Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ข่าวไฮไลท์ญี่ปุ่น
•
ติดตาม
31 ต.ค. 2022 เวลา 00:34 • ข่าว
โศกนาฏกรรมฮาโลวีน “อิแทวอน” ดับ 156 ราย
ญี่ปุ่นวิเคราะห์ หวั่นย่านชิบุย่าซ้ำรอย
เช็ครับมือ & CPR แจงละเอียดเหตุการณ์ล่าสุด
ภาพ: เหตุโศกนาฎกรรมฮาโลวีน "อิแทวอน" คลื่นของฝูงขนล้มทับดับแล้วล่าสุดเพิ่มอีก 2 รวม 156 ราย
เหตุการณ์โศกนาฏกรรมย่านนอิแทวอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่เกิดขึ้นล่าสุด เมื่อวันคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ต้องแสดง
ความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวญาติมิตรผู้เสียชีวิต และขอเป็นกำลังใจให้ผู้บาดเจ็บหายเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล ควรที่เราจะได้เรียนรู้
เชิงป้องกัน ที่พึงมีโอกาสจะเกิดขึ้น อย่าให้เกิดซ้ำอีก กันไว้ดีกว่าแก้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีงาน หรือเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณี งานลอยกระทง
งานเค้าท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ หรือ
งานใดๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กันก็ตาม
ที่จะมาถึงในกาลข้างหน้า
ข่าวโศกนาฎกรรมคืนก่อนวันฮาโลวีนที่น่าสนุก ทุกคนรอคอยมาเที่ยวกันในรอบประมาณ 3 ปี อันสืบเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19 กลายเป็นเรื่องโศกเศร้า เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นกับฝูงชนนับหมื่นคน ที่ส่วนใหญ่
เป็นคนรุ่นหนุ่มสาว ช่วงประมาณวัย 20 ปี บนถนนในย่านการค้า ซึ่งเป็นตรอกเล็กๆ ที่คับแคบสำหรับฝูงชนตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน อันเป็นที่ตั้งของ
คลับบาร์ต่างๆ ในย่านอิแทวอน (Itaewon) กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ได้เกิดเหตุขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565
ในเวลาประมาณ 22:15 น.
เวลาท้องถิ่นของประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านมา
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากความแออัด
เบียดเสียดของผู้คนแล้ว บนท้องถนนก็มีกลุ่ม
เครื่องดนตรีที่บรรเลงเสียงดังกระหึ่ม ร้องเพลงบ้าง เต้นบ้าง ซึ่งหลายข่าวรายงานว่า เกิดขึ้นหลังจากมีศิลปินชื่อดังเข้าไปในร้านเหล้าใต้ดินชั้น 1 ในย่าน
ดังกล่าว ทำให้ผู้คนบางส่วนมุงกันไปดู
ในขณะที่ข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า
ผู้คนที่ไปที่นั่น นั้น มีจำนวนมากที่แต่งกาย
ด้วยชุดฮาโลวีน เริ่มเข้าแถวตามร้านเหล้า
ตลอดถนนหลักในช่วงเวลาประมาณ 20:00 น.
ซึ่งแม้จะเป็นระยะทางไปกลับเพียงประมาณ
200-300 เมตร แต่ก็ต้องใช้เวลา
เดินไปและกลับถึงประมาณครึ่งชั่วโมง
แล้วผู้คนเริ่มรู้สึกผิดปกติ เมื่อเวลาประมาณ 22:30 น. เมื่อพบว่า มีเสียงไซเรนรถพยาบาลดังขึ้นในบริเวณ
ใกล้เคียงหลายคัน และมาทราบภายหลังว่า เกิดเหตุผู้คนเหยียบกันขึ้น สร้างความสะเทือนขวัญให้กับ
ผู้เห็นเหตุการณ์อย่างที่ไม่มีใครคาดฝันมาก่อน
ณ เวลานี้ มีคนงานผู้เสียชีวิตแล้ว 154+ล่าสุดอีก 2 คน คน ประกอบด้วย
ชาวต่างชาติ 26 คน (ซึ่งมีคนไทย 1 คน กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
เปิดเผยว่ามีหญิงสาวชาวญี่ปุ่น 2 คนเสียชีวิต โดยเป็นหญิงวัย 18 ปี 1 คน
วัย 20 ปี 1 คน) ซึ่งในจำนวนนี้ มี 140 กว่าคนที่เสียชีวิตที่ยืนยันตัวตนได้แล้ว
อีก 172 คนบาดเจ็บ ซึ่งในจำนวนนี้ มี 33 คนที่บาดเจ็บสาหัส
จำนวนผู้เสียชีวิต 154+ ล่าสุดอีก 2 คน ประกอบด้วย:
<อายุที่เสียชีวิต>
วัย 10 ปี: 11 คน
วัย 20 ปี: 103 คน มีจำนวนมากที่สุด
รองลงมา คือ วัย 30 ปี 30 คน
<เพศที่เสียชีวิต>
ชาย 55 คน
หญิง 101 คน
<ชาวเกาหลีใต้>
วัย 10 ปี 11 คน
วัย 20 ปี จำนวนมากที่สุด 103 คน
<ชาวต่างประเทศที่เสียชีวิต 26 คน>
หญิงชาวไทย 1 คน
หญิงชาวญี่ปุ่น 2 คน
ชาวอิหร่าน 5 คน
ชาวรัสเซีย 3 คน
ชาวสหรัฐอเมริกา 2 คน
และออสเตรเลีย ฯลฯ
จำนวน 14 ประเทศ
รวมชาวต่างประเทศเสียชีวิต 26 คน
สำนักข่าวและสมาพันธ์ข่าวของเกาหลีใต้ รายงานข้อมูลจากแพทย์ที่ช่วยชีวิตผู้คนในที่เกิดเหตุว่า
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่หายใจไม่ออก ขาดออกซิเจนในการหายใจ และส่วนใหญ่ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้
แม้จะพยายามช่วยเหลือในการปั้มหัวใจแล้วก็ตาม
ภาพ: ภาพเหตุการณ์ความแออัดเบียดเสียดองคลื่นมนุษย์ในวันที่เกิดเหตุ
สื่อท้องถิ่นแจ้งว่า มีพยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้คนจำนวนมาก เป็นคลื่นมนุษย์ที่เบียดเสียดล้มระเนระนาดทับกันมาเรื่อยๆ คนแล้วคนเล่า โดยผู้ที่ถูกบีบอัด
แบบสุชิในคลื่นมนุษย์ที่ถูกโยกไปโยกมา
แม้จะตระโกนว่า “อย่าผลัก อย่าผลัก” ก็ตาม
จากเสียงตะโกนได้กลายเป็นเสียงกรีดร้อง ที่กำลังสับสนอลหม่าน แล้วถูกทับซ้อนกัน 5,6 คน
ล้มเป็นโดมิโน บางคนปีนหนีขึ้นไปบนกำแพงบ้าง
วิ่งเข้าไปในร้านอาหารบ้าง บ้างหมดลมหายใจเสียชีวิตในท่ายืน ขณะที่มองเจ้าหน้าที้รักษาความปลอดภัยที่จัดเตรียมมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับ
ฝูงชน
เริ่มจากบนเนินภายในตรอกที่คับแคบ ขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาวประมาณ 45 เมตร กว่าที่กู้ภัยจะ
ฝ่าฝูงชนที่แออัดหนาแน่นเข้ามาได้ ก็ต้องใช้เวลานาน
แต่ยังไม่ทราบคนละเอียดชัดเจนว่า ปัญหาทั้งหมด
ที่แท้จริงเกิดจากอะไร
ขณะนี้ ตำรวจได้วางกำลังพลประมาณ 500 นายจัดตั้งเป็นกองอำนวยการสืบสวนสอบสวน สอบถามพยาน
ผู้เห็นเหตุการณ์ หาสาเหตุความเป็นมาของอุบัติเหตุ
ที่เกิดขึ้น พร้อมตรวจสอบดูด้วยว่า องค์กรปกครอง
ท้องถิ่นที่ดูแลได้มีการจัดการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ที่พึงจะเกิดขึ้นล่วงหน้าด้วยหรือไม่ พร้อมรองรับ
ความช่วยเหลือต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ
ภายในสถานที่ในกรุงโซล ก็มีกลุ่มคนที่รวมตัวกัน
เพื่อติดตามหาผู้ที่ติดต่อไม่ได้ บางคนบอกด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีว่ายังคิดต่อไม่ได้ และไม่พบชื่อผู้ที่ติดต่อ
ไม่ได้ในรายชื่อผู้เสียชีวิตด้วย มีชายชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในกรุงโซลมาพร้อมกับเพื่อน 3คน พบว่า เพื่อน 1 คนเสียชีวิต ส่วนอีก 2 คน เข้าโรงพยาบาล
จากเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าผู้คนชุมนุมกันอย่างหนาแน่นในย่านดังกล่าว จนแออัดยัดเหยียด เบียดเสียด เหยียบกัน หรือถูกบีบอัดไปที่ผนัง หรือตึก ผู้คนกับผู้คนถูกดันเข้าหากันจนมีอาการแน่นหน้าอกในลักษณะท่ายืน จนหายใจไม่ออก ด้วยความทรมานที่จะเงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอากาศหายใจ
แต่ก็ทำได้ยากมากๆ จนขาดอากาศหายใจ
หัวใจหยุดเต้น จนบาดเจ็บ หมดสติ ล้มเป็นโดมิโน หรือถึงแก่ชีวิต
ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นในหลายๆ งาน และในหลายประเทศ และมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดขึ้นอีก ควรที่จะระมัดระวังป้องกันล่วงหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิดระบาด จากการปรับ
ระดับโควิด จากโรคติดต่ออันตคนเป็นโรคติดต่อ
ที่พึงเฝ้าระวัง ผู้คนเริ่มมีความมั่นใจออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น หลังจากอดทน เว้นห่าง 2 ปีกว่า เกือบ 3 ปีนี้
ภาพ: ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซ็อกยอล ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ย่านอิแทวอน
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังคืนอุบัติเหตุ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซ็อกยอล ก้ได้รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับแถลงกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบประธานาธิบดี ว่า
“นับเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงยิ่ง อันเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ขอให้ผู้เสียชีวิตจงไปสู่สุคติ
และไว้อาลัยด้วยการลดธงครึ่งเสา และ
ขอให้ผู้บาดเจ็บจงหายเป็นปกติโดยเร็ว”
นอกจากนี้ ยังได้ย้ำว่า “จะตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุให้ถ่องแท้ พร้อมกับจะวางมาตรการอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเดียวกันนี้อีกต่อไป ” และประกาศจะกำหนดช่วงเวลาการไว้อาลัยในระดับประเทศตามช่วงเวลาที่กำหนดอีกครั้ง
เพื่อจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น”
ภาพ: ทวิตเตอร์ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายฟุมิโอะ คิชิดะ กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง
นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นก็ได้กล่าวในทวิตเตอร์ของท่านเองว่า “ขอแสดงความรู้สึกสะเทือนขวัญและเสียใจอย่างยิ่งต้องการสูญเสียของชีวิตที่มีค่ามากมาย ที่มีตั้งแต่คนหนุ่มสาวที่มีอนาคตสดใสในอุบัติเหตุอันน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่เกิดขึ้น
ที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล ขอแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและครอบครัวผู้เสียชีวิต และ
ขออธิษฐานขอให้ผู้บาดเจ็บทั้งหลาย
จงหายเป็นปกติโดยเร็วที่สุด”
จากการได้รับคำยืนยันว่า มีหญิงชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต
2 คนนี้ กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นก็ได้จัดตั้งห้องอำนวยการขึ้นในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่
30 ตุลาคม 2565 โดยมีนายอันโด กงสุลใหญ่เป็น
ผู้อำนวยการสูงสุด เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่อไป นอกจากนี้ ยังจัดตั้งกองอำนวยการที่กรุงโซล
ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีนายไอโบชิ เอกอัครราชทูตประจำกรุงโซล เป็นผู้อำนวยการสูงสุดเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
ภาพ: ญี่ปุ่นหวั่นซ้ำรอย เนินสเปน ในตรอกชิบุย่า กรุงโตเกียว ที่คล้ายกับตรอกในอิแทวอน กรุงโซล
ประเทศญี่ปุ่นก็มีความกังวลว่า เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวข้างต้น จะเกิดขึ้นในวันฮาโลวีนซึ่งตรงกับ
วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 นี้ แถบย่านชิบุยะด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับที่มืองอิแทวอน (Itaewon) คือ เป็นตรอก ที่เรียกเนินสเปนเป็นทางแคบๆ มีสามแยกเป็นทางสามแพร่ง แล้วเป็นตรอกที่เป็นทางลาดลงไป มีคลับบาร์อยู่สองข้างทาง ผู้คนนิยมแต่งคอสเพลย์ต่างๆ ไปเดินเล่นและเที่ยวกันในช่วงฮาโลวีนนี้ จะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับ
ที่เกาหลีใต้หรือไม่ สื่อต่างๆ ก็ได้แสดงความน่ากังวล
ผู้ปกครองที่มีบุตรบางคนให้ความเห็นว่า จะหลีกเลี่ยงไม่ไปในที่มีคนหนาแน่น และจะกลับก่อนมืดหลังจาก
มาชมแล้ว บางคนให้ความเห็นว่า จะต้องตระหนักอยู่เสมอ หากพลาดแม้สักก้าวหนึ่ง ก็อาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ได้ อุบัติเหตุนั้น เป็นเรื่อง
น่าเศร้ายิ่ง บางคนกล่าวว่า หากทุกคนดื่มกันแล้ว
ก็คงจะเกิดความสับสนอลหม่านกันได้ง่ายขึ้น
ด้านศาสตราจารย์เกียรติคุณโยชิเทรึ มุโรซากิ
ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรเทาสาธารณภัย
มหาวิทยาลัยเฮียวโกะ (University of Hyogo)
นักวิจัยคนแรกด้านการวิจัย
สาขาการป้องกันสาธารณภัยชี้ว่า ในสภาพที่
มีความหนาแน่นสูงมากมารวมกันแล้วเกิดฝูงชนถล่มแบบหิมะ (Crowd avalanche) ได้ ดังเป็นที่เคยรู้เห็นมาตั้งแต่ในอดีตที่คาดว่าในครั้งนี้ก็คงจะเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยผู้ที่อยู่ข้างหลังผลักกันเข้ามาและเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ล้มกันระเนระนาดทับซ้อนกัน
ในอดีต เมื่อปี 2544 ประเทศญี่ปุ่น ก็เคยประสบอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าว ในงานมหกรรมดอกไม้ไฟที่เมืองอาคาอิชิ จังหวัดเฮียวโกะ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่คอยกำกับดูแลโดยใช้โทรโข่งประกาศให้เดินไปข้างหน้าตามลำดับ ณ ขณะนั้น เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ
20:45 น. ที่มีการดันกันไปดันกันมาบนสะพานลอยระหว่างผู้ชมที่กำลังมุ่งหน้าไปชมดอกไม้ไฟที่บริเวณงาน กับผู้ชมที่กำลังจะกลับบ้าน เกิดอุบัติเหตุล้มทับกันที่ร้ายแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน (ประกอบด้วยเด็กที่อายุต่ำกว่า 9ขวบ 9 คน ที่ถูกดันจนหน้าจมหายไปจากผู้ปกครองบ้าง
โดยผู้ปกครองเด็กคนหนึ่งในเหตุการณ์ที่ว่านี้
ให้การว่า ต้องเงยหน้าในลักษณะเหนื่อยหอบ
จึงจะหายใจได้ในช่วงเวลา 2.30 ชั่วโมง )
ผู้บาดเจ็บ 247 คน ซึ่งสาเหตุของฝูงชนที่ล้มทับกัน
ในเวลานั้น นั้น
ศาสตราจารย์เกียรติคุณโยชิเทรึ มุโรซากิ ที่สำรวจตรวจสอบ ณ เวลานั้น ได้วิเคราะห์เหตุฝูงชนที่ล้มแบบหิมะถล่มในครั้งนั้นว่า “ประการแรก คือ สภาพที่แออัดหนาแน่นเกินจากที่คาดคิดไปมาก ซี่โครงกับซี่โครง
ปะทะกันและกันจนเกิดเสียง
ในลักษณะที่มีความหนาแน่นของประชากร 15 คนต่อตารางเมตร โดยไม่ได้ยืนหยัดด้วยตัวของตัวเอง แต่เกิดจากการพยุงตัวซึ่งกันและกัน แล้วบังเอิญ ณ ที่นั้น เกิดกระเป๋าลม (air pocket) ณ จังหวะนั้น แล้วฝูงชนนั้น เกิดการล้มคลืนเหมือนหิมะที่ล้มคลืนลงไปในช่องว่าง แล้วเกิดปรากฏการณ์ที่คนล้มทับกัน“
เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่กรุงโซล เกิดขึ้นในตรอกแคบๆ ที่เป็นเนิน ซึ่งในเนินสเปน ที่ย่านชิบุยะ ของญี่ปุ่นที่
คราคร่ำไปด้วยผู้คน ก็ถูกมองว่า ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล
ย่านชิบุยะ กรุงโตเกียวก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ เนื่องจากตามทางเดิน มีคนค่อนข้างล้นหลาม
ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว
วันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันฮาโลวีนที่คึกคัก
จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้
ตำรวจนครบาลจึงได้มีการสั่งการให้เข้มงวดเรื่องการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยผู้กำกับดูแลของตำรวจนครบาลได้สั่งการให้คอยจัดการแนะนำชี้ทางไม่ให้คนมากองรวมกันมากๆ
มาตรการที่ศาสตราจารย์เกียรติคุณผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ คือ ไม่ควรจะให้เกิดความหนาแน่นมากเกินไป ควรกระจายด้วยการแบ่งกลุ่มในระดับหนึ่ง การเว้นระยะห่างให้มีช่องว่างที่เว้นไว้จึงมีความสำคัญ
อย่างมาก
จากอุบัติเหตุการบีบอัด ล้มทับกัน จนบาดเจ็บ เสียชีวิต เพราะหายใจไม่ออก ขาดอากาศหายใจ กับวัยรุ่น
ส่วนใหญ่ที่เป็นความหวังของอนาคต สร้างความสะเทือนขวัญและขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวและญาติมิตรที่เกี่ยวข้อง
ภาพ: วิธีการทำ CPR กดหน้าอกลงไปตรงกลางอกด้วยความ ลึก 2 นิ้ว ความเร็ว 2 ครั้ง/วินาที จนฟื้นชีพ หรือจนกว่าหน่วยกู้ภัยมาถึง
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ การเรียนรู้วิธีการทำ CPR เพื่อปั้มหัวใจช่วยชีวิตคน จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในเวลาที่
มีคนหมดสติ
CALL PUSH STAYIN ALIVE
โทร.191 หรือ 1669 หรือ 1745
1. ตรวจดูความปลอดภัยบริเวณรอบๆ ตัวผู้ป่วย เช่นว่า มีของแหลมคม มีกระแสไฟฟ้า มีน้ำมัน มีไฟ หรือสิ่งอันตคนอื่นๆ หรือไม่ ถ้าดูไม่ปลอดภัย อย่าเพิ่งเข้าไป เรียกกู้ภัยมาช่วยดีกว่า
2. เช็คลมหายใจ เขย่าตัวว่าหมดสติจริง
โดยการตีไหล่ แล้วเรียกด้วยเสียงดัง 4-5 ครั้ง
หากผู้ป่วยยังรู้สึกตัว หายใจเองได้ ให้จับนอนตะแคง รอการช่วยเหลือ โทร.1669 ไม่ควรทำ CPR
ขณะที่ผู้ป่วยยังมีสติ
3. ถ้าผู้ป่วยยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ ไม่ได้สติ
ไม่ลืมตาจริงๆ หรือไม่หายใจ (ชีพจรหยุดเต้น คือ
หยุดหายใจ) ให้รีบโทร. 1669 เช่นกัน แจ้งทีมงานว่า ผู้ป่วยไม่ได้สติ หยุดหายใจ ให้นำเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือ AED มาด้วย
4. แล้วเริ่มปั้มหัวใจ โดยไม่ใช้ปาก
ด้วยการจับผู้ป่วยนอนหงาย นั่งคุกเข่าข้างผู้ป่วย
5. วางสันมือข้างหนึ่งตรงกลางระหว่างหน้าอก
ระดับเดียวกับหัวนมพอดี
6. แล้ววางมืออีกข้างหนึ่งทับประสานกันไว้
โดยประกบนิ้ว คว่ำมือ ล็อกนิ้วทั้งห้าไว้
7. เริ่มกดหน้าอกลงไปตรงกลางอก
ด้วยความลึก 2 นิ้ว หรือกดลึกลงไปราวๆ
5-6 เซ็นติเมตร ให้แรงๆ เร็วๆ
8. กดในระยะ 2 ครั้งภายใน 1 วินาที หรือ
ในอัตราเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที
9. ควรทำ CPR ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าทีมแพทย์ หรือ หน่วยกู้ภัย หรือรถพยาบาลเคลื่อนที่จะมาถึง
พร้อมกับตรวจเช็คไปด้วย
(กรณีที่มีคนอยู่ด้วยกันหลายคน สามารถสลับกันช่วยเหลือในการปั้มหัวใจแทนได้)
วิธีช่วยเหลือผู้หมดสติ หรือที่เรียกว่า PCR นี้
ขอนำตัวอย่างวิดีโอภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ เข้าใจง่าย
ความยาว 2.25 นาที ที่อาจจะรู้ไว้ใช้ประโยชน์
ยามฉุกเฉิบได้ ดังลิงค์ต่อไปนี้
“ทำ CPR ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างถูกวิธี”
ของ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
https://youtu.be/5p3KjmbGwvw
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก:
-
https://news.yahoo.co.jp
-
https://nordot.app/959474861036552192
-
www3.nhk.co.jp
-
https://youtu.be/x7SWT1qjRhs
-
https://bangpakok3.con/care_blog/view/39
-
https://youtu.be/5p3KjmbGwvw
-
www.pixabay.com
กด “ไลค์ (like)”
กด “แชร์ (share)”
กด “คอมเมนท์ (comment)”
หากคุณชอบคอนเทนท์นี้
อย่าลืม กด “ไลค์ (like)”
หากคุณเห็นว่าคอนเทนท์นี้ มีประโยชน์
อย่าลืม กด “แชร์ (share)”
หากคุณมีข้อเสนอแนะหรือเพิ่มเติมความคิดเห็น
อย่าลืม ส่ง “คอมเมนท์ (comment)”
ด้วยจักขอบคุณยิ่ง
อย่าลืม… ติดตามสาระดีๆ ในตอนต่อไป
ข่าว
เกาหลีใต้
ญี่ปุ่น
บันทึก
2
4
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย