คิดว่าหลายคนย่อมต้องเคยดูหมอ และหลายคนก็สิ้นหวัง แต่หลายคนไม่รู้ว่า โหราศาสตร์มันสะท้อนถึงบุญกรรมที่จะต้องประสบในชาตินี้
โหราศาสตร์คือธรรมะดีๆนี่เอง กฎของดวงดาวทั้งหลายอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม
หมอดูมีมาก แต่ที่มีคุณภาพมีน้อย คนมีหลายแบบ บ้างก็อยากฟังอะไรที่ได้กำลังใจ บ้างก็ต้องการความจริงเพื่อจะได้รู้ว่าต้องระวังอะไรขนาดไหน
หลายคนคาดหวังการดูหมอมากเกินจริง เสมือนมองว่าคนห่มเหลืองโกนหัวต้องเป็นพระอริยะ ทั้งที่ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็น สมมติสงฆ์ เป็นผู้ฝึก
ผู้เข้าถึงสภาวะแห่งพุทธะเท่านั้นถึงเป็นพระอริยะ พระสงฆ์ในพระรัตนตรัย
หมอดูก็ถูกคาดหวังเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน มีตาทิพย์เห็นทุกเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าโหราศาสตร์เปรียบเสมือนเราอยู่ในที่มืดแต่เรามีตะเกียงส่องแสงสว่างเพื่อให้เห็นทางบ้างเท่านั้น ไม่สามารถเห็นทุกสิ่งอย่างได้
เพราะจะไม่เป็นอันทำอะไรเกันลยถ้ารู้ไปทุกเรื่อง อีกทั้งวิบากกรรมหรือเจ้ากรรมนายเวรก็ยังจ้องรอจังหวะอยู่ เราเกิดมาเสวยทั้งบุญและบาปที่ติดตัวข้ามภพชาติมาทุกคน
หมอดูจึงเป็นผู้อ่านกรรมจากวิถีแห่งดวงดาว รูปมือและเส้นเนินในมือ ดูลักษณะโหงวเฮ้งราศีขี่เส็ก และความหมายของไพ่
ลองไปสังเกตดูทุกศาสตร์ที่ว่าแน่ จึงไม่ได้แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกศาสตร์ไม่ได้มีความสมบูรณ์ในตัวเอง หมอดูที่เก่งจึงมักเอาจุดดีแต่ละศาสตร์มาใช้
บางคนดูไพ่ควบคู่กับลายมือ เพื่อต้องการ confirm
บางคนเป็นโหร ต้องใช้วิชา10ลัคน์ตัดในพื้นดวงเพราะเห็นชัดขึ้น
บางคนใช้โหราศาสตร์และลายมือประกอบกัน
บางคนใช้เพียงศาสตร์เดียว
เหล่านี้ขึ้นกับจริตความชอบที่หมอจะศึกษาค้นคว้า
ความแม่นมากน้อย ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
บางที 5ข้อถูกสัก2ข้อก็ถือว่าได้ประโยชน์แล้ว
และขึ้นกับสติปัญญาของผู้ดูด้วย โหราศาสตร์เป็นศาสตร์ชั้นสูง
ทั้งผู้เป็นหมอดูและผู้มาดูหากไม่มีสติไม่มีปัญญาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ปัจจัยที่หมอดูมักดูไม่ค่อยแม่นแม้จะเป็นระดับอาจารย์หรือดูมานานก็ตาม คือ
1.ตัวหมอดูเองขาดจรรยาบรรณ ไม่มีศีลมีธรรม ชี้นำให้มีความเชื่อในทางที่ผิด หลอกเอาทรัพย์ผู้มาดู ในรูปแบบต่างๆ บางทีคนพวกนี้ก็ดูแม่นเพราะมีของเก่าสั่งสมมา
แต่พอมีคนมาขึ้นมาก จิตหมอมีแต่อกุศลคิดเอาประโยชน์จากคนที่ศรัทธา ก็จะหลงทำกรรมหนัก ต้องชดใช้ภายในชาตินี้
หมอดูพวกนี้ ครูโหรที่ไม่มีตัวตนจะลงโทษ บวกแรงกรรมจากที่กระทำกับผู้บริสุทธิ์ จะส่งผลให้มีเหตุวิบัติ มีปัญหาในชีวิตและครอบครัว และเป็นโรคร้ายในที่สุด
2.ตัวหมอพักผ่อนไม่พอ มีเรื่องเครียด วิตกกังวล ขาดการบำเพ็ญ ทานศีลภาวนาไม่ให้ความสำคัญ
ขาดการทำบุญอุทิศให้ครูบาอาจารย์
3.ตัวหมอไม่แตกฉานชำนาญในการวิเคราะห์ดวงชะตามากพอ ให้เวลากับตำราและค้นคว้าน้อยเกินไปอาศัยการคุยเก่งพูดเก่ง จนกลายเป็นหมอดูจิตแพทย์แผนโบราณไป
คนดูแนวชอบปรับทุกข์จะชอบหมอดูประเภทนี้ซึ่งดีกว่าไปหาจิตแพทย์เพราะค่าหมอแพงมาก
4.ตัวผู้ดูเองดวงตกมากๆ มักจะไปเจอหมอดูที่ปลอมหรือแม้จะไปเจอหมอเก่ง หมอที่ว่าเก่งก็จะมึนงงพยากรณ์ไม่ออก และตัวหมอดูเองช่วงนั้นดวงตกย่อมดูไม่แม่นเป็นส่วนใหญ่
ศาสตร์แห่งการหยั่งรู้ฟ้าดิน เอาง่ายไม่ได้ มีเหตุปัจจัยที่ส่งผลมากพอสมควร
5.ตัวผู้ดูคาดหวังมีธงมากเกินไป หรือมีอคติ ซึ่งจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มักอยู่ในกลุ่มพวกชอบลองวิชา และไม่คิดจะเอาประโยชน์อะไรจากศาสตร์พยากรณ์
หมอดู นักพยากรณ์หรือที่ปรึกษาที่ใช้ศาสตร์พยากรณ์ หากมีพฤติวัตร การปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ไม่มีศีลมีธรรม ไม่บำเพ็ญ ขาดในทานศีลภาวนา
สร้างความทุกข์ พูดจาแรงให้คนกลัวหรือจ้องเอาทรัพย์สินเงินทองเยี่ยงโจร ในรูปแบบต่างๆ
ช้าเร็วคนพวกนี้จะต้องรับกรรมหนัก ครอบครัววิบัติ หลายคนลำบากยามแก่เฒ่าและเป็นโรคร้าย จะต้องทุกข์เสียใจมากกว่าคนทั่วไป
เพราะได้สร้างความทุกข์ เบียดเบียน กับคนบริสุทธิ์ แรงครูจะลงโทษ คนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่เห็นโลงศพจะไม่หลั่งน้ำตา
สาธุ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
