4 พ.ย. 2022 เวลา 08:30 • ประวัติศาสตร์
"La Catedral" คุกสุดหรูของ "พาโบล เอสโคบาร์ (Pablo Escobar)"
ในยุคหนึ่ง "พาโบล เอสโคบาร์ (Pablo Escobar)" คือหนึ่งในบุคคลที่ทรงอำนาจและมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในโลก
เอสโคบาร์เป็นเจ้าพ่อยาเสพติดในโคลัมเบีย และได้สร้างเครือข่ายใต้ดินในการขนส่งโคเคนวันละกว่า 50 ตันไปจำหน่ายทั่วโลก สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้เอสโคบาร์อย่างมหาศาล
ถ้าถามว่าเอสโคบาร์นั้นรวยขนาดไหน ก็ถึงขนาดที่ว่าช่วงหนึ่ง เขาใช้เงินสัปดาห์ละ 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 38,000 บาท) เป็นค่ายางรัด ซึ่งใช้สำหรับรัดเงินของเอสโคบาร์ และมีทรัพย์สินซึ่งคิดตามค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.66 ล้านล้านบาท)
ด้วยความที่มีทั้งเงินและอิทธิพล แทบจะผูกขาดการค้าโคเคน ทำให้เอสโคบาร์ได้รับฉายาว่า "ราชาโคเคน" และทางการต่างก็ต้องการจะโค่นเอสโคบาร์ ซึ่งเอสโคบาร์ก็ทราบดีว่ารัฐบาลทั้งของโคลัมเบียและชาติอื่นๆ กำลังหมายหัวตนอยู่ เอสโคบาร์ซึ่งขี้เกียจต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ จึงตัดสินใจที่จะเจรจากับทางการ ยอมมอบตัว
1
พาโบล เอสโคบาร์ (Pablo Escobar)
หากแต่การมอบตัวนี้ก็มีเงื่อนไข
ในเวลานั้น โคลัมเบียเต็มไปด้วยนักการเมืองคอร์รัปชั่นและตำรวจที่รับสินบน ซึ่งแทบทั้งหมดก็ล้วนแต่ถูกเอสโคบาร์ซื้อตัวไปหมดแล้ว ที่ไม่ยอมจำนน ก็ล้วนแต่ถูกฆ่าจนหมด
1
รัฐบาลโคลัมเบียก็ตระหนักถึงอิทธิพลของเอสโคบาร์ และรู้ว่าการโค่นเอสโคบาร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าปล่อยเอสโคบาร์ไว้อย่างนี้ การคอร์รัปชั่นก็จะยังคงดำเนินต่อไป เหตุวุ่นวายต่างๆ ก็จะตามมาอย่างไม่รู้จบ
ทางด้านเอสโคบาร์ เขาก็เบื่อกับการที่ต้องคอยหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจจะเจรจา ยอมมอบตัวเองโดยมีเงื่อนไข ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีอาชญากรคนไหนเคยทำมาก่อน
ตามข้อตกลงนั้น เอสโคบาร์จะยอมมอบตัวต่อทางการ ยอมติดคุกเป็นเวลากี่ปีก็ได้แล้วแต่ทางการจะตัดสิน หากแต่เขาจะอาศัยอยู่ในเรือนจำที่เขาสร้างขึ้นเอง
เรือนจำแห่งนี้จะมีการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กำแพงนั้นมีระบบไฟฟ้า ป้องกันการหลบหนีหรือบุกเข้ามา แต่นอกเหนือจากนั้น ทุกอย่างในเรือนจำล้วนเป็นไปตามความพอใจของเอสโคบาร์
ปรากฎว่าทางการโคลัมเบียยอมตกลง และได้ทำการจับกุมเอสโคบาร์ในปีค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) และได้ตัดสินให้เอสโคบาร์จำคุกเป็นเวลาห้าปี โดยให้เอสโคบาร์จำคุกในเรือนจำของตนเอง
ถึงแม้ภายนอก เรือนจำของเอสโคบาร์จะดูเหมือนเรือนจำปกติทั่วไป หากแต่ภายในคือบ้านสุดหรู ไม่มีกฎอะไรเลย
เรือนจำแห่งนี้สร้างขึ้นใกล้กับบ้านเกิดของเอสโคบาร์ ล้อมรอบด้วยภูเขา ป้องกันการโจมตีจากศัตรู และเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็คือคนที่เอสโคบาร์เลือกเข้ามา ซึ่งอันที่จริง เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้มาป้องกันไม่ให้เอสโคบาร์หลบหนี แต่ป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายเอสโคบาร์ได้
ในเวลานั้น โคลัมเบียก็มีข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ในกรณีนี้ โคลัมเบียถึงกับต้องแก้กฎหมายเพื่อใช้ในกรณีของเอสโคบาร์โดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้ทำตามข้อตกลงของเอสโคบาร์ และเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลอเมริกันจับตัวเอสโคบาร์ไปดำเนินคดีได้
1
การกระทำของรัฐบาลโคลัมเบีย ทำให้หลายชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หากแต่นี่ก็เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะจับตัวเอสโคบาร์ ไม่ให้ออกไปสู่ภายนอก
แต่การที่เอสโคบาร์ถูกจำคุก ก็ไม่ได้หมายความว่าเอสโคบาร์จะดำเนินธุรกิจยาเสพติดต่อไปไม่ได้ เขายังคงสั่งการจากภายในเรือนจำ และเครือข่ายยาเสพติดของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป
เรือนจำแห่งนี้มีชื่อว่า "La Catedral" หรือ "โรงแรมเอสโคบาร์" และดูเหมือนกับบ้านพักสุดหรูมากกว่าจะเป็นเรือนจำ
เรือนจำแห่งนี้มีแทบทุกอย่าง ทั้งสนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ แม้แต่สวนสวยงาม ล้อมรอบด้วยวิวที่ตระการตา
ในช่วงที่เอสโคบาร์พักอยู่ในเรือนจำสุดหรูของตน ก็มีผู้มาเยี่ยมเยือนเขากว่า 300 คน มีทั้งคนในครอบครัว อาชญากรคนอื่นๆ ไปจนถึงโสเภณีที่เอสโคบาร์สั่งเข้ามาเพื่อความบันเทิง
นอกจากนั้น เอสโคบาร์ยังสั่งของหลายอย่างเข้ามาในเรือนจำ ทั้งเหล้า เงิน ยาเสพติด และยังสั่งอาวุธเข้ามาอีกด้วย
เรียกได้ว่าการจำคุกนี้ก็เหมือนแค่การพักร้อน พักผ่อนเท่านั้น เอสโคบาร์ไม่ได้รับความลำบากอะไรเลย
ในปีค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) รัฐบาลโคลัมเบียถูกกดดันจากรัฐบาลอื่นๆ ทั่วโลก และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เอาอกเอาใจเอสโคบาร์ ทำให้รัฐบาลโคลัมเบียตัดสินใจที่จะส่งตัวเอสโคบาร์ให้รัฐบาลอเมริกัน
1
กองทัพโคลัมเบียได้ส่งทหารไปคุ้มกันเอสโคบาร์ไปส่งที่สนามบิน หากแต่เอสโคบาร์ก็ได้หนีไปแล้ว
ด้วยความที่มีเงินและอิทธิพล ทำให้เอสโคบาร์มีหูตาไปทั่ว ถึงแม้จะถูกกักตัวอยู่ในเรือนจำ แต่เขาก็ยังคงได้รับข่าวจากภายนอก จึงได้หนีไปก่อน ซึ่งเท่ากับเขารับโทษจำคุกเพียง 13 เดือนเท่านั้น
เอสโคบาร์ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ.1993 (พ.ศ.2536) เป็นอันปิดตำนานราชาโคเคนผู้ทรงอิทธิพลแห่งประวัติศาสตร์
1
โฆษณา