ใช้ ทั้งสองระบบ ครับ
ผมใช้ วินโดวส์โฟน และ แอนดรอยด์ มาก่อน
ส่วนไอโฟน ราคาที่ต่างแบบน่ากลัว
แต่ด้วยคำชื่นชม ของไอโฟน
เมื่อเราพอมีปัญญาซืัอจึง ทดลองใช้
ได้ 3-4 ปี
สรุป ได้ว่า
เนื่องด้วย ระบบ มันทำงานต่างกัน
มีข้อดีข้อด้อย ต่างกัน
แต่ทำได้ เหมือนกัน ในแบบของมัน
ในฟังชั่น พื้นฐานทั่วไป ไม่มีความต่างกัน
ปัญหา ของ แอนดรอยด์ มันเป็นระบบเปิด คล้ายๆ วินโดวส์พีซี ความเข้าใจการใช้งาน คล้ายกัน
ที่เจอบ่อย ก็ ที่ software เป็นหลัก
ด้าน hardware ก็เป็นไปตาม สเป็ค ไม่เกินคาดหวัง
ปัญหา ไอโฟน มันเป็นระบบปิด มีข้อจำกัด ต่างๆ มากมาย
การจัดการ แรมที่ต่างกัน
ปัญหา ที่เจอบ่อย
- เล่นเกมส์ค้าง กลับมาเริ่มใหม่
- คียบอร์ด บังช่อง
- พิมพ์ข้อความ ค้างไว้ กลับมาหาย
- แอปที่เคยใช้ได้อิสระ ถูกจำกัด
- แอปฟรีน้อย โฆษณาไม่ต่างกัน
- แอปมีข้อจำกัด มากกว่า ใช้ฟรีได้น้อยกว่า
- หาข้อมูลการแก้ปัญหาการใช้งานได้น้อย โดยเฉพาะปัญหา เชิงลึก
- เสียงเรียกเข้า ต้องซื้อ
- อุปกรณ์เสริม แพงกว่า แม้ทำได้เหมือนกัน
- ไฟล์ถูกแบ่ง เฉพาะแอป
- แอปถูกแบ่งการใช้ พื้นที่
ทำให้ 1 ไฟล์ ต้องเพิ่ม ใหัอีกแอป ได้ใช้
เช่น ไฟล์เพลง 1000 เพลงใช้ได้ 1 แอปเครื่องเล่นเพลง แอปเล่นเพลงอีกอัน ต้อง copy มาใส่ กลายเป็น 1000+1000 ไฟล์ในเครื่อง เปลืองพื้นที่ ทั้งที่โดยจำกัดอยู่แล้ว
- ต้องมี คอมพิวเตอร์ ในการ จัดการไฟล์
- การนำไฟล์ เข้าออก โดยเฉพาะขนาดใหญ่ ต้องใช้ คอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเป็น ระบบเดียวกันทำได้ง่ายกว่าจริง
- การเชื่อมต่อทุกอย่าง การชาร์จ WiFi Bluetooth ระบบอื่น ถูกจำกัด ด้วย software
- แบตเตอรี่ ความจุน้อย อยู่ได้แค่พอใช้
- ระบบชาร์จ ถูกจำกัดกว่า ยี่ห้ออื่น หากอยากชาร์จไว ต้องทำใจ
- ขายต่อ ไม่ง่าย ไม่ได้ราคาอย่างที่คิด จากประสบการณ์ ลด 45% จากราคาใน แอปเปิ้ลสโตร์ เครื่อง 1-2 ปี พร้อม เคสหลายแบบ ฟิล์มหลายชิ้น มีประกัน 5-8 เดือน ยังขายไม่ออก
ปัญหาที่ ว่ามา ทำให้ ไม่อยากใช้ ในช่วงแรก ๆ
ข้อดี ไอโฟน
ใช้แล้ว เท่ห์
แอปไม่ค่อย งอแง
(ไม่ค่อยได้ใช้แอป แปลกๆ บอกอะไรไม่ได้มาก)
ใช้แอป จาก google พอช่วยให้ชินได้
สรุป หากใช้อย่างเดียว ไม่เล่นอะไรมาก
ใช้ตามเขาสั่ง ก็โอเคนะ
เน้นใช้แบบไม่รู้อะไร สักพักก็เคยชิน มันเข้าใจง่ายถ้าไม่ค่อยรู้เรื่อง จะไม่หงุดหงิด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
