21 พ.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
ย้อนดูผลงาน Disney ในมือ Bob Iger ทำไมต้องดึงเขากลับมาทำงานอีกครั้ง
ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาของประเทศไทย (ซึ่งตรงกับวันที่ 20 ของสหรัฐฯ) ได้มีข่าวที่ไม่คาดคิดของบริษัทความบันเทิงยักษ์ใหญ่ “Disney” ประกาศออกมา
นั่นก็คือ “การประกาศแต่งตั้ง CEO ใหม่ ที่เคยเป็น CEO คนเก่าอย่าง Bob Iger”
2
ซึ่งนี่เป็นข่าวใหญ่ทีเดียวครับ เพราะการกลับเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้ เป็นการเข้ารับตำแหน่งหลังจากที่คุณ Iger พึ่งประกาศวางมือไปได้เพียงแค่ประมาณ 2 ปีเท่านั้น
โดยเหตุผลซึ่งต้องไปดึงตัวกลับมา มาจากในช่วงที่เขาก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ไป บริษัทได้เผชิญเข้ากับความท้าทายหลายอย่าง โดยเฉพาะ การระบาดของโควิด 19 และการแข่งขันในวงการธุรกิจสตรีมมิ่ง
ทำให้มูลค่าบริษัทของ Disney ตกต่ำลงไปพอสมควรทีเดียว
1
จึงต้องกลับไปดึงตัว อดีตผู้นำซึ่งพาให้บริษัทเข้าสู่ยุครุ่งโรจน์อย่างยิ่ง อย่างคุณ Bob Iger กลับมา
โดยจุดเริ่มต้นการทำงานของ Bob Iger กับ Disney ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1995
ในตอนนั้นคุณ Iger ยังทำงานให้กับบริษัทผลิตสื่อชื่อดังอย่าง Capital Cities/ABC อยู่ในฐานะ COO ผู้มีอนาคตไกล
ซึ่ง Disney ในตอนนั้นก็กำลังมองหาธุรกิจทางด้านอื่น ที่ตัวเองสามารถจะขยายตัวไปสร้างแหล่งรายได้เพิ่มได้
ซึ่งหวยก็มาตกที่ Capital Cities/ABC ที่ถูก Disney เข้าซื้อกิจการไป และก็ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น ABC Inc.
โดย Bob Iger ก็ยังได้ดำรงตำแหน่งในการบริหาร ABC Inc. ซึ่งกลายเป็นบริษัทลูกต่อไปอีก 4 ปี ก่อนที่จะได้ขยับมามีตำแหน่งในบริษัทแม่โดยตรง
และด้วยความสามารถในการบริหาร และการจัดการความสัมพันธ์กับผู้คน ทำให้ในปี 2005 ทางบริษัทก็ได้แต่งตั้งให้เขาขึ้นดำรงตำแหน่ง ​CEO คนใหม่ของบริษัทแทนที่ Michael Eisner
และในช่วงเวลาของการดำรงตำแหน่ง Iger ก็ได้แสดงความสามารถของเขาออกมา จนหลายคนยกย่องว่า เขาเป็น CEO ที่ดีที่สุดคนหนึ่งในเวลานั้น
1
โดยเฉพาะผลงานการหว่านล้อม เพื่อปิดสัญญาการเข้าซื้อบริษัทที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ซึ่งก็เป็นผลมาจากความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนของคน ที่สามารถซื้อใจให้คนเก่งๆ ยอมเข้ามาทำงานด้วยได้
1
ยกตัวอย่างในปี 2006 ที่คุณ Bob Iger สามารถเข้าไปหว่านล้อมให้ Steve Jobs ขายสตูดิโอคู่แข่งของ Disney อย่าง Pixar ได้
โดยว่ากันว่า จริงๆ ตัว Jobs ก็ไม่ได้มีความต้องการจะขายในตอนแรก แต่เป็นเพราะการเจรจากับ Iger ที่ทำให้ Jobs เชื่อมั่นว่า การเข้ามาร่วมกับ Disney จะทำให้สตูดิโอของเขาไปได้ดี
1
หรือในปี 2009 ซึ่ง Disney ตัดสินใจเข้าไปซื้อ Marvel Entertainment
หรือในปี 2012 ที่เข้าไปซื้อ Lucasfilm เจ้าขอเฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Star Wars
ซึ่งดีลทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จได้ มาจากฝีมือของ Iger ที่สามารถเจรจาให้ทุกคนเชื่อมั่นใน Disney ได้ และยอมเข้ามาร่วมหัวจมท้ายกัน
ซึ่งมูลค่าการซื้อขายหลักหลายพันล้าน ก็ออกดอกต่อผลให้กับ Disney ได้อย่างรวดเร็ว จากที่พวกเขามีช่องทางการต่อยอดหลากหลาย ทั้งในสื่อเคเบิลทีวี สวนสนุกและที่พัก การขายของที่ระลึก การขายลิขสิทธ์ไปให้คนอื่น หรือล่าสุดก็คือ การสร้างธุรกิจสตรีมมิ่งของตนเอง
นอกจากนี้ Iger ยังมีส่วนสำคัญในการขยายตลาดไปสู่ดินแดนเอเชียตะวันออก ซึ่งกำลังซื้อเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสร้าง Hong Kong Disneyland ในปี 2006 และ Shanghai Disney Resort ในปี 2016
1
หลังจากดำรงตำแหน่ง CEO มา 15 ปี และทำให้มูลค่าบริษัทเติบโตจาก 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกลายเป็น 257,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คุณ Bob Iger ก็ตัดสินใจที่จะเกษียณตัวเองจากตำแหน่ง CEO
1
และส่งไม้ต่อให้กับผู้ถูกเลือกอย่าง Bob Chapek ขึ้นมารับตำแหน่งแทน
แต่ด้วยความท้าทายในช่วงที่ผ่านมา ที่เกิดจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโควิด ปัญหาเรียกร้องให้มีการสนับสนุนด้านสิทธิในสหรัฐฯ หรือนโยบายด้านสตรีมมิ่ง ก็ทำให้บริษัทสูญเสียมูลค่าลงไปอย่างมาก
3
จนในที่สุดก็มีการประกาศแต่งตั้ง Bob Iger กลับมาดำรงตำแหน่ง CEO อีกครั้งหนึ่ง โดยทาง Disney ได้ระบุว่า การกลับเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้จะเป็นไปแบบสั้นๆ เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น
ก็ต้องติดตามดูตอนต่อไปกันว่า เขาจะกลับมาเป็นอัศวินม้าขาวกอบกู้บริษัทให้เติบโตขึ้นในช่วงเวลาอันท้าทายแบบนี้ได้หรือไม่
1
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
3
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา