“แผนจำกัดเพดานราคาน้ำมัน” ส่งออกโดย “รัสเซีย” อาจล่าช้า
ต้องรอดูความแน่นอนหลัง “การเลือกตั้งกลางเทอมของอเมริกา”
เครดิตภาพปก: บน – Reuters, ล่าง - ALEXEY NIKOLSKY/AFP/Getty Images
- ■“แผนจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบ” ซึ่งส่งออกโดย “รัสเซีย” อาจล่าช้าออกไป เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายพยายามทำให้ตลาดไม่มีความผันผวนและราบรื่น ในช่วงก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของอเมริกา
โดยจะมีการประชุมเพื่อกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบของรัสเซีย หลังวันเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ – อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้กล่าวกับทาง Wall Street Journal
เครดิตภาพ: Dado Ruvic/Illustration/Reuters
- ■กลุ่มผู้นำ G7 กำลังเร่งทำงานเพื่อจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบของรัสเซีย เพื่อช่วงชิงให้น้ำมันของรัสเซียไหลวนอยู่ในตลาดสปอต (Spot market) – อธิบายคำนี้ คือ “ตลาดซื้อขายทันที” เข้าใจง่ายๆคือ ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงราคากัน และส่งมอบโดยจ่ายเงินทันที ตรงข้ามกับตลาดซื้อขายล่วงหน้า หรือ Future market
และในขณะเดียวกันก็จำกัดรายได้ของทางรัสเซียที่เกิดจากการทำสงคราม
- ■“อเมริกา” มีคำสั่งแบนน้ำมันที่ส่งออกมาจากรัสเซีย และเช่นกันสหภาพยุโรป (อียู) จะแบนน้ำมันดิบของรัสเซียโดยสมบูรณ์ เริ่มในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่การกำหนดเพดานราคาน้ำมันจะถูกยื่นให้ทางรัสเซียรับรู้
เครดิตภาพ: Morgan Stanley
แต่กรอบเวลานั้นดูจะมีความเป็นไปได้น้อยลง เนื่องจากทางการไม่ได้วางแผนที่จะกำหนดระดับเพดานราคาจนกว่าจะมีการเลือกตั้งกลางเทอม ในวันที่ 8 พฤศจิกายน
- ■แม้ “กระทรวงการคลังของอเมริกา” จะลอยตัวเพดานราคาน้ำมันสู่ระดับเท่าที่เป็นไปได้ อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ต้องนำมาพิจารณา อันเนื่องมาจากสาเหตุหลักคือ การข่มขู่ของรัสเซียที่จะหยุดขายน้ำมันให้ “แบบสิ้นเชิง” กับประเทศที่เข้าร่วมในแผนการตั้งเพดานราคา
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เครดิตภาพ: Reuters
หากรัสเซียทำตามคำขู่นั้น นั่นอาจส่งผลต่อตลาดพลังงานที่ต้องผ่านคลื่นแห่งความผันผวนอีกระลอก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคะแนนนิยมของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้ง ขณะที่ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ต้องการคงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
Helima Croft หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของ RBC บอกกับ The Journal ว่า
- ●ความล่าช้าของการกำหนดเพดานราคา อาจทำให้สหภาพยุโรปต้องตัดสินใจว่าจะปฏิบัติตามแผนการแบนน้ำมันของรัสเซียอย่างเต็มที่หรือไม่
- ●ซึ่งอาจส่งผลให้การหมุนเวียนสำหรับน้ำมันของรัสเซีย ถูกตัดขาดออกจากตลาด จะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอุปทานอย่างรุนแรงขึ้นก่อนฤดูหนาว และราคาปรับสูงขึ้นตาม
- ■ความไม่แน่นอนของเพดานราคาน้ำมันจะทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้นในตลาดพลังงาน และความกลัวว่ากลไกดังกล่าวจะส่งผลต่อการตัดสินใจของ OPEC+ ที่จะลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน – “Indrawati” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียระบุ
“Indrawati” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เครดิตภาพ: worldfinance.com
- ✓อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าปิโตรเลียมรายใหญ่ เป็นประเทศหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากการกำหนดเพดานราคาและไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนแนวทางนี้หรือไม่ โดยจีนและอินเดียซึ่งกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่สำหรับน้ำมันจากรัสเซีย ก็เลี่ยงที่จะไม่ร่วมด้วย แม้ว่ากระทรวงการคลังอเมริการายงานว่า การเจรจากับทั้งสองประเทศ [จีนและอินเดีย] เกี่ยวกับเพดานราคานั้นออกมาเป็น “แง่บวก”
- ✓นอกจากนี้ การจำกัดราคาน้ำมันของรัสเซียอาจกระตุ้นให้เกิดการแทรกแซงของตลาดสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ – “Indrawati” ระบุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออินโดนีเซียในฐานะผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน นิกเกิล และ น้ำมันปาล์ม (รายใหญ่ของโลก) และเศรษฐกิจของอินโดนีเซียพึ่งพาการส่งออกสินค้าเหล่านี้ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น กระตุ้นความผันผวนทั่วโลก
- ■“กระทรวงการคลังอเมริกา” ได้เปิดเผยรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทเดินเรือและผู้ประกันสินค้า สามารถปฏิบัติตามแผนเพดานราคาได้ แต่ข้อกำหนดปัจจุบันดูเหมือนจะหละหลวม แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้กล่าวว่า บริษัทต่างๆ จะไม่ถูกลงโทษฐานอำนวยความสะดวกในการค้าน้ำมันของรัสเซียนอกกรอบราคา ถ้าเป็นแบบ “ไม่ได้ตั้งใจ”
- ■กระทรวงฯ ยังกล่าวก่อนหน้านี้ด้วยว่า ผู้กำหนดนโยบายทราบดีว่าบริษัทประกันไม่มีทางบังคับใช้เพดานราคาสำหรับน้ำมันของรัสเซียนี้ได้ นั่นอาจหมายความว่ารัสเซียยังคงสามารถส่งออกน้ำมันได้ 80% -90% โดยใช้กลไกดังกล่าว
เรียบเรียงโดย Right SaRa
1st Nov 2022
- ■แหล่งข่าวอ้างอิง:
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
