31 ต.ค. 2022 เวลา 01:18 • ไลฟ์สไตล์
“อะไรจะสำคัญกว่าสันติสุขในใจของเรา”
“ … อดทนให้เด็ดเดี่ยวลงไป
เรียนธรรมะต้องสู้ ต้องอดทน ต้องเด็ดเดี่ยว ทนอะไรบ้าง อันแรกเลยทนต่อการสั่งสอนของครูบาอาจารย์ บางทีสิ่งที่ท่านสอนมันกระเทือนกิเลสเรา มันทรมานใจของเรา สิ่งที่ท่านบอกแต่ละอย่าง
คือท่านไม่มาประคบประหงมเชียร์ไปเรื่อยๆ ให้เราสบายใจ อย่างนั้นไม่ใช่ ครูบาอาจารย์จริงๆ จะขัดเรา ถ้ากิเลสเราหยาบหนามาก ก็ลงตะไบ รู้จักตะไบไหม อย่างนี้ หรือถ้าหนากว่านั้นก็เอาขวานถากๆ มันหนามาก
พอภาวนาไปเรื่อย จิตใจละเอียดประณีต ครูบาอาจารย์ก็เอาตะไบ เอากระดาษทรายแต่งนิดๆ หน่อยๆ แต่งๆ นิดหนึ่ง ตรงนี้นิดหนึ่งๆ มันอยู่ที่เรานั่นล่ะจะได้ธรรมะระดับไหน
อยู่ที่ตัวเราเอง
แต่ว่าสิ่งที่ได้จากครูบาอาจารย์มีประโยชน์ทั้งนั้นล่ะ
อย่ามัวแต่น้อยอกน้อยใจ มาขอกำลังใจขออะไร เสียเวลา หลวงพ่อไม่ชอบคนขี้อ้อน เพราะหลวงพ่อไม่เคยอ้อนครูบาอาจารย์ มีแต่สู้เอา
ฉะนั้นเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อก็ต้องต่อสู้ ความอ่อนแอท้อถอยอะไร ไม่มีใครห้ามได้หรอกถ้ามันจะท้อ แต่ท้อแล้วก็ไม่เลิก สู้มัน ขี้เกียจก็ได้ แต่ขี้เกียจแล้วก็สู้มัน ไม่มาคร่ำครวญ
การโอดครวญ คร่ำครวญ เสียหาย จิตใจจะยิ่งอ่อนแอ แล้วถ้ายิ่งมีคนคอยโอ๋ๆๆ จะยิ่งเคยตัว เราไม่ใช่เด็กเล็กๆ ต้องคอยปลอบคอยโอ๋ โตแล้ว ก็ต้องสู้เอาสิ
ชีวิตในโลกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานมากมาย จะพ้นจากโลกอดทนหน่อย ถูกดุถูกด่า ต้องอดทนต่อคำสั่งสอน ต้องอดทนต่อความขี้เกียจของตัวเอง ต้องอดทนไม่ตามใจกิเลส
เห็นไหมต้องอดทนหลายอย่าง
อดทนไม่ตามใจกิเลส กิเลสชวนนอน
ถ้ายังไม่ถึงเวลาสมควรนอนก็อย่าเพิ่งนอน
กิเลสชวนกิน ชวนเที่ยว
ยังไม่สมควรกิน ไม่สมควรไปเที่ยวก็ไม่ไป
ต้องอดทน ไม่ใช่มีสิ่งเร้านิดๆ หน่อยๆ กระโดดโลดเต้นไปแล้ว ได้ยินเสียงกลอง เสียงอะไรอย่างนี้ก็กระโดดแล้ว เต้นแร้งเต้นกาแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่นักปฏิบัติ
อดทน สารพัดจะทนหน่อย อดทนต่อคำสั่งสอน
อดทนต่อกิเลสของเรา
อดทนต่อความขี้เกียจความท้อแท้อะไรพวกนี้
ต้องทน ทนต่อความยากลำบากทางร่างกาย
ทนต่อกิเลส อันนี้เป็นความยากลำบากทางจิตใจ
อย่างทางร่างกาย ควรจะต้องเดินจงกรม มันเมื่อย
เมื่อยก็ต้องเดิน
เมื่อก่อนหลวงพ่อมีลูกศิษย์คนหนึ่งผู้หญิง ทำกรรมฐานอะไรนี่ไม่ได้เลย ต้องเดินๆ อย่างเดียวเลย แกเดินจนแกขาบวม มาทำงานใส่รองเท้าแตะมา เพราะใส่รองเท้าหุ้มอะไรอย่างนี้ หุ้มเท้ามาไม่ได้ เท้ามันบวม
แล้วแกบอกแกขึ้นชั้นสองไม่ได้แล้ว ขอไม่เดินบ้างได้ไหม ขอนั่งได้ไหม
หลวงพ่อบอกถ้าอยากได้ดี เดิน
ถ้าเดินไม่ได้ให้คลานไป
เดินจงกรมไม่ได้ให้คลานจงกรม
อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่หลวงพ่อคิดเอง ครูบาอาจารย์ท่านสอนหลวงพ่อมาอย่างนี้ หลวงพ่อพุธท่านเล่าให้ฟัง บอกมีพระเดินจงกรมจนเท้าแตกแล้วเดินไม่ได้ อันนี้อยู่ในธรรมบท ท่านก็คลานเอา คลานจนหัวเข่าแตก มือแตก ท่านต้องลงไปนอน ท่านก็นอนพลิกตัวไปมา ขยับไปขยับมา
แล้วก็เห็นรูปเห็นนามมันทำงาน
เห็นทุกข์เห็นโทษของกายของจิตอะไรอย่างนี้
ท่านก็ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้
คนนี้หลวงพ่อก็เคี่ยวเข็ญ เดิน ก็อดทน
เดินจนเดินจะไม่ไหวก็ยังเดิน เขาก็เดินจนได้ดี
ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง คนละคน คนนี้ก็เดินๆ ขยัน เดินสู้เอา ทำงานหนัก ทำงานหลายบริษัท ทำธุรกิจ ตกค่ำไปดูแลบ้าน ดูแลลูก ดูแลสามี กว่าจะเสร็จภาระทั้งหมด 5 ทุ่ม ถ้าเป็นพวกเราเหนื่อยทั้งวัน เรานอน เขาเดินจงกรม
ทำไมต้องเดิน ถ้านั่งแล้วหลับ มันเหนื่อยเต็มทีแล้ว เขาสู้ เขาสู้จนเขาได้ดี ดีมาเป็นลำดับๆ ไม่ใช่ของฟรีของฟลุก ไม่ได้ไปจุดธูปขอใครมา ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ อดทนต่อความลำบากทางร่างกาย ทางจิตใจ สู้
ฉะนั้นวันนี้สอนเรื่องอดทน ครูบาอาจารย์สอนก็ทน อย่ามาน้อยอกน้อยใจ สอนแล้วให้ทำอะไรก็รีบๆ ไปทำเข้า
หลวงพ่อเรียนกับท่านพ่อลี ท่านให้ภาวนาหายใจ หลวงพ่อทำอานาปานสติทุกวัน เดี๋ยวนี้ยังทำอยู่เลย ตั้งหลายสิบปีมาแล้ว 60 กว่าปีแล้วยังทำอยู่
หลวงปู่ดูลย์ให้ดูจิต ก็ดูมาเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดหรอก ดูไปเรื่อยๆ อดทน ทนต่อความลำบากทางกาย ทนต่อความลำบากทางจิตใจด้วยอำนาจของกิเลส สู้มัน มันคงไม่แพ้ตลอดกาลหรอก เดี๋ยววันหนึ่งก็สู้ได้ แต่ถ้าไม่สู้ก็แพ้แน่นอน
ถ้าสู้แรกๆ อาจจะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่สุดท้ายจะชนะ แล้วเราจะได้อะไร เราได้รางวัลสำคัญในชีวิต อะไรจะสำคัญกว่าสันติสุขในใจของเรา ทุกวันนี้ที่ดิ้นรนหา หาความสุขนั่นล่ะ แต่มันดิ้นรนไปตามสติปัญญา แค่นี้สุขๆ แล้วมันก็ไม่สุขจริง
ถ้าเราภาวนา เราเข้าถึงสันติสุขที่แท้จริงได้
มันมีความสุขจริงๆ บอกไม่ถูก …”
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
23 ตุลาคม 2565
อ่านธรรมบรรยายฉบับเต็มได้ที่ :
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา