15 พ.ย. 2022 เวลา 03:57 • ความคิดเห็น
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา แห่ง Jmart
ในช่วงที่ผมรับงานในส่วนโทรศัพท์แบบเติมเงินให้ดีแทคเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนนั้น เป็นช่วงที่ดีแทคตกต่ำถึงขีดสุด มีแต่คนบอกว่าไม่น่ารอดแล้ว แต่อย่างที่คุณคมสันต์ ลีแห่ง flash express เคยบอกไว้ว่า “ ม้าใกล้ตาย จะรักษายังไงก็ได้” ผมก็เลยมีโอกาสได้ทดลองทำอะไรในรูปแบบใหม่ๆโดยผู้ใหญ่ให้โอกาสเต็มที่ ตามประสาหนุ่มห้าวที่ไม่รู้ว่าการฟื้นธุรกิจจริงๆต้องทำยังไง
วิธีการที่ผมใช้จนเป็นท่าไม้ตายเสมอเวลานึกอะไรไม่ออกก็คือเดิน เดินไปเยี่ยมร้านค้าบ้าง คุยกับลูกค้าบ้าง เพราะไอเดียหรือปัญหาที่บังตาเราอยู่นั้นมักจะชัดเจนเวลาได้พบลูกค้าหรือร้านค้าตัวเป็นๆ ในตอนนั้นแบรนด์พรีเพดของดีแทคชื่อดีพร้อมท์ เป็นแบรนด์ที่ยอดขายตกต่ำลงเรื่อยๆ ผมดูตัวเลขก็แทบสลบโดยเฉพาะเชนใหญ่ๆในสมัยนั้น โดยมีเจมาร์ทเป็นหนึ่งในเชนที่มีหน้าร้านหลายร้านแต่ขายเราแค่ 5%ของยอดขายซิมทั้งหมด
ผมไม่เคยรู้จักเจ้าของเจมาร์ทมาก่อนเพราะเป็นผมเป็นมือใหม่ในวงการการตลาดมาก ก็เลยสงสัยใคร่รู้มากว่าทำไม พยายามให้เซลล์ที่ดูแลเจมาร์ทนัดให้ เซลล์ก็ไม่กล้านัด บอกว่าเขาไม่ชอบเราหรอกพี่ พี่ไปก็โดนด่าเปล่าๆ ถามว่าทำไมก็ไม่รู้ ในตอนนั้นผมแค่คิดว่าถ้าเราไม่ไป จะรู้ปัญหาได้ยังไง ก็เลยลองขอนัดคุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เจ้าของเจมาร์ท โดยผมตัดสินใจบุกไปคนเดียวที่ออฟฟิศเจมาร์ทแถวๆรามคำแหง
พอเจอพี่อดิศักดิ์ครั้งแรกพร้อมกับมือขวาคือคุณคิตตี้ (ปัจจุบันเป็นซีอีโอของซิงเกอร์ในเครือเจมาร์ท) พี่อดิศักดิ์เปิดบทสนทนาด้วยประโยคที่บอกว่า ผมเป็นผู้บริหารดีแทคคนแรกที่มาหาในรอบหลายปี ซึ่งเป็นที่ประหลาดใจสำหรับผมมาก เพราะเจมาร์ทก็คือรายใหญ่ในตลาดมือถือในตอนนั้น
หลังจากนั้นพี่อดิศักดิ์ก็เล่าว่า ดีแทคไม่เคยมาหา ไม่เคยถาม ไม่เคยมาดูแลหรือพยายามทำอะไรกับเจมาร์ทมาหลายปี ซักพักพี่อดิศักดิ์ก็พาไปดูตู้เสื้อผ้าของพนักงานที่เต็มไปด้วยเสื้อของคู่แข่ง และเล่าว่าคู่แข่งมาอบรมเซลล์บ่อยมาก มีกิจกรรมการตลาดสม่ำเสมอ พนักงานของเจมาร์ททุกคนไม่อยากขายของเราเลยเพราะคู่แข่งดูแลดีมากแต่เราไม่เคยสนใจ
พี่อดิศักดิ์โชว์รูปที่เจมาร์ทรับรางวัลยอดขายดีเด่นจากดีแทคเมื่อหลายปีก่อน ก่อนผมจะถามว่าทำไมยอดขายของเราในร้านที่เคยดีๆถึงกับแทบเหลือศูนย์ ก่อนที่จะได้รับคำอธิบายว่ายอดขายเดิมก็ค่อยๆลดลงแต่ก็ยังพอขายได้ จนเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เจมาร์ทมีสต๊อกซิมผิดรุ่นอยู่ 500 ซิม ทำเรื่องขอเปลี่ยนแต่ดีแทคเงียบไป โบ้ยกันไปมา รอคำตอบนานมาก เรื่องก็คาราคาซังทำให้ไม่ได้สั่งของใหม่มาขาย ดีแทคก็ไม่สนใจ ยอดขายก็ไม่มีโดยปริยาย
โมเม้นท์นั้น เป็นโมเม้นท์ยูเรก้าของผมมากๆโมเม้นท์หนึ่งในชีวิต คำบ่นของลูกค้าที่แรงและตรงนั้น ทำให้เห็นความจริงที่ควรจะแก้ไขแบบไม่หลอกตัวเอง และหลายครั้งก็เป็นปัญหาองค์กรโง่ๆที่แก้ไม่ยากแต่ผู้บริหารจะไม่มีทางรู้เลยถ้าไม่ได้ฟังลูกค้าด้วยตัวเอง เป็นบทเรียนที่ผมใช้มาตลอดการทำงานหลังจากนั้น
วันนั้นผมรับปากพี่อดิศักดิ์แบบเด็กรับปากผู้ใหญ่ว่า ภายในสองเดือนผมจะแก้ไขทุกอย่างให้เป็นรูปธรรมทั้งปัญหาซิม เทรนนิ่งและการทำการตลาดด้วยกัน ถ้าทำไม่ได้ผมจะมาให้พี่อดิศักดิ์เตะก้นถึงออฟฟิศ จำได้ว่าพี่อดิศักดิ์ก็หัวเราะและบอกว่าถ้าผมทำได้ เจมาร์ทก็จะดันดีแทคให้ เป็นสัญญาลูกผู้ชายที่หลังจากนั้นไม่กี่ปี พี่อดิศักดิ์ก็ทำตามสัญญา จนดีแทคกลายเป็นเบอร์หนึ่งในเจมาร์ทได้
1
ไม่น่าเชื่อว่าแค่เวลาสิบกว่าปี อาณาจักรเจมาร์ทในวันนี้จากดีลเลอร์มือถือที่เล็กกว่าดีแทคมาก จะกลายเป็นกลุ่มบริษัทการเงินแสนกว่าล้านที่ใหญ่ และไม่พูดถึง J FIN COIN และโครงการต่างๆที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าถามว่าประหลาดใจมากแค่ไหนก็ไม่ได้มากนักเพราะผมเคยได้ยินพี่อดิศักดิ์เล่าความฝัน พูดคุยถึงวิธีคิดอยู่บ่อยครั้งในช่วงที่เจมาร์ทยังไม่ใหญ่มาก และก็ไม่แปลกใจด้วยว่าทำไมจากดีลเลอร์มือถือถึงกลายมาเป็นกลุ่มบริษัทการเงินขนาดใหญ่ได้
เพราะพี่อดิศักดิ์โดยเนื้อแท้แล้วเป็นผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงเรื่องเงินผ่อนตั้งแต่ทำเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อนของฟิลิปส์ก่อนมาตั้งบริษัทเอง แนวทางที่พี่อดิศักดิ์เดินก็จะใช้ศักยภาพเงินผ่อนมาเป็นเครื่องมือโดยตลอด ไม่ว่าจะไปเป็นพันธมิตรกับอีออนตอนที่ยังไม่ใหญ่มากจนมาเข้าสู่ธุรกิจติดตามหนี้ ซื้อซิงเกอร์ และมาถึง digital asset เป็นคนแรกๆของไทย
1
นอกจากทักษะเฉพาะตัวแล้ว คุณสมบัติหนึ่งที่ผมคิดว่าทำให้พี่อดิศักดิ์มีวันนี้ก็คือความเป็น “นักเลงโบราณ” ที่ผมสัมผัสได้มาตั้งแต่วันแรกที่เจอ ก็คือการที่พอรับปากใครแล้วก็จะต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะยากลำบาก หรือเสียเปรียบแค่ไหน มีหลายครั้งที่พี่อดิศักดิ์รับปากผมที่ดีแทคที่ทำให้พี่เขาต้องกลืนเลือดแต่ก็ไม่เคยทำตามที่รับปากไม่ได้
คุณสมบัติหลักนี้ทำให้ระหว่างทางที่เดินสู่ยอดเขานั้น พี่อดิศักดิ์ถึงรายล้อมด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่งและทำธุรกิจกันด้วยอย่างยาวนาน เป็นการทำธุรกิจกันยาวๆมากกว่าเอาประโยชน์กันในระยะสั้นๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไปก็ออกดอกออกผลจนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่งดงาม
ต้องบอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้มีหุ้นใดๆของเจมาร์ทเลยและไม่เคยมี ความรู้สึกตกรถไฟด้านหุ้นก็มีบ้างเมื่อเห็นราคาหุ้นของพี่อดิศักดิ์ แต่ผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนอยู่บนรถไฟขบวนแรกๆของเจมาร์ทในการเป็นพันธมิตรกันที่ดีแทค และก็ได้เห็นอาณาจักรของพี่เขาเติบใหญ่จนขนาดนี้
อ่อ…หลังจากที่เจอกันครั้งแรก สองเดือนผ่านไป ผมทำได้ตามที่รับปากและไม่เคยต้องกลับไปให้พี่เขาเตะก้นนะครับ
โฆษณา