21 พ.ย. 2022 เวลา 05:30 • การศึกษา
7 เรื่องต้องรู้การสอบ HSK ระบบใหม่ เตรียมตัวให้ดีก่อนสมัคร
2
หลายคนคงคุ้นเคยกับการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่าง #TOEIC แต่ปัจจุบันนี้หากอยากทำงานบริษัทใหญ่ๆ บริษัทจีน หรือบริษัทที่ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ชาวจีน ก็สามารถใช้ผลสอบ #ภาษาจีน ประดับโปรไฟล์เวลายื่นสมัครงาน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจได้เช่นกัน
🔴 HSK คืออะไร?
HSK เป็นการสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีนมาตรฐานสากลที่จัดขึ้นโดยฮั่นปั้น หรือสำนักงานส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนของจีน เพื่อวัดระดับความรู้และทักษะภาษาจีน ทั้งการฟัง การอ่าน และการเขียน ซึ่งแต่ละระดับก็จะยากง่ายต่างกันไป ผลสอบ HSK สามารถนำไปสมัครเรียนต่อ สอบชิงทุน และสมัครงานที่ใช้ภาษาจีนได้ค่ะ
🔴 สาเหตุของการปรับปรุงข้อสอบ
เมื่อเดือน เม.ย. 2021 ฮั่นปั้นประกาศปรับระบบการสอบ HSK ใหม่ โดยจะเปลี่ยนโครงสร้างข้อสอบ เนื้อหา และมีเกณฑ์ใหม่ๆ ด้วยเหตุผลว่า ข้อสอบแบบเก่ายังไม่สามารถวัดภาษาจีนระดับสูงสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อปริญญาโทและเอก และบุคลากรที่ใช้ภาษาจีนทำงานด้านเศรษฐศาสตร์ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และการสื่อสาร รวมถึงงานวิจัยด้านวิชาการได้ โดยการสอบระดับ 7-9 ที่เพิ่มมาใหม่นั้นจะเริ่มสอบครั้งแรกในวันที่ 26 เดือน พ.ย. ปีนี้
หลายคนอาจกำลังคิดกังวลว่าระบบใหม่จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าอย่างละเอียดว่า HSK ใหม่มีอะไรเพิ่มมาบ้าง และเราควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อพิชิตข้อสอบนี้
1️⃣ เปลี่ยนโครงสร้างข้อสอบ
จากเดิมที่มี 6 ระดับจะเพิ่มมาเป็น 9 ระดับตามตารางที่ 1 ซึ่ง HSK ระดับ 6 จากที่เคยเป็นระดับสูงจะถูกปรับมาอยู่ในระดับกลางและเพิ่มระดับ 7-9 ขึ้นมาให้เป็นการทดสอบระดับสูงแทน
2️⃣ เพิ่มเกณฑ์ใหม่
แม้โครงสร้างเปลี่ยน แต่ข้อสอบ HSK ระดับ 1-6 จะยัง มีพาร์ทฟัง การอ่าน และเขียน เหมือนเดิม โดยส่วนอื่นๆที่จะเพิ่มเข้ามา ได้แก่ การทดสอบเรื่องตัวอักษรจีน และไวยากรณ์ เป็นต้น
3️⃣ บังคับสอบพูด
ปกติแล้วข้อสอบ HSK จะไม่มีการสอบพูด ผู้ที่ต้องการทดสอบทักษะการพูดภาษาจีนจะต้องสอบแยกต่างหาก และจ่ายเงินต่างหากข้อสอบนี้มีชื่อเรียกว่า #HSKK โดยแบ่งเป็นระดับต้น กลาง และสูง อย่างไรก็ตาม ข้อสอบ HSK แบบใหม่ กำหนดให้ผู้ที่สมัครสอบในระดับ 3-6 จำเป็นต้องสอบ HSKK ด้วย โดยค่าสอบ HSKK จะรวมอยู่ในค่าสอบ HSK ระบบใหม่เลย
หลายปีก่อนหน้านี้ การสอบ HSKK ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะส่วนใหญ่ผลสอบ HSKK จะนำไปใช้สมัครขอทุนการศึกษามากกว่าสมัครงาน แถมยังต้องเสียค่าสมัครสอบแยกต่างหากอีก ทำให้หลายคนเลือกที่จะสอบ HSK อย่างเดียวมากกว่า
4️⃣ จำนวนคำศัพท์และไวยากรณ์เพิ่มขึ้น
HSK ระบบใหม่จะมีจำนวนคำศัพท์และไวยากรณ์ในแต่ละระดับจะเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่าง หากต้องการสอบผ่าน HSK ระดับ 1 ผู้สอบจะต้องรู้จักคำศัพท์ภาษาจีนอย่างน้อย 500 ตัวและไวยากรณ์จีน 48 รูป
ต่างจากระบบเก่าที่ต้องรู้คำศัพท์อย่างน้อย 150 ตัวเท่านั้น ส่วนระดับอื่นก็มีจำนวนคำศัพท์เพิ่มขึ้นเหมือนกันตามตารางที่ 2 ส่วนผู้ที่ต้องการสอบ HSK ในระดับ 7-9 จะต้องรู้คำศัพท์ภาษาจีนทั้งหมด 11,092 คำ งานนี้ใครที่อยากเรียนต่อป.โทที่จีน อาจจะต้องขยันอ่านหนังสือและท่องศัพท์เพิ่มขึ้นอีกหน่อยนะคะ เพราะอนาคตหากสมัครเรียนป.โทหรือป.เอกอาจจะต้องใช้ HSK ระดับ 7-9 ค่ะ
5️⃣ สอบเขียนตัวอักษรจีน
การเขียนตัวอักษรจีนเป็นทักษะขั้นพื้นฐาน ซึ่ง HSK ระบบเก่าจะไม่ได้ผนวกเข้าไปในตัวข้อสอบด้วย แต่พระบบใหม่นี้จะมีพาร์ทที่ทดสอบความรู้เกี่ยวกับตัวอักษรจีนและการเขียนอักษรจีนเพิ่มเข้ามาใน HSK ระดับ 1-3 ด้วย โดยจำนวนตัวอักษรจีนที่ผู้สอบควรรู้จะอยู่ที่ประมาณ 100-300 คำ ดังนั้นใครจะสอบระดับต้นต้องฝึกคัดมาให้พร้อมนะจ๊ะ
6️⃣ ข้อสอบยากขึ้น
เนื้อหาในข้อสอบ HSK ใหม่ระดับ 7-9 จะมีทั้งรายงานข่าว การเจรจาธุรกิจ สารคดี เป็นต้น ใครที่จะสอบ HSK ใหม่ในระดับนี้ นอกจากคำศัพท์ภาษาจีนทั่วไปแล้ว ควรมีความรู้เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยค่ะ
ส่วนรูปแบบข้อสอบระดับ 7-9 นั้นจะมีทั้งเลือกคำตอบถูกผิด ข้อสอบแบบหลายตัวเลือก เรียงลำดับเรื่องราว แปลภาษาจีน การพูดแสดงความคิดเห็น และอื่นๆ ที่เพิ่มความท้าทายให้เราต้องใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
ทั้งนี้การสอบระดับสูงหรือระดับ 7 8 และ 9 นั้นจะใช้ชุดข้อสอบเดียวกันเลยค่ะ แต่จะให้ผ่านในระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับคะแนนที่ทำได้ลดหลั่นกันไป
7️⃣ ผลสอบ HSK ระดับ 7-9 ใช้กับอะไรได้บ้าง?
คำตอบคือใช้ยื่นสมัครเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอกได้ค่ะ แม้ว่าปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีนจะยังคงรับผลสอบ HSK ระดับ 5-6 อยู่ แต่ในอนาคตคงจะหันมาใช้คะแนนสอบ HSK ระดับ 7-9 แทน นอกจากนี้ยังสามารถใช้สมัครงานด้านการแปล การสอนภาษาจีน การค้าระหว่างประเทศ หรืองานด้านวิเคราะห์กฎหมายและนโยบายต่างๆ ที่ต้องใช้ภาษาจีนระดับสูงค่ะ
คาดว่าเพื่อนๆ น่าจะพอเห็นภาพการสอบ #HSK แบบใหม่กันบ้างแล้วนะคะ ใครที่วางแผนจะสอบควรเริ่มเตรียมตัวท่องศัพท์และอ่านหนังสือตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะดังสุภาษิตจีนที่ว่า ยอดสำคัญของวันอยู่ที่ตอนเช้า ยอดสำคัญของปีอยู่ที่ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มก่อนรู้ก่อนเป็นก่อนค่ะ สำหรับใครที่เพิ่งสอบ HSK ระบบเก่ามาไม่นาน ทางฮั่นปั้นยืนยันว่า ผลสอบยังคงใช้ได้อยู่ แต่ในอีก 2-3 ปีก็อาจจะต้องปรับตามมาตรฐานการสอบใหม่ค่ะ
โฆษณา