23 พ.ย. 2022 เวลา 02:00 • การเมือง
เสียงเตือนจาก “แบงก์ชาติ” ตั้งการ์ดให้สูง ปีหน้าป่วนแน่ | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
เสียงเตือนจาก “แบงก์ชาติ” ตั้งการ์ดให้สูง ปีหน้าป่วนแน่ | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
ระยะหลังเราไม่ค่อยเห็นธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือ “แบงก์ชาติ” ออกมาเตือนอะไรบ่อยนัก จะมีก็เพียงบอกเล่าถึงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจและความเสี่ยงต่างๆ ที่จะต้องเผชิญในระยะข้างหน้า ไม่ถึงขั้น “เตือน” ให้ทุกคนเฝ้าระวังอย่างจริงๆ จังๆ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “แบงก์ชาติ”
1
โดยท่านผู้ว่าการฯ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมรับประทานอาหารกลางวัน วัตถุประสงค์หลักของการเชิญทานข้าวในครั้งนี้ ก็เพราะต้องการจะส่งเสียง “เตือน” ให้สื่อมวลชนตระหนักและ “สื่อ” ออกไปให้สาธารณชนรับทราบถึงความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่อาจต้องเผชิญในปีหน้า
1
ประเด็นหลักที่ท่านผู้ว่าการแบงก์ชาติต้องการเตือนให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งการ์ดสูงเพื่อรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจมาเยือน ซึ่งตัวท่านเองก็ยังไม่รู้ว่าจะมาในรูปแบบไหน แต่เชื่อว่ามาแน่นอน นั่นคือ ความผิดเพี้ยนของตลาด หรือ “Market Dysfunction”
1
ซึ่ง ดร.เศรษฐพุฒิ ย้ำคำนี้อยู่หลายรอบในวงพูดคุยมื้อกลางวัน ท่านบอกว่า คนยังพูดถึงเรื่องนี้น้อยมาก แต่มีความสำคัญ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ต่างกับสุภาษิตที่ว่า “น้ำลดตอผุด” ซึ่งที่ผ่านมาทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ กดดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำ เมื่อถึงจุดหนึ่งปัญหาต่างๆ ก็เริ่มโผล่ออกมาให้เห็น
ผู้ว่าการแบงก์ชาติ บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นหากไปเกิดในจุดที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ก็อาจไม่ได้เซอร์ไพร์ซอะไรมาก แต่ระยะหลังปัญหาต่างๆ มักไประเบิดในจุดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เช่นทุกครั้งเมื่อมีปัญหา เราก็พอจะรู้ว่าปัญหาจะตกอยู่ที่กลุ่มเอสเอ็มอีหรือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
แต่ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ ปัญหารอบนี้ดันไปเกิดกับประเทศที่เซฟที่สุด เกิดกับตลาดที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด และยังเกิดในสินค้าที่มั่นคงที่สุด ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ อังกฤษ เป็นประเทศที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดปัญหา ที่สำคัญยังไปเกิดกับตัวพันธบัตรรัฐบาล ไปเกิดในกลุ่ม pension fund สะท้อนว่า สถานการณ์เวลานี้ปัญหาต่างๆ อาจเกิดขึ้นในจุดไหนก็ได้ ความเสี่ยงจึงมีสูงมากกว่าปกติ
2
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คือ อาการของ Market Dysfunction ซึ่ง ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ย้ำเตือนว่า ปีหน้ากับระเบิดลักษณะนี้ยังมีอยู่เยอะ ที่น่ากลัวคือไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง จึงอยากเตือนให้ทำใจเตรียมรับมือกับข่าวไม่ดี ซึ่งอาจจะทำให้ หุ้นตก ต่างชาติขนเงินกลับ ค่าเงินอ่อนลง แต่อย่างไรก็ตามในมุมพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยแล้ว ยังพอจะมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง
6
ซึ่ง ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจจะโตไม่ถึง 3.8% ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่อย่างน้อยจะไม่เลวร้ายถึงขั้นโตต่ำกว่า 3% หรือพูดง่ายๆ คือ เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังคง Takeoff อยู่ เพียงแต่จะไม่ Smooth เท่านั้น
1
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ปัจจัยที่ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ให้ความเป็นห่วง อันแรกคือ ปัญหา Geopolitics หรือความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในระยะยาวอย่างแน่นอน ส่วนอีกอัน คือ การดำเนินนโยบายแปลกๆ ของภาครัฐ ซึ่งช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง พรรคการเมืองต่างๆ เริ่มหาเสียง และก็เริ่มเห็นการเสนอนโยบายที่อาจบ่อนทำลายเศรษฐกิจระยะยาว เช่น การพักหนี้ต่างๆ
โดยผู้ว่าการแบงก์ชาติ ย้ำเตือนว่า อยากให้ดูบทเรียนในต่างประเทศเป็นตัวอย่าง เช่น ในอังกฤษชัดเจนมาก เพราะเห็นได้ชัดว่า “ตลาดจะ Punish stupid policy” นี่คือโค๊ตสำคัญของผู้ว่าการแบงก์ชาติที่อยากสื่อให้สาธารณชนรับทราบ!
3
โฆษณา