12 พ.ย. 2022 เวลา 07:42 • ไลฟ์สไตล์
Part 2 : #เม้าท์มอย_ควันหลงงานหนังสือ’65
หายไปนาน...มาเม้าท์มอยกันต่อนะครับ กับควันหลงงานหนังสือ ’65 ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่เพิ่งรีโนเวทเสร็จใหม่เอี่ยม ใหญ่โตอลังการมาก คราวนี้ผมจะแวะเข้าไปชมบูธหนังสือต่างๆ (มีทั้งหมด 42 รูป) ถ้าพร้อมกันแล้ว เข้าไปอ่านคำบรรยายในแต่ละรูปกันได้เลยครับ
(ย้อนชม) ควันหลงงานหนังสือ ‘65 Part 1 (มี 16 รูป) : https://www.blockdit.com/posts/6364e659081cd1a6961f409c
17. บูธ #สำนักพิมพ์มติชน : Matichon หนึ่งในสำนักพิมพ์เจ้าใหญ่ ที่มีบูธกว้างขวางมาก (หากสำนักพิมพ์ยังเล็กๆ ก็จะมีแค่ 1 ห้องเล็กๆ หรือไม่เกิน 2 ห้องไงครับ)
18. #เบื้องหลัง ผมเดินอ้อมมาด้านหลังบูธมติชน สภาพคล้ายโกดังชั่วคราว มีลังใส่หนังสือวางกองอยู่ กับหนังสือที่แกะออกจากห่อแล้วเรียงซ้อนกันเป็นตับอยู่หลายชั้น ตรงผนังมีใบจดงานหลายแผ่นแปะอยู่ด้วย ส่วนนี้สำคัญมากนะครับ เพราะหากไม่มีเบื้องหลัง คงไม่มีบูธเบื้องหน้าที่สวยงามแบบนั้น
19. บูธ #สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ : Nanmeebooks ออกแบบบูธได้สวยทีเดียว คล้ายโรงเตี๊ยมญี่ปุ่น (เค้าเรียกว่า #เรียวกัง ใช่มะ?) ตามประวัติธุรกิจแรกของนานมีคือ #ร้านหนังสือจีนนานมี ก่อตั้ง พ.ศ. 2492 ตั้งอยู่ในย่านเยาวราช ขายเครื่องเขียนและหนังสือนำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลัก จนถึง พ.ศ. 2514 จึงเริ่มต้นผลิตอุปกรณ์เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานภายใต้แบรนด์ #ตราม้า (Horse)
หุหุ...บ่องตง เพิ่งรู้ว่าแบรนด์ตราม้าถือกำเนิดโดยบริษัทนานมี (จากการหาข้อมูลเพื่อมาเขียนเล่าตอนนี้แหละ) เอาจริงๆ ผมรู้จักชื่อ #นานมี ตอนที่ได้ลิขสิทธิ์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาพิมพ์จำหน่ายใน พ.ศ. 2540 ตั้งแต่เล่มแรก (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ : Harry Potter and the Philosopher's Stone) จนถึงเล่มสุดท้าย ปัจจุบันบริษัทนานมีเติบใหญ่ จนมีบริษัทลูกแยกออกไปมากมาย #นานมีบุ๊คส์ คือหนึ่งในนั้น
20. บูธ #นายอินทร์ naiin.com (สำนักพิมพ์อมรินทร์ : Amarinbooks) #อ่านเถิดชาวไทย ใหญ่โตอลังการสมเป็นสำนักพิมพ์ขนาดใหญ่
21. บูธ #เพื่อไทย ไม่รู้ใครมา? คนถึงแห่ไปมุงดูและยกมือถือขึ้นถ่ายกันตรึม วันนั้น (21 ต.ค. 2565) คนแน่นจนแทรกเข้าไปไม่ถึง เลยไม่รู้ว่าเป็นใครนะครับ
22. หนังสือเล่มใหม่ของทักษิณ Thaksin Shinnawatra : Theory and Thought ขายดีจนหมดเกลี้ยง
23. บูธ #มูลนิธิคณะก้าวหน้า มีหนังสือและของ souvenir มาขายเยอะเหมือนกัน
24. สส. รังสิมันต์ โรม กำลังแจกลายเซ็นที่บูธ #มูลนิธิคณะก้าวหน้า
25. บูธ #นิตยสารสารคดี #สำนักพิมพ์เมืองโบราณ มีหนังสือศิลปะและประวัติศาสตร์ศิลปะไทยขายเยอะ
26. #หนังสือจิตรกรรมฝาผนังในประเทศไทย ที่บูธ #สำนักพิมพ์เมืองโบราณ ตอนนี้เหลือจำหน่ายอยู่แค่ไม่กี่ปก (ที่นำกลับมาพิมพ์ซ้ำใหม่) ราว 30 ปีก่อนสมัยผมยังเป็นนักศึกษา วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบัง ผมเป็นแฟนหนังสือจิตรกรรมฝาผนังของเมืองโบราณตัวยง (ส่วนใหญ่เขียนโดย น. ณ ปากน้ำ) เรียกได้ว่ามีครบทุกเล่มเลย (น่าจะเกิน 20 เล่มได้ แต่...ค่อยๆ เก็บตังค์ซื้อนะ ไม่ได้รวยขนาดนั้น) รูปเล่มแบบเก่ามีจะขนาดใหญ่กว่านี้ (ใหญ่กว่า A4 นิดหน่อย) แต่ที่นำมาพิมพ์ใหม่ขายอยู่ตอนนี้ รูปเล่มจะใหญ่กว่า Pocket book (A5) ไม่มากนัก
สำคัญคือภาพถ่ายจิตรกรรมโบราณเหล่านี้ คือการบันทึกประวัติศาสตร์ ณ ช่วงเวลานั้นๆ เหตุเพราะจิตรกรรมฝาผนังโบราณ มีแต่จะผุพังเสื่อมสลายลงไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ (เท่าที่เคยเห็นช่างของกรมศิลปากรมาซ่อม ส่วนใหญ่มักเป็นการทำลายของโบราณเสียมากกว่า เพราะช่างกรมศิลปฯ ฝีมือยังไม่ถึงและยังขาดความรู้สำคัญ ในการซ่อมงานโบราณล้ำค่าเหล่านี้)
จริงๆ หากต้องการรักษางานจิตรกรรมไทยโบราณ (ด้วยภาพถ่าย) ให้มีอายุยืนยาวออกไปอีกควรทำเป็น E-book ขายด้วยนะครับ **แต่ขออย่าง กรุณา export ไฟล์ PDF ให้มีคุณภาพสูงๆ หน่อย อย่าเอาแต่ต้องการทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กๆ ท่าเดียว จนทำให้รูปภาพที่สวยงาม ต้องสูญเสียคุณภาพ (ภาพแตก) ลงไปอย่างน่าเสียดาย (เจอบ่อยจนเซ็ง...ว่าซั่น)
27. หนังสือ #วิวัฒนาการลายไทย น. ณ ปากน้ำ (นามปากกาของ อ.ประยูร อุลุชาฎะ พ.ศ. 2471 - 2543) เล่มนี้ถูกพิมพ์ซ้ำอยู่หลายครั้ง ชื่อหนังสือในปกหน้าฉบับพิมพ์ครั้งล่าสุดนี้ (สีบานเย็นตรงมุมบนขวา) ตัวบาง จมไปหน่อย...อ่านไม่ค่อยออก
28. บูธ #ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร มีหนังสือศิลปะไทยโบราณน่าสนใจหลายเล่ม
29. ผมมีหนังสือของ #ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร หลายเล่มอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเล่มหนา พิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม ราคาจะตกห้าถึงหกร้อยขึ้นไป จนเป็นพัน
30. หนังสือ #ตู้ลายทอง ภาค ๒ (สมัยรัตนโกสินทร์) เล่มที่ ๑ ของ #ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร เป็นหนังสือเล่มใหญ่ ปกแข็ง ภาพถ่ายสวยงามคมชัด ข้อมูลวิชาการแน่น แต่....หากคุณเป็นช่างเขียน จะเห็นข้อเสียอยู่ เพราะหนังสือกรมศิลปฯ จะเน้นถ่ายภาพตู้โดยรวม (คือเห็นทั้งตู้จนถึงขาตู้) แต่ไม่มีภาพซูม ให้เห็นไปถึงรายละเอียดชัดๆ ของลวดลายแบบใกล้ๆ
ซึ่งแตกต่างจากหนังสือของ อ.เศรษฐมันต์ ที่เข้าใจหัวอกช่างเขียนมากกว่า (ส่วนใหญ่มีแต่ภาพซูมใกล้ๆ) แต่...อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่า เนื้อหาในหนังสือของ อ.เศรษฐมันต์ ยังมีปัญหาไม่ค่อยเหมาะกับการนำไปใช้อ้างอิงเชิงวิชาการเท่าไหร่ เหมาะกับการสะสมไว้ดูรูปภาพมากกว่า
31. ปกหนังสือช่างไทยสิบหมู่ #ช่างเขียน ของ #สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
32. เซ็ทนิยายชุด #นักสืบสตรีศรีอยุธยา ทั้ง 3 เล่ม ของคุณหมอ #พงศกร เรื่อง #ลายกินรี กำลังฉายเป็นละครทางช่อง 3 ตอนนี้
33. บูธ #อ่านเอา : anowl.co และ GROOVE Publishing ที่ขายนิยายไทยเป็นส่วนใหญ่
34. บูธ Avocado Books ของ ครูทอม คำไทย (ฉายาเดิมที่เจ้าตัวตอนนี้ ไม่อยากให้ใครเรียกว่า ‘ครูทอม’ อีกละ สงสัยคงเบื่อ) หรือชื่อจริงคือ จักรกฤต โยมพยอม
35. บูธ #สำนักพิมพ์FULLSTOP ขายนิยายภาพ (Graphic novel) แนวการ์ตูนน่ารักๆ ฝีมือคนไทย สนพ.นี้ ออกแนวอินดี้หน่อยนะครับ มีความเป็นตัวเองสูง แถมยังอยู่ยั้งยืนยงมานานกว่า 20 ปีแล้ว ผมเคยลงคลิปสัมภาษณ์นิยายภาพเรื่อง LOST & FOUND ของน้องโฟล์กับน้องพิม (ภายใต้นามปากกา 19.04) ในงาน Winter Book Fest 2020 ที่สามย่านมิตรทาวน์
ใครสนใจดูคลิปเชิญได้ครับ : https://youtu.be/tU4p9FJ_9RE
อ้อรู้สึกเล่มนี้น้องเพิ่งได้รางวัลชนะเลิศ ประเภทหนังสือการ์ตูนจาก #เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 18 (พ.ศ. 2564) ด้วยนะ
36. หนังสือและโปสการ์ด โปสเตอร์สวยๆ สีขนมหวานในบูธ #สำนักพิมพ์FULLSTOP
37. อีกมุมของบูธ #สำนักพิมพ์FULLSTOP
38. บูธ #Salmonbooks แซลมอนบุ๊คส์ : #Bunbooks บันบุ๊คส์ : #Banluebooks บันลือบุ๊คส์ : Loupe Editions เป็นสำนักพิมพ์ในเครือบันลือสาส์น ที่เรารู้จักกันดีจากหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ
39. บูธ #ขายหัวเราะIsland Ha Ha Ha!
40. บูธ #สำนักพิมพ์ไดฟุกุ : DAIFUKU ขายนิยายแปลแนวสืบสวนลึกลับจากญี่ปุ่น ดูจากการตกแต่งบูธได้
41. #สำนักพิมพ์ไดฟุกุ น่าจะถือลิขสิทธิ์นักเขียนนิยายแนวสืบสวนลึกลับแดนปลาดิบ ระดับปรมาจารย์อย่าง ฮิงาชิโนะ เคโงะ (Keigo Higashino : 東野 圭吾) มากที่สุดแล้วตอนนี้ ในภาพนี้เป็นซีรี่ย์นักสืบกาลิเลโอ (Detective Galileo Series) ที่ใช้ปกดำทั้งหมด
42. นิยายสืบสวนฆาตกรรม #กลลวงซ่อนตาย 容疑者Xの献身 (The Devotion of Suspect X) อยู่ในซีรี่ย์ Detective Galileo ลำดับที่ 3 เป็นหนังสืออันดับ 1 ในใจคนญี่ปุ่น ที่แต่งโดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ (Keigo Higashino) เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ NAOKI AWARD (ชื่อรางวัลสำคัญในวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี 1935 (2496) ครั้งที่ 134 ในปี 2005 (2548) ปัจจุบันถูกแปลไปแล้วกว่า 21 ภาษา | เล่มนี้ผมซื้อเป็น E-book ใน MEB
43. Selfie กับชั้นหนังสือของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ เอาจริงๆ ผมเพิ่งเริ่มอ่านนิยายของเคโงะได้ไม่นาน เล่มแรกที่ซื้อคือ #ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ ナミヤ雑貨店の奇蹟 (The Miracles of the Namiya General Store) ฉบับญี่ปุ่นออก พ.ศ. 2555 (2012) ฉบับแปลไทยโดย #น้ำพุสำนักพิมพ์ ออก พ.ศ. 2561 (2018)
เหตุที่ตัดสินใจซื้อไม่ใช่เพราะอะไร แต่...สนใจว่า...ทำไม? หนังสือเล่มนี้ถึงติดอันดับ TOP 10 ขายดียาวนานมากเป็นปี เห็นจน...เอาวะ! ...สงสัยจะดีจริงแฮะ เลยสอยมาอ่านซะ (ปกติผมไม่ค่อยอ่านนิยาย ยิ่งเรื่องสืบสวนยิ่งไม่ค่อยเข้าไปใหญ่ เชอร์ล็อก โฮมส์ (Sherlock Holmes), อกาธา คริสตี้ (Agatha Christie) เล่มอมตะที่เขาว่าดังๆ ยังไม่เคยอ่านเลย เพราะเคยคิดว่ามีแต่ศพ มีแต่เลือดน่าจะเครียด)
แต่พออ่านเล่มนี้จบปุ๊บ....ถึงเข้าใจว่า เฮ้ย! ดีอ่ะ คือไม่ใช่แค่ดีธรรมดา แต่...ชอบมว๊าก.ก.ก.ก (ลึกลับแถมออกแนวไซไฟอีกตะหาก ถ้าสนใจ...ต้องลองหาอ่านดูเองนะครับ จะได้อรรถรสในรายละเอียดมากกว่าเวอร์ชั่นภาพยนตร์) แต่..ผมเพิ่งเริ่มสะสมนิยายเคโงะก็ปีนี้เองครับ (แต่ก่อนมีแค่เล่มเดียว...คือ “ปาฏิหาริย์ร้านชำฯ” ตอนนี้มีทั้งเล่มกระดาษและ E-book) แต่พออ่านจบแล้ว...ก็ไม่ได้ประทับใจไปทุกๆ เล่มนะครับ แต่ “ปาฏิหาริย์ร้านชำฯ” ถือว่า...ทำให้ผมได้เปิดประตูสู่โลกของเคโงะเลยก็ว่าได้
#เล่าประวัติ : ปัจจุบันเคโงะอายุ 64 ปีแล้ว (เกิด พ.ศ. 2501 อายุเท่าป๋าเบิร์ด ธงไชย) ประวัติน่าสนใจ ไม่ได้ร่ำรวยมาแต่เกิด เคโงะจบวิศวกรรมไฟฟ้าจาก มหา’ลัยประจำจังหวัดโอซาก้า (Osaka Prefecture University) หลังเรียนจบจึงประกอบอาชีพวิศวกรพร้อมกับแต่งนิยายไปด้วย
ในปี 1985 (2528) เคโงะอายุ 27 ปี ผลงาน #หลังเลิกเรียน : After school (放學後)ได้รับรางวัล Edogawa Rampo Prize (เอโดกาวะ รัมโป คือนักเขียนนิยายแนวสืบสวนลึกลับในตำนานของญี่ปุ่น รางวัลนี้ก่อตั้งในปี 1955 (2498) ถือเป็นรางวัลใหญ่ในวงการ #วรรณกรรมแนวรหัสคดี ของญี่ปุ่น) ทำให้เขาตัดสินใจออกจากงานประจำ ก้าวเข้าสู่อาชีพนักเขียนเต็มตัว
แต่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถึงแม้หลังได้รับรางวัลใหญ่ เคโงะยังต้องฝ่าฝันอีกหลายด่านในฐานะนักเขียนหน้าใหม่ เพราะชื่อยังไม่ติดตลาด แถมผลงานยังไม่ค่อยถูกตีพิมพ์ซ้ำ เคโงะจึงต้องส่งผลงานเข้าประกวดอีกหลายครั้ง เขาต้องใช้เวลาอีก 10 กว่าปี จนกระทั่งเขาได้รับรางวัลนาโอกิ (NAOKI AWARD) จากเรื่อง #กลลวงซ่อนตาย 容疑者Xの献身 (The Devotion of Suspect X) ในปี 2005 (2548) เขาจึงเริ่มโด่งดังเป็นพลุแตก เพราะนิยายถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และกวาดรายได้มหาศาล
ทุกวันนี้เคโงะได้รับฉายาว่าเป็น #เจ้าพ่อนิยายแนวลึกลับสืบสวน ที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ (เพราะถูกแปลไปหลายภาษามาก)
#ขอบ่น...นิยายเคโงะที่ผมเพิ่งอ่านจบไปหมาดๆ คือ #หงส์ขาวกับค้างคาว 白鳥とコウモリ(2021 : 2564) เนื้อเรื่องดี ซับซ้อน และมีการหักมุมตอนจบตามแบบฉบับเคโงะ แต่รู้สึกหงุดหงิดกับสำนวนแปลไทยเล่มนี้ ที่พิมพ์โดย @สำนักพิมพ์ ไดฟุกุ ( www.facebook.com/DaifukuPUB )
ไม่รู้ว่าเร่งรีบปั่นออกมาหรือเปล่า? ฉบับแปลไทยวางขายในปี 2022 (2565) อันนี้...ไม่รู้มีใครเป็นแบบผมหรือเปล่านะ? ที่อ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิด เจอทั้งคำผิด และใช้การเรียงคำสลับกันแปลกๆ สำนวนแปลก็อีกอย่าง อ่านแล้วไม่ค่อยรื่นสักเท่าไหร่ (หงุดหงิดจนเอาปากกามาร์คเกอร์สีเหลือง มาขีดมาร์คติ๊กๆ ไว้เลยนะ 555+) ทำให้ผมเข้าใจว่า ไม่ใช่สักแต่ว่าแปลได้ แต่...ผู้แปลต้องมีทั้งความละเมียด และควรมีทักษะแบบเดียวกับนักประพันธ์ผสมอยู่ในตัวด้วย ถึงจะสื่อสารถ้อยคำของผู้แต่งออกมาเป็นภาษาอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นนะครับ
44. จุดนี้เป็นนิทรรศการ Drawing Story (เรื่องเล่านักวาดภาพ) เพื่อเชิดชูนักสร้างสรรค์ (Creative works) ประเภท Cartoonist (นักวาดการ์ตูน) Illustrator (นักวาดภาพประกอบ) และ Graphic novelist (นักเขียนนิยายภาพ) ของไทย ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง ง่ายๆ คือนิทรรศการ Hall of fame (หอเกียรติยศ) ของนักเขียนไทยนั่นแหละ
แต่ที่น่าสนใจคือ นิทรรศการนี้ใช้คำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด คงไม่ได้ตั้งใจให้คนไทยอ่าน แต่...? คนไทยมางานนี้เยอะที่สุดนะ ดีที่ผมพออ่านกล้อมแกล้มได้ เพราะไม่ได้ใช้ศัพท์ยากมาก ..... แต่ที่ผมเห็น ตรงนี้กลายเป็นจุดหาที่นั่งพักเมื่อยขาซะมากกว่า (บูธนี้มีโต๊ะและเก้าอี้ สำหรับให้ผู้ชมหยิบหนังสือที่โชว์ไว้มานั่งอ่านได้)
45. หนังสือที่จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการ Drawing Story จากซ้าย
1. #ขายหัวเราะ Classic series #จุ๋มจิ๋ม (จำนูญ เล็กสมทิศ) เจ้าของลายเส้นจากการ์ตูนขายหัวเราะในตำนาน
2. #ชายผู้ออกเดินทางตามหาเสียงตัวเอง เรื่อง/ภาพ : Sa-ard สะอาด (ธนิสร์ วีระศักดิ์วงศ์)
3. My Playlist โดย #มุนินฺ x แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) : มุนินฺ คือนามปากกาของนักวาดการ์ตูนหญิงมืออาชีพ มุนินทร์ สายประสาท
46. ซีรี่ย์นิยายภาพ (Graphic novel) #ถั่วงอกและหัวไฟ Beansprout & Firehead ของ ทรงศีล ทิวสมบุญ เป็นการ์ตูนที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น (เล่ม 1 ตีพิมพ์ พ.ศ. 2548 (2005) ปัจจุบันมี 10 เล่ม คิดว่า...น่าจะยังไม่จบนะครับ
47. บูธ #10mmBooks (สำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตร) ของ มุนินฺ (มุนินทร์ สายประสาท) ถือเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยที่มีแฟนคลับและประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง
48. หนังสือที่วางขายในบูธ #10mmBooks ของ มุนินฺ
49. บูธ PTK Studio (ย่อมาจาก P. เป็ด T. เต่า K. ควาย) ของโตโต้ องอาจ ชัยชาญชีพ (หรือนาย #หัวแตงโม ชื่อตัวการ์ตูนสัญลักษณ์ประจำตัวของเขา)
50. หนังสือหลายเล่มในบูธ PTK Studio : ผมรู้จักโตโต้ (องอาจ ชัยชาญชีพ) มานานน่าจะเกินกว่า 10 ปีแล้ว (หมอนี่เป็นทาสแมวเหมียวครับ) เพราะผมเคยอยู่ในแวดวงการ์ตูน มีผลงานการ์ตูนกับ #สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก (ปัจจุบันสถาบันฯ ปิดตัวลงแล้ว) ออกมาไม่กี่เล่ม (ขายไม่ค่อยดี เลยเลิกทำ (ฮา) โตโต้เกิด พ.ศ. 2516 อายุน้อยกว่าผม 1 ปี
ตอนผมเห็นการ์ตูนโตโต้ครั้งแรก (น่าจะเป็นซีรีย์ #หัวแตงโม นี่แหละ) ผมเคยวิจารณ์ว่า....ทำไมวาดห่วยจังฟร่ะ! (เกิดจากมุมมองอันคับแคบของผมเองนั่นแหละครับ) แต่...บนลายเส้นหยุบหยับ หยุยๆ นั้น สิ่งที่ส่องประกายอยู่เหนือยิ่งไปกว่าคือ....เนื้อเรื่อง ที่ทั้งอบอุ่น ปีติ อิ่มเอม เคล้าอารมณ์เหงา อารมณ์เศร้า (อาจเป็นบุคลิกเฉพาะตัวของโตโต้ก็ได้)
ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสเห็นโพสต์ของโตโต้ในเพจ ผมก็ชอบเมนท์ทักไปเรื่อยๆ แต่....โตโต้ไม่เคยตอบหรือทักกลับเลย อืม...ไม่รู้ทำไมสินะ? (งืม...ก็ไม่ได้สนิทกันนี่นา แค่รู้จักเฉยๆ) แต่..ถ้าเห็นโพสต์ไหนของโตโต้น่าสนใจ ผมก็ยังคงเมนท์ต่อไปอีกนั่นแหละ
ผมไม่ได้วาดการ์ตูนเป็นอาชีพมานานมากแล้ว แต่ทุกวันนี้...โตโต้ยังคงวาดอยู่ และมีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง พอมีงานหนังสือทีไร จะเห็นโตโต้หอบผลงานมาออกบูธทุกครั้ง ยินดีด้วยนะน้องชาย
51. ติ๊กเก้อน่ารักๆ ลายการ์ตูน #หัวแตงโม ในบูธ PTK Studio
52. บูธ #ป๋องแป๋ง ตัวเอกในการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก (สำนักพิมพ์อะไร ไม่ได้ถ่ายมา) ตกแต่งบูธได้สวยดี
53. หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก (สอนไปโรงเรียน อาบน้ำ เลิกใช้ผ้าอ้อม ฯลฯ) ซีรี่ย์ #ป๋องแป๋ง มีหลายเล่ม วาดสวยน่ารักดี
54. มาตบะแตกก็เพราะบูธนี้แหละครับ ลดกระหน่ำ 50% ส่วนกองด้านหลังคือเหลือ 50 บาท ทุกเล่ม
55. #ราคาตามป้ายลดเยอะนะคะ 555+ ตามนั้นครับ
56. บูธลดกระหน่ำ Summer Sale นี้เป็นของ Learn and Play Math Group (เดินในงานผมเจอบูธลดกระหน่ำแบบเดียวกันนี้ 2 บูธ)
57. ในบูธลดกระหน่ำ ที่ผมสนใจคือการ์ตูนและนิยายภาพของนักเขียนไทยนี่แหละ
58. หนังสือลดกระหน่ำในบูธนี้ส่วนใหญ่จะมีอายุเกิน 10 ปี หรือเกือบๆ 10 ปี คงเป็นหนังสือเก่าค้างสต๊อกเอามาโละขาย มีบางเล่มที่กระดาษเริ่มเป็นสีเหลือง จุดสังเกตคือตรงสันปกด้านล่าง จะมีเมจิกสีขมพูเข้มขีดฆ่าเป็นแนวอยู่ (แบบในภาพ) หนังสือส่วนใหญ่คุณภาพยังดี ไม่ค่อยเยินมาก แต่ก็ยังต้องเลือกเล่มดีๆ หน่อย
ภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายใน Part 2 แล้วครับ ต่อไป Part 3 จะพาไปตะลุยบูธมังงะกัน ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าที่คิด แฟนๆ การ์ตูนญี่ปุ่นในบ้านเรา (ตอนนี้มีการ์ตูนจีน การ์ตูนเกาหลี ด้วย) ใหญ่โตบิ๊กเบิ้มไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ
จิด.ตระ.ธานี : #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา