16 พ.ย. 2022 เวลา 19:09 • ปรัชญา
“ผู้ที่ปรารถนาการหลุดพ้นจากความทุกข์ จึงไม่ไปหาโลกธรรม”
โลกธรรม คือ ลาภยศสรรเสริญสุขนี้ เป็นของไม่เที่ยง มีเจริญก็ต้องมีเสื่อมเป็นธรรมดา มีการเจริญลาภก็ต้องมีการเสื่อมลาภ มีการเจริญยศก็ต้องมีการเสื่อมยศ มีการสรรเสริญก็มีการนินทา มีความสุขจากรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ ก็จะมีความทุกข์จากรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ ตามมา
ดังนั้น ผู้ที่ปรารถนาการหลุดพ้นจากความทุกข์ จึงไม่มุ่งไปสู่การไปหาโลกธรรมมาเป็นสมบัติของตน เพราะเท่ากับการเข้าหาความทุกข์นั่นเอง ได้ลาภแล้ว วันหนึ่งก็ต้องเสื่อมลาภไป ได้ยศแล้ว วันหนึ่งก็ต้องเสื่อมยศไป ได้สรรเสริญแล้ว วันหนึ่งก็ต้องได้พบกับนินทา ได้สุขแล้ว วันหนึ่งก็ต้องได้เจอกับความทุกข์จากรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนาไม่สอนให้เข้าหาหรือให้แสวงหา
เพราะการแสวงหาโลกธรรม คือ ลาภยศสรรเสริญสุข ก็เท่ากับการแสวงหาความทุกข์นั่นเอง แต่ให้ออกจากการแสวงหาลาภยศสรรเสริญสุข แล้วให้เข้าสู่การแสวงหาความสุขที่เกิดจากความสงบ เพราะความสุขที่เกิดจากความสงบของจิตใจนี้เป็นความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่เหนือกว่าความสุขของโลกธรรม คือลาภยศสรรเสริญสุข เป็นความสุขที่จะอยู่กับใจไปตลอด และเป็นความสุขที่ถาวร
ธรรมะหน้ากุฎิ
วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา