30 ต.ค. 2022 เวลา 01:18 • ปรัชญา
คิดที่จะเป็นมังกร เสือสิงห์กระทิงแรดต้องยอมสยบใต้ปีก
"มังกรย่อมเปลี่ยนแปรตามสถานการณ์ ยามใหญ่ก็ฟ้อนเมฆเหินหาว ยามเล็กก็ซ่อนตัวตน ยามปรากฎก็ผงาดกลางฟ้า ยามเร้นกายก็แทรกบังอยู่ในคลื่น" – โจโฉ -
โจโฉเป็นคนแปลก เรื่องราวของเขามีหลายมุมมอง เรื่องราวของโจโฉล้วนแต่กล่าวในทาง “สุดโต่ง” ได้ทั้งหมด ประเด็นนี้น่าสนใจ
น่าสนใจ 1 โจโฉเป็นคนใจกว้างและใจแคบ น่ารักและชั่วช้า รักเดียวและเจ้าชู้ ปล่อยวางและยึดมั่น เมตตาและโหดเหี้ยม รับฟังและไม่ยอมฟัง ถ่อมตัวและหยิ่งผยอง แกล้งโง่และอวดฉลาด อีกทั้งยังเป็นนักการเมือง นักกวีและนักการทหารในคนๆเดียวกัน
1
น่าสนใจ 2 ไม่ว่าเขาจะเป็นรัฐบุรุษหรือว่าทรราช หากแต่ในทางการเมืองในสามก๊ก โจโฉคือผู้ที่เกรียงไกรที่สุด
แล้วแต่ใครจะหยิบยกมุมมองไหนขึ้นมากล่าว
…..
วิชชา (ย.)ยอม : ยอมถอยหนึ่งก้าว อนาคตเปิดกว้าง
แต่ประเด็นที่น่ายกมากล่าวคือ ทำยังไงคนที่เก่งๆขนาดนั้นถึงจะมาทำงานให้เราได้ แม้ว่าจะเคยเป็นศัตรูหรือว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อนก็ตาม นี่คือวิสัยทัศน์และความใจกว้างของโจโฉ
จะสังเกตได้ว่าลูกน้องของโจโฉส่วนใหญ่ล้วนแต่เคยอยู่ฝั่งศัตรูมาก่อนทั้งนั้น เช่น เตียวเลี้ยว เตียวคับ ซุนฮก กุยแก เขาฮิว กาเซี่ยง
…..
คิดที่จะเป็นมังกร เสือสิงห์กระทิงแรดต้องยอมสยบใต้ปีก
***** โจโฉนั้นเข้าใจดีในหลักการที่ว่า คนเรานั้นย่อมแตกต่างหลากหลาย มากมายสีสันไม่มีใครบริสุทธิ์ ผุดผ่อง
1
"ชูจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน"
ต่อยอดจากจุดแข็งของแต่ละคน ส่วนจุดอ่อนยินดีปิดตาหนึ่งข้าง
ด้วยเหตุนี้ เว่ยก๊กจึงมากล้นด้วย ทรัพยากรบุคลากรเปรียบได้กับทะเลรับน้ำได้หลายร้อยสาย
การบริหารคนของโจโฉใช้ความสัมพันธ์ทั้ง5
1. ชื่อเสียง-เนื้อแท้
บางคนมีชื่อเสียง แต่ ไม่มีความสามารถ
บางคนมีความสามารถ แต่ยังไม่มีชื่อเสียง
เน้นย้ำที่เนื้องาน "ไม่ใส่ใจชื่อเสียงจอมปลอม เน้นย้ำความเป็นจริง"
เช่น เล่าปี่ ช่วงสร้างตัว ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสู้โจโฉได้เลย แต่โจโฉกลับมองทะลุเปลือกว่า สติปัญญาของเล่าปี่ นั้นไม่ธรรมดา เปรียบได้ดั่งนกที่ปีกกล้าขาแข็งกำลังจะออกโผบิน
2.คุณธรรม-ความสามารถ
คุณธรรม นำ ความสามารถ (ยามสงบ)
ความสามารถ นำ คุณธรรม (กลียุค)
"ขอเพียงเก่ง ยินดีอุ้มชู"
เช่น เทียหยก อาจจะโผงผางบ้าง แต่โจโฉก็รู้ดีว่า เค้าต้องการใช้งาน ความสามารถไอ้หมอนี่ ,ไม่ต้องการใช้งานคุณธรรมของเทียหยก
3. ซื่อสัตย์-ละโมบ
มุ่งใช้ขุนนางมือสะอาด แต่ก็ไม่สนใจกับความผิดเล็กๆน้อยๆ รู้ว่า ความต้องการของลูกน้องคืออะไรก็ตอบสนองให้แบบ “ถึง”
4. ปล่อยวาง.....ไม่ถือสาเรื่องราวในอดีต
แปลงศัตรูให้เป็นมิตร
เช่น เตียวสิ้ว ในอดีตเคยสังหาร โจงั่งลูกชายคนโตของโจโฉ แต่เพื่อเป้าหมาย โจโฉยอมจับมือทำงานกับเตียวสิ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
5. ภาพใหญ่-ภาพเล็ก
มองภาพรวม ยึดถือในเรื่องใหญ่
ไม่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวม
1.การใช้คนต้องแยกออกเป็น3อย่าง
1. รู้ว่าคนไหนมีความสามารถ
2. รู้ว่าคนที่มีความสามารถนั้น มีความสามารถด้านไหน
3. รู้ว่าจะใช้คนนั้นจะใช้อย่างไร ในตำแหน่งใดจึงจะเหมาะสม
2.จริงใจ,เชื่อใจ,ใช้คนไม่ระแวง
ในฐานะการเป็นผู้นำจึงจำเป็นต้อง แสดงความจริงใจความเชื่อใจออกมา ให้เป็นที่ประจักษ์
3. คำสั่งกฎเกณฑ์คุณโทษชัดเจน เข้มงวดในวินัยกองทัพไร้ซึ่งวินัย ไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ โจโฉได้ทำเป็นตัวอย่างอีกด้วย
4. จิตใจเปิดกว้าง ยกคนเก่งเหนือกว่าตนเอง
ความชอบขอมอบให้ท่าน เมื่อผิดยกย่องผู้ทัดทาน แล้วกลับมาพิจารณาตัวเอง
เมื่อครั้งที่โจโฉต้องเปิดศึกกับอ้วนเสี้ยว ทุกๆฝ่ายจะต้องดึงพันธมิตรและสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝ่ายตนให้มากที่สุด
หนึ่งในพันธมิตรที่โจโฉจะต้องดึงมาเป็นพวกก็คือ เตียวสิ้ว
เตียวสิ้วสร้างรอยแค้นให้แก่โจโฉมากมาย ทั้งสังหาร บุตรชายคนโต หลานรัก องค์รักษ์ของโจโฉ แต่โจโฉจำเป็นที่จะต้องใช้คน และหนึ่งในคนนั้นก็คือเตียวสิ้ว เพราะเตียวสิ้วคือปราการทางทิศใต้ของเมืองหลวงฮูโต๋และเป็นตัวแปรสำคัญต่อการศึกครั้งนี้
เมื่อเตียวสิ้วและกาเซี่ยงเดินทางเข้ามาพบโจโฉเพื่อสวามิภักดิ์ โจโฉถึงขั้นลุกออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง พูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบ
การพูดคุยเป็นไปด้วยมิตรภาพ ราวกับไม่มีเรื่องราวความแค้นในอดีตเคยเกินขึ้นมาก่อน พร้อมทั้งแต่งตั้งให้เตียวสิ้วเป็นขุนพลที่หยังอู่เจียงจวิน และแต่งตั้งกาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว
3
โจโฉเลือกที่จะปล่อยวาง ความแค้นส่วนตัว ทั้งที่ความแค้นส่วนตัวในระดับนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะอภัยให้ได้ในเรื่องความรู้สึกของมนุษย์รวมไปถึงคำสอนขงจื๊อที่มองว่าการล้างแค้นคือคุณธรรมความถูกต้อง ทว่าโจโฉสามารถก้าวผ่านสิงสิ่งนี้ไปได้สบายๆเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเขาใหความสำคัญกับเป้าหมาย นั่นคือการโค่นล้มอ้วนเสี้ยวและรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่ง
ข้อสรุป
1.ทำยังไงคนที่เก่งๆขนาดนั้นถึงจะมาทำงานให้เราได้ แม้ว่าจะเคยเป็นศัตรูหรือว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อนก็ตาม นับว่าโจโฉทำได้และทำได้ดีด้วย
2.คิดที่จะเป็นมังกร เสือสิงห์กระทิงแรดต้องยอมสยบใต้ปีก
โจโฉนั้นเข้าใจดีในหลักการที่ว่า คนเรานั้นย่อมแตกต่างหลากหลาย มากมายสีสันไม่มีใครบริสุทธิ์ ผุดผ่อง
ปัจจุบันแนวคิดการใช้คนของโจโฉ ได้ถูกนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นนำไปประยุกต์ใช้ จนญี่ปุ่นสามารถสร้างสรรคค์นวัตกรรมแปลกๆใหม่ๆได้เสมอ
3.แนวคิดเรื่องการใช้คนของโจโฉ ภายหลังผู้ที่นำมาต่อยอดและประสบความสำเร็จสูงสุดคือ หลี่ซื่อหมิน(ถังไท่จง) ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ถัง บุคคลที่ว่ากันว่าในรอบ 1,000ปีจะมีคนแบบนี้สักคน แต่เรื่องนิสัยของโจโฉ หลี่ซื่อหมินเลือกคัดกรอง โดยมีเว่ยเจิงเป็นจุดคัดกรองสิ่งไม่ดี (หลี่ซื่อหมิน จะขอเขียนถึงวันหน้าครับ)
ขอบคุณครับ #พลิกชีวิตตามแบบสามก๊ก
โฆษณา