18 พ.ย. 2022 เวลา 11:00 • ท่องเที่ยว
มิวเซียมสยาม

Chapter นี้พามาเดินเล่นที่มิวเซียมสยาม (Museum Siam) กันค่ะ

Chapter 51: Museum Siam
เรามาถึงที่นี่ประมาณบ่ายสอง จริงๆ ไม่ได้ไกลมากหรอกแต่หลงทาง เพราะถนนแถวๆ พิพิธภัณฑ์นี่เป็นตรอกซอกซอยเยอะ ไปแถวนั้นทีไรเลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยนทุกที 🥴 คราวนี้ก็ไม่พลาดที่จะขับรถหลงทางอีกเช่นเคย
เราขับมาตามถนนมหาราชจนเจอป้ายพิพิธภัณฑ์ละ ที่นี้จะจอดรถที่ไหนละเนี่ย มองซ้ายมองขวา มีซอยเล็กๆ อยู่ข้างๆ พิพิธภัณฑ์พอดี เห็นมีรถจอดกันเต็มเลย ลองเข้าไปดูก็ปรากฎว่ามีช่องว่างอยู่พอดี เลยจัดการเอาตัวเองเข้าไปจอดทันที เรียบร้อย เดินมาจึ๋งเดียวเจอทางเข้าเลย โชคดีจริมๆ 😁
ปรากฎว่าประตูที่เราเข้าจริงๆ แล้วเป็นประตูข้างหลังของพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ทางเข้าหลัก (ถึงว่าทำไมดูเล็กๆ) ถามเจ้าหน้าที่ด้านในเค้าบอกว่าประตูทางเข้าจริงๆ อยู่ที่ถนนสนามไชย และในพิพิธภัณฑ์ก็มีที่จอดรถให้คนที่มาเที่ยวด้วย ถ้าใครจะมาที่นี่อย่าพลาดเหมือนเรานะคะ 😅
เรานัดเพื่อนมาเจอกันที่นี่ด้วยแต่เพื่อนมารถไฟฟ้า ซึ่งสถานีก็อยู่หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์เลยจ้า สะดวกสุดๆ
เอาล่ะ เข้าไปดูข้างในกันค่ะ
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ด้านในพิพิธภัณฑ์มีลานสนามหญ้าขนาดใหญ่พอสมควรสามารถจัดงานดนตรีเล็กๆ ในสวนได้เลย
เจอแมวตัวน้อยอยู่บนหลังคาตึก นึกว่าของจริง ปรากฎเป็นแมวตุ๊กตา
เดินมาตรงทางเข้าหลักจะพบกับตัวพิพิธภัณฑ์ที่เป็นตึกทรงโบราณ เรียกว่า "นีโอคลาสสิก" สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
เดิมทีที่นี่ถูกใช้เป็นอาคารสำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์ ต่อมามีการดัดแปลงให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ และรู้มั้ยมิวเซียมสยามเพิ่งจะมีอายุครบ 100 ปี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมานี่เอง
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ณ วันที่พวกเราไปทางพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดนิทรรศการ "ถอดรหัสไทย" (Decoding Thainess) อยู่ ซึ่งนิทรรศการนี้จะพาเราไปค้นหาความหมายที่แท้จริงของความเป็นไทย ผ่านการเล่าเรื่องราวความเป็นไทยในมิติต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรมประเพณี อาหารการกิน และการแต่งกาย
ในนิทรรศการจะใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านสื่อต่างๆ และมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการเล่าเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและติดตามเรื่องราวได้ง่ายมากขึ้น….. ว้าว น่าสนใจมากๆ
 
ก่อนอื่นต้องไปซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์กันก่อน สำหรับคนไทยเสียคนละ 100 บาท ชาวต่างชาติคนละ 300 บาท เด็กนักเรียน นักศึกษาที่อายุ 15 ขึ้นไปคนละ 50 บาท ต่ำกว่า 15 เข้าฟรีค่ะ
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ตั๋วที่ได้มาก็น่ารักมากๆ เป็นรูปสมุดลายไทยแบบโบราณที่เด็กนักเรียนสมัยนี้น่าจะไม่ได้ใช้กันแล้ว ด้านในจะมีการ์ดพลาสติกให้อีก 1 ใบสำหรับเอาไปคั่นหนังสือได้ด้วย นอกจากนี้เราก็จะมีคู่มือการเข้าชมงานมาด้วยอีก 1 เล่ม
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ทางเข้างานจะอยู่ที่ชั้น 3 เราก็เดินขึ้นบันไดไป ซึ่งบันไดก็เก๋มากกกก
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ด้านในตึกถูกรักษาไว้อย่างดี ขนาดลายกระเบื้องบนพื้นยังสวยมากๆ เลย
มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
เข้ามาที่โซนแรก "ไทยรึเปล่า" ซึ่งตอนแรกเราเดินมองผ่านๆ เลยไม่เห็น แต่พอตั้งใจดูดีๆ ถึงเห็นว่าชุดที่หุ่นใส่อยู่ไม่ใช่ผ้าลายไทยแต่เป็นลวดลายแฟชั่นซะนี่ 🤣
ห้องไทยรึเปล่า มิวสยาม (Museum Siam)
ห้องถัดมาเป็น "ไทยแปลไทย" ซึ่งทำได้น่าสนใจมากเพราะงานแสดงจะถูกจัดอยู่ตามตู้ลิ้นชัก เมื่อเราเปิดออกมาก็จะเห็นงานแสดงที่สื่อถึงสิ่งของที่แสดงความเป็นไทยในแต่ละยุคสมัย
ห้องไทยแปลไทย มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ถัดมาเป็นห้อง "ไทยตั้งแต่เกิด" ที่แสดงลำดับพัฒนาการของความเป็นไทย เป็นการนำเสนอเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และสิ่งแสดงความเป็นไทยในสมัยต่างๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีโมดูลไฮดรอลิก โดยจะมีทั้งเสียงบรรยายและภาพกราฟฟิก ซึ่งจัดแสดงเป็นรอบๆ ตอนที่เราไปเค้าเพิ่งแสดงจบไปเลยอดดูเลย 😅
ห้องไทยตั้งแต่เกิด มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ห้อง "ไทยอลังการ" เค้าจำลองท้องพระโรงของพระราชวังสมมุติมาให้ดู (ที่เห็นอยู่ลิบๆ นั่นแหละ)
ห้องไทยอลังการ มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
เดินลงมาชั้น 2 จะเจอห้อง "ไทย Only" ชอบห้องนี้มากเพราะเป็นห้องที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่เราเห็นจนคุ้นตาในชีวิตประจำวัน อย่างพวงเครื่องปรุง ถุงหิ้วกาแฟผูกหนังยาง รวมถึงไฮไลท์เด็ด "คุณเอิบทรัพย์" หรือนางกวักยักษ์สูงกว่า 4 เมตรที่โดดเด่นอยู่กลางห้อง ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้บ่งบอกความเป็นไทย only ได้เป็นอย่างดี
ห้องไทย Only มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ถัดมาจะเป็นห้อง "ไทย Inter" ห้องนี้ต้องการสื่อถึงมุมมองความเป็นไทยของสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกันในสายตาชาวไทยกับชาวต่างประเทศ อย่างเช่นรูปปั้นยักษ์ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่หน้าวัดที่มีความเป็นไทยมากๆ กับรูปปั้นตัวตลกสัญลักษณ์ของร้านแม็คโดนัลซึ่งถึงแม้จะมีความเป็นต่างชาติ แต่เมื่อมีการไหว้เข้ามาประกอบก็สามารถแสดงถึงความเป็นไทยได้เช่นกัน
ต้องมองผ่านช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ถึงจะเห็นงานแสดง
ห้องไทย Inter มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
อีกห้องที่ชอบก็คือ "ไทยวิทยา" ที่จำลองบรรยากาศห้องเรียน 4 ยุคสมัย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นประชาธิปไตย ความเป็นไทยยุค 2500 ความเป็นไทยยุคโลกาภิวัตน์ และความเป็นไทยยุคพอเพียง
ห้องไทยวิทยา มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
เห็นละนึกถึงตอนเป็นเด็กนักเรียนเลย 😄
ห้องต่อมาก็สนุก "ไทยชิม" เป็นการจัดแสดงที่มาของอาหารไทยขึ้นชื่อต่างๆ อย่าง ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ผัดไทย เป็นต้น โดยใช้วิธีการสแกนคิวอาร์ที่โชว์อยู่บนจานอาหาร จากนั้นเครื่องก็จะแสดงภาพกราฟฟิกบอกที่มาที่ไปของอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ เครื่องปรุง วิธีการปรุงอาหารชนิดนั้นๆ ให้เราดู สนุกดี
ห้องไทยชิม มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ห้องต่อมาเป็นห้อง "ไทยดีโคตร" เป็นห้องที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมของไทยในยุคสมัยต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอื่น ด้วยวิธีเลเซอร์คัท 3 มิติเอามาวางเรียงต่อกัน สวยดี
ห้องไทยดีโคตร มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
ต่อมาเป็นห้อง "ไทยเชื่อ" เป็นห้องที่รวบรวมความเชื่อของคนไทยที่ครอบคลุมทั้งความเชื่อเรื่องผี พุทธ พราหมณ์ และความเชื่อแบบไทยๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป มีงานแสดงวัตถุบูชาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผีก็มี รวมถึงเครื่องรางของขลังต่างๆ ด้วย
ห้องไทยเชื่อ มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
จากห้องนี้เราก็ไปต่อกันที่อีก 1 นิทรรศการที่ชั้นล่างสุดคือนิทรรศการ "ตึกเก่าเล่าใหม่" ซึ่งเป็นการแสดงวิวัฒนาการของมิวเซียมสยามที่เพิ่งครบ 1 ศตวรรษในปี พ.ศ. 2565 นี่เอง เป็นการแสดงการเปลี่ยนผ่านจากการออกแบบของนายช่างชาวอิตาลี สู่การเป็นกระทรวงพาณิชย์ และปัจจุบันก็กลายเป็นมิวเซียมสยาม
ตึกเก่าเล่าใหม่ มิวเซียมสยาม (Museum Siam)
สนุกดีค่ะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ได้ทั้งความรู้และความบันเทิง ใครที่ชอบเดินพิพิธภัณฑ์แนะนำที่นี่เลยค่ะ
จากพิพิธภัณฑ์เราขับรถไปที่ถนนข้าวสารกันต่อ ไม่ได้มาหลายปีละ เป็นไงมั่งเนี่ย
เท่าที่เห็นร้านค้าก็เริ่มมาเปิดกันคึกคักแล้ว พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น พวกเราหาข้าวเย็นทานกันที่ข้าวสารซะเลย ร้านบรรยากาศดี๊ดี นั่งกันเพลินจนเริ่มค่ำก็ออกเดินไปที่สวนสันติชัยปราการจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ค่ะ
ถนนข้าวสาร
สวนสันติชัยปราการตั้งอยู่ติดกับป้อมพระสุเมรุติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา สวนนี้ถูกสร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
สวนสันติชัยปราการ
โดยภายในบริเวณสวนมี "พระที่นั่งสันติชัยปราการ" ที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติมาประดับไว้และมีท่ารับเสด็จขึ้นลงเรือพระที่นั่ง เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
สวนสันติชัยปราการ
จากที่นี่เราจะเห็นสะพานพระราม 8 ด้วยสวยมากๆ
สวนสันติชัยปราการ
แต่ที่สวนนี้เวลาน้ำขึ้น ก็จะมีน้ำท่วมขึ้นมาบริเวณลานที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา คงจะเป็นเรื่องปกติของที่นี่
สวนสันติชัยปราการ
สวนสันติชัยปราการนับเป็นสวนเพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่มีทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากค่ะ
สวนสันติชัยปราการ
ก็เป็นอันจบทริปสั้นๆ ครึ่งวัน เดินเล่นมิวเซียมสยาม แวะถนนข้าวสาร และจบที่สวนสันติชัยปราการ สนุกดีค่ะ สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วพบกันในการเดินทางครั้งต่อไปค่ะ 😊
โฆษณา