31 ต.ค. 2022 เวลา 11:52 • กีฬา
5 เรื่องสุดหลอนในวงการกีฬา ที่ใครได้ฟังต้องขนลุกขนชัน หลอนขนาดต้องร้องขอชีวิตเลยทีเดียว | Main Stand
ในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน คอนเทนต์ที่เป็นประเด็นทางสังคม กระตุกต่อมอยากรู้อยากเห็น และหลั่งอะดรีนาลีนของประชาชนได้มากที่สุด นั่นก็คือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ "ผี" อย่างไม่ต้องสงสัย
แม้บางสตอรี่จะมีความน่ากลัว ทำขนลุกขนชัน หลอนติดสมองไปสามวันแปดวัน แต่สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่คนนั้นหยุดฟังไม่ได้กันเป็นแถบ ความกลัวนั้นได้ถูกกลบไปด้วยความสนุก ความลี้ลับชวนค้นหา
ซึ่งในความเป็นจริง เรื่องผีนั้น มีอยู่ในทุกสถานที่ ทุกวงการ แม้แต่ "วงการกีฬา" ก็ไม่มีข้องดเว้น
Main Stand จึงพาไปรับชม 5 เรื่องสุดหลอนในวงการกีฬา เพื่อให้ทุกท่านได้ขนหัวลุกไปทุกครัวเรือน ต้อนรับวันฮาโลวีนนี้
สนาม เซนต์ แมรี่ สร้างทับที่ป่าช้า
เรื่องราวดังกล่าวเป็นที่กล่าวขานถึงอย่างหนาหูมานานนม ย้อนกลับไปประมาณปลายยุค 1990s สโมสรเซาธ์แฮมป์ตัน ได้วางแผนทำการสร้างสนามใหม่ขึ้นมาแทนที่ เดอะ เดล ที่ทรุดโทรมลง มีขนาดเล็ก และไม่สามารถขยายเพิ่มเติมได้ หลังจากใช้งานมานานกว่า 100 ปี
โดยบอร์ดบริหารได้เลือกที่ดินสำหรับสร้างสนามใหม่ตรงบริเวณโบสถ์ เซนต์ แมรี่ สถานที่ศักดิ์สิทธ์ประจำเมืองดั้งเดิม โดยทุ่มงบประมาณการสร้างไปกว่า 32 ล้านปอนด์ พร้อมได้ความจุ 35,000 ที่นั่ง และตั้งชื่อให้ว่าสนาม เซนต์ แมรี่ เพื่อเป็นเกียรติแก่พื้นที่ตั้ง
โดยหารู้ไม่ว่า ตัวสนามได้สร้างทับที่ "ป่าช้าเก่า" ทั้งที่ยังไม่ได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ หรือปัดรังควาญใดๆ เลย
10 แต้ม จาก 14 แมทช์แรก เกมในบ้านที่ควรชนะ ก็ดันไม่ชนะไปแบบหน้าตาเฉย หรือที่ควรเสมอ ก็มาพลาดท่าแพ้ไปเสียอย่างนั้น ทำให้แฟนบอลต่างลือกันเซ็งแซ่กันว่า นี่คงจะเป็นอาถรรพ์ของพลังงานบางอย่าง ที่พยายามสาปแช่งพลพรรคนักบุญแดนใต้ก็เป็นได้
นานวันเข้า ผลงานก็เริ่มดำดิ่ง บรรดาบอร์ดบริหารจากที่ไม่เชื่อ ก็จำใจจะต้องตะโกนหาสรรหาหมอผีหรือผู้สื่อวิญญาณจากทุกทั่วสารทิศมาทำการปัดเป่าสัมภเวสีที่ครอบงำสนามเหล่านี้ให้ออกไป ก่อนผลงานจะกลับมาดีอีกครั้ง
ลานประหารที่ กาซี สเตเดี้ยม
เรื่องนี้ออกแนวสยดสยอง และน่าเวทนา มากกว่าอาการขนหัวลุก เนื่องจาก กาซี สเตเดี้ยม แห่งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อแข่งขันกีฬาแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่กลุ่มผู้ก่อการร้ายตาลีบัน ที่ปกครองประเทศอัฟกานิสถาน ยังได้ใช้เป็น "ลานประหาร" ของผู้คนอีกด้วย
มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่ง ขณะที่ทุกคนเข้าสู่สนามเพื่อรับชมการแข่งขันฟุตบอลตามปกติ และเกมกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ ๆ รถกระบะสีแดงวิ่งเข้ามาจอดกลางสนาม ท้ายรถมีผู้หญิง 3 คน นั่งมาด้วย
ในขณะที่คนดูกำลังงง กลุ่มชายที่อยู่ในรถก็ลากคอผู้หญิงทั้งสามคนมาไว้บริเวณกรอบเขตโทษ จากนั้นก็ประกาศว่าหญิงคนนี้ทำผิดหลักศาสนา และในขณะที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว พวกเขาเหนี่ยวไกปืน AK-47 ใส่ไม่ยั้ง และบอกว่าสิ่งที่กระทำลงไปนี้ คือการประหารชีวิต
หลังจากนั้น กาซี สเตเดี้ยม ก็กลายเป็นสถานที่สำหรับตาลีบันในการใช้เป็นลานประหารกลางแจ้ง ตัดหัว, ยิง, ระเบิดร่าง ทุกอย่างที่คุณพอจะนึกออกเคยเกิดขึ้น ณ สนามแห่งนี้ทั้งหมด
ถึงขนาดที่ทำให้ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปอีกเลย เพราะมีเรื่องเล่ามากมายทั้งเสียงโหยหวน และสารพัดผี ที่จะคอยปรากฎกาย ออกมาหลอกไม่หลอน ให้ผู้สัญจรไปมาใกล้ ๆ สนามได้พบเห็น
และจนถึงทุกวันนี้ บางคนไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้สนามแห่งนี้ยามราตรีสักนิดเลยทีเดียว
จิมมี่ ฮอฟฟา กับจิตไม่ปล่อยวาง
จิมมี่ ฮอฟฟา คือชื่อของหนึ่งในตัวละครจากหนังดังเรื่อง The Irish Man ที่ฉายใน Netflix เมื่อหลายปีก่อน โดยเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง และ จิมมี่ ฮอฟฟา ก็มีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดงแทน
ฮอฟฟา เป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวาง เป็นขวัญใจสิงห์รถบรรทุก และเป็นแฟนตัวยงของทีม ดีทรอยต์ ไลออนส์ ชนิดที่ว่าจองตั๋วประจำนั่งที่เดิมทุก ๆ เกมถ้าไม่ติดธุระอะไร ทว่าเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นจากความขัดแย้งกันทางธุรกิจ จนเขาโดนลูกน้องเก่าลักพาตัวไป
ทุกวันนี้ยังไม่มีคนพบศพของเขา บ้างก็ว่าโดนถ่วงน้ำไปแล้ว หรืออีกกระแสหนึ่งเล่าว่าศพของเขาโดนโบกปูนฝังบริเวณเอนด์โซนของสนามเหย้าทีม นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แต่เชื่อว่าเป็นการอำพรางศพ เอาไปฝังในที่ไกล ๆ ไม่ให้ใครหาเจอ
และด้วยการตายอย่างปริศนานี้เอง อาจทำให้ผีฮอฟฟาต้องการมาสื่อสารอะไรบางอย่างก็เป็นได้ เพราะดันมีคนเจอผีลักษณะคล้ายเขาตรงบริเวณนั้นบ่อยครั้ง
ถึงขนาดมีการตั้งชื่อโซนดังกล่าวว่า "Jimmy Hoffa Memorial End Zone" หรือ "พื้นที่ความทรงจำของฮอฟฟา" เลยทีเดียว
แต่แค่นั้นไม่พอ เพราะยังมีแฟนของทีม ไลออนส์ ที่เคยได้ยินเสียงฮอฟฟาเชียร์ทีมรักในสนามอึกทึกตามลมมาแว่วๆ อีกด้วย
สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผีประชาธิปไตย
มาที่ประเทศไทยกันบ้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลตัว เป็นเรื่องที่หลายต่อหลายท่าน ได้ยินได้ฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งจากการปรากฎในบทเรียน การบอกเล่าในเว็บพันทิป หรือแม้กระทั่งใครโชคดีได้เข้าศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ จะต้องได้รับการติดตั้งให้รับรู้ในประเด็น "การสังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519"
ณ วันนั้น สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หญ้าสีเขียว ได้รับการย้อมให้เป็นสีแดงฉาน ชุ่มโชกด้วยเลือดและน้ำตานอง
นับเป็นประวัติศาสตร์บาดแผล ที่ฝังรากลึกในกลุ่มคนผู้รักประชาธิปไตยแบบลืมไม่ได้จำไม่ลง เป็นความรุนแรงที่ก่อโดยรัฐ และคนไทยกระทำต่อคนไทยด้วยกันเอง แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่สนถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ของบุคคล
เมื่อความตายมาเยือน ทั้งๆ ที่เป้าหมายเรียกร้องไม่อาจบรรลุ นั่นหมายความว่า วิญญาณก็ยังตายตาไม่หลับ ไม่อาจไปสู่สุคติได้
ว่ากันว่า งานรับเพื่อนใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จะต้องมีการแสดง แสง สี เสียง บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสถาบัน ยามใดที่เรื่องราวดำเนินมาถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา
พวกเพื่อนๆ เหล่านี้ ก็จะออกมาปรากฎให้เห็นแบบนั่งชิดติดขอบเวที!
ผีผ้าห่ม ในโอลิมปิก
ยามดึกที่เงียบสงัดในคืนหนึ่ง ณ หมู่บ้านนักกีฬา ได้มีนักกีฬาผู้หนึ่งกำลังนอนแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่
เขาพยายามพลิกตัวไปมา ข่มตาหลับขับตานอนสักพักใหญ่ ก็รู้สึกเหมือนกับว่า มีเสียงครวญครางอยู่ข้างหู ทั้งที่รูมเมทของเขานั้น ก็ได้ผลอยหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว
เสียงดังกล่าวเริ่มดังขึ้นๆ พร้อมกับเสียงกุกกักๆ เหมือนฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย เขาเริ่มกลัวหนักมาก นอนตัวสั่นระริกๆ จนสุดท้าย เขาก็สะดุ้งโหยงขึ้นมาทันควัน และชายหางตาเหลือบไปเห็น…
พระเจ้า! นี่มันผีผ้าห่มชัดๆ
1
เชื่อได้เลยว่า เรื่องราวทำนองดังกล่าวนี้ เป็นที่เลื่องชื่อลือชามาช้านาน เรียกได้ว่าอยู่คู่กับวงการกีฬามาเลยทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬาโอลิมปิก ที่จำเป็นต้องเก็บตัวในหมู่บ้านนักกีฬาในระยะยาวกว่าเดือน อารมณ์อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวเอกา ย่อมเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
ดังนั้น นับตั้งแต่ยุค 1990s เป็นต้นมา จึงได้มีการแจกถุงยางอนามัยแก่นักกีฬาที่เข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ทุกครั้ง
โดยเฉพาะในโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการแจกถุงยางรวม 160,000 ชิ้น ซึ่งแม้จะมากแล้ว แต่ก็ยังน้อยกว่าโอลิมปิก 2016 ที่ริโอเดอจาเนโร ของบราซิลเป็นเจ้าภาพหลายเท่า โดยคราวนั้นมีการแจกถุงยางอนามัยกว่า 450,000 ชิ้น เลยทีเดียว
ที่มา
โฆษณา