดที่เรายังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เราก็คงไม่สามารถสรุปได้ว่า สิ่งที่เห็นนั้น คือเอเลี่ยนจริง ๆ ส่วนเรื่องทางภาครัฐมีการปิดบังเรื่องการค้นพบสิ่งมีชีวิตต่างดาวต่อสาธารณชนนั้น ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะนาซาพยายามส่งยานอวกาศไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาหลักฐานของเอเลี่ยนมาโดยตลอด
ศึกษาเอกสารที่พึ่งเปิดเผยมาจากสำนักงานข่าวกรองสหรัฐฯได้ที่ - https://www.dni.gov/files/ODNI/documents/assessments/Prelimary-Assessment-UAP-20210625.pdf
โฆษณา