26 พ.ย. 2022 เวลา 13:15 • กีฬา
‘ชู่จวี’ จากกีฬาในกองทัพ สู่ต้นกำเนิดการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกของโลก | Main Stand
ภาพยนตร์เรื่อง Red Cliff 2 (สามก๊กโจโฉแตกทัพเรือ ภาค 2) ‘จอห์น วู’ (John Woo) ผู้กำกับของเรื่อง ได้ใส่ฉากหนึ่งที่มีทหารในกองทัพของโจโฉกำลังแข่งเตะลูกหนังกันอย่างเข้มข้น กิจกรรมนั้นเรียกว่า ‘ชู่จวี’
ทำให้เกิดการถกเถียงกันว่าชู่จวีในภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นเพียงกีฬาที่ จอห์น วู คิดขึ้นเองหรือมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์กันแน่จนมีการค้นคว้ากันขึ้น ซึ่งในที่สุดก็พบว่ามันเป็นกีฬาชนิดหนึ่งของจีนยุคโบราณที่มีวิธีการเล่นคล้ายกับการเตะฟุตบอลในยุคปัจจุบัน
จากนั้นในปี ค.ศ. 2004 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า จีน และ กรีซ (ของกรีซมีชื่อว่า อิพิสไรกอส) เป็นชนชาติแรกที่ให้กำเนิดกีฬาฟุตบอล
Main Stand จึงจะพาท่านย้อนไปทำความรู้จักกับกีฬาชู่จวีว่ามีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์จีนมากน้อยเพียงใด แล้วเหตุใดฟีฟ่าจึงประกาศให้กีฬาชนิดนี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกในโลก ติดตามได้ที่นี่
ต้นกำเนิดกีฬา ‘ชู่จวี’
ชู่จวี กำเนิดในประเทศจีนนานมากแล้ว โดยบันทึก “สื่อจี้” ของ ‘ซือหม่าเชียน’ ผู้บันทึกประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยฮว๋างตี้จนถึงสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ (ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก) ได้อธิบายไว้ว่า ชู่จวีเป็นกิจกรรมบันเทิงรูปแบบหนึ่งในหมู่ประชาชนทั่วไป มีที่มาตั้งแต่ยุคจักรพรรดิเหลืองหรืออึ่งตี้ เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อน
โดยเป็นการละเล่นเพื่อการผ่อนคลายของทหาร หรือเกิดขึ้นเมื่อ 400 ปีก่อนคริสต์ศักราช ราว 2,500 ปีก่อนในยุคสงครามระหว่างรัฐครั้งใหญ่ แต่ชู่จวีได้รับความนิยมถึงขีดสุดในยุคราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220)
ชู่จวีมีความหมายตรงตัวว่า “เตะบอล” ที่มักถูกนำไปเล่นในกองทัพเพื่อเป็นการฝึกทหาร และมีการพัฒนาอีกครั้งในรัชสมัยของจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ (ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก)
จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ถือเป็นแฟนตัวยงของกีฬาชนิดนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ชอบดูการแข่งขันเท่านั้น แต่องค์จักรพรรดิยังชอบลงไปเล่นด้วยตัวเองอยู่เสมอ
ต่อมาในสมัยจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ (ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก) ได้มีการเขียนกติกาขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งว่ากันว่าองค์จักรพรรดิทรงโปรดกีฬาชนิดนี้มากจนมีรับสั่งให้สร้างสนามแข่งขันขึ้นในบริเวณค่ายทหารทุกที่ที่พระองค์เสด็จไป เรียกว่า “จูซาง” เพื่อไว้ใช้แข่งขันกีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะ โดยมีเสาประตูเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว และมีลูกบอลทำจากขนนก
แม้ชู่จวีจะดูเป็นกีฬาสำหรับผู้ชาย แต่ในสมัยราชวงศ์ฮั่นเคยปรากฏภาพวาดของหญิงสาวมัดมวยผมกำลังเล่นชู่จวีพร้อมโบกแขนเสื้อไปมา ซึ่งบ่งชี้ได้ว่ากีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงเช่นกัน
ชู่จวีในยุคสามก๊ก
ปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ตงฮั่น ราวปี ค.ศ. 220 – 280) องค์จักรพรรดิทรงอ่อนแอ ขันทีมีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขุนศึกตามหัวเมืองต่าง ๆ พากันกระด้างกระเดื่องและตั้งกองกำลังส่วนตัวขึ้นทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันโดยไม่สนใจรัฐบาลกลาง ก่อความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านไปทั่วแผ่นดิน
จอห์น วู ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกง ได้นำเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ช่วงสามก๊ก มาทำเป็นภาพยนตร์เรื่อง ‘Red Cliff’ (สามก๊กโจโฉแตกทัพเรือ) ที่เกิดขึ้นราวปี ค.ศ. 208 ซึ่ง โจโฉ ผู้นำแห่งวุ๊ยก๊ก ยกทัพเรือนับแสนตั้งประชิดผาแดงเพื่อหวังบุกพิชิต ‘ง้อก๊ก’ ของ ซุนกวน ให้ราบคาบ แต่ชุนกวนได้ร่วมมือกับ เล่าปี่ ต่อต้านการโจมตีของโจโฉจนแตกพ่ายไปในที่สุด ทำให้แผ่นดินแตกออกเป็นสามก๊กอย่างชัดเจน
ในภาพยนตร์ดังกล่าวจะเห็นฉากกองทัพของโจโฉเล่นชู่จวีเพื่อผ่อนคลาย เป็นฉากที่ จอห์น วู ตั้งใจนำเสนออย่างละเมียดละไมและเต็มไปด้วยสีสันอันมีชีวิตชีวาในกองทัพ และต้องการนำเสนอชู่จวีให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
ว่ากันว่าเหตุที่ชู่จวีกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในยุคสามก๊กเป็นเพราะมีสงครามเกิดขึ้นทั่วแผ่นดิน ผู้นำกองทัพจึงจัดให้มีการเล่นกีฬาภายในกองทัพขึ้น เพราะนอกจากพลทหารจะได้ผ่อนคลายแล้ว ชู่จวียังช่วยในเรื่องระเบียบวินัยในกองทัพ และช่วยฝึกพละกำลังของพลทหารได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
เนื่องจากชู่จวีเป็นกีฬาที่ต้องแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย มีผู้เล่นฝ่ายละ 12 คน ซึ่งผู้เล่นจะต้องกอดรัดฟัดเหวี่ยง ชิงไหวชิงพริบ หรือชิงจังหวะคล้ายกับกีฬารักบี้ผสมฟุตบอล และวัดกันว่าฝ่ายไหนเตะบอลเข้าประตูของคู่แข่งได้มากกว่าฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ
การจัดแข่งกีฬาชนิดนี้ นอกจากจะช่วยให้พลทหารได้ผ่อนคลายแล้วยังเป็นการสร้างความฮึกเหิมให้กับกองทัพได้กระหายในชัยชนะ ซึ่งใครเล่นได้เก่งก็จะมีการเลื่อนยศ และเลื่อนตำแหน่งให้อีกด้วย
ดังนั้นสิ่งที่ จอห์น วู นำเสนอไว้ในหนังจึงดูไม่ใช่สิ่งที่เกินจริงไปแม้แต่น้อย
ได้รับความนิยมเพราะสงคราม และหายไปพร้อมสงคราม
หลังหมดสิ้นยุคสามก๊ก ประเทศจีนเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง จนราวปี ค.ศ. 618 – 907 ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ถังขึ้นมาครองอำนาจ และรวบรวมจีนให้กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้งเหมือนอย่างที่ราชวงศ์ฮั่นเคยทำได้ในอดีต
พระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถัง ได้สร้างกลไกการปกครองที่มีประสิทธิภาพและมีเสถียรภาพทั่วราชอาณาจักร จนบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าทางเศรษฐกิจ สังคม ศิลปะ วรรณคดี และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นยุคทองของจีนอีกยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้
ยุคนี้เองที่ชู่จวีได้รับการพัฒนาปรับปรุงจากขนนกให้กลายมาเป็นลูกหนังที่มีอากาศบรรจุไว้ภายใน ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ราษฎรทั่วไปและภายในราชสำนัก จนมีการสร้างจูซางหรือสนามแข่งขันชู่จวีไปทั่วนครฉางอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ถัง
ชู่จวีได้รับความนิยมถึงขีดสุดช่วงราชวงศ์ซ่ง ในบันทึกกล่าวว่ามีการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์กันขึ้น และมันช่วยยกระดับเรื่องเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์และสังคมเป็นอย่างมาก จนกีฬาชนิดนี้แพร่กระจายไปที่ญี่ปุน เกาหลี และภูมิภาคตะวันออก รวมถึงในยุโรปตะวันตก จนได้พัฒนาขึ้นมาเป็นฟุตบอลในประเทศอังกฤษ
มีการตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงราชวงศ์ถังกับราชวงศ์ซ่ง ชู่จวีเป็นที่นิยมถึงขั้นสามารถพบจูซางหรือสนามแข่งชู่จวีได้ทั่วพระนคร ซึ่งกล่าวได้ว่าการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว
แต่น่าเสียดายที่ชู่จวีกลับซบเซาลงในสมัยราชวงค์หยวนและหมิง เนื่องจากมีสงครามแย่งชิงอำนาจกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผนวกกับมีภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วแผ่นดินจีน จนประชาชนเดือดร้อนและอดอยากปากแห้งล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่ค่อยมีการจัดแข่งชู่จวีขึ้นในช่วงยุคสมัยนี้ได้บ่อยนัก
ชู่จวี ต้นกำเนิดของฟุตบอล ที่รับรองโดยฟีฟ่า
ปัจจุบันกีฬาชู่จวีได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งโดยกลุ่มยุวชนชาวจีน ที่มีการแต่งกายด้วยอาภรณ์ย้อนไปในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น และจับกลุ่มกันเล่นชู่จวีในสวนสาธารณะของกรุงปักกิ่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้จักกับกีฬาชนิดนี้มากยิ่งขึ้น
1
ในวันที่ 9 - 11 มิถุนายน ค.ศ. 2004 ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิจัยความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลประชุมกันที่เมืองหลินเจอ มณฑลซานตง และเห็นพ้องต้องกันว่าชู่จวีในสมัยโบราณของจีนมีขึ้นครั้งแรกที่เมืองหลินเจอของก๊กฉี ในสมัยราชวงศ์ชุนชิวจั้นกั๋ว
มีหลักฐานยืนยันจากภาพวาดยุคโบราณเรื่องการเล่นกีฬาชนิดนี้ และยังมีการค้นพบเหรียญบรอนซ์ที่แกะสลักเป็นรูปการเล่นกีฬาชนิดนี้อีกด้วย ทำให้มีน้ำหนักชัดเจนว่าชู่จวีคือการเล่นฟุตบอลครั้งแรกของโลก และมันเกิดขึ้นที่ประเทศจีน
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2004 ในการแถลงข่าวของงานมหกรรมฟุตบอลนานาชาติแห่งประเทศจีนครั้งที่ 3 สมาคมฟุตบอลโลกและสมาคมฟุตบอลเอเชียก็ประกาศว่า
"จีนเป็นแหล่งกำเนิดของงานกีฬาฟุตบอล"
ทำให้ทั่วโลกรู้ว่าฟุตบอลโลกกำเนิดขึ้นที่เขตหลินเจอ เมืองเจอโป๋ มณฑลซานตง ซึ่งมันถูกรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อย่างเป็นทางการอีกด้วย
บทความโดย ณัฐพงศ์ อินต๊ะริด
แหล่งอ้างอิง
fifamuseum.com.CUJU. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.fifamuseum.com/en/blog-stories/editorial/origins-cuju-in-china/
thai.cri.cn .(2555). ชู่จวี (ฟุตบอลดั้งเดิม). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://thai.cri.cn/247/2012/11/28/63s204684.htm
วิกิพีเดียสารานุกรม .(2014). ชู่จฺวี. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : shorturl.at/ghOQ8
V.F.D.(2555). คุณแน่ใจเหรอ? ว่าฟุตบอลเกิดขึ้นที่อังกฤษ [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.dek-d.com/board/view/2387658/
Art of Story – อาร์ตเล่าเรื่อง (2565). กีฬาฟุตบอล ถือกำเนิดในยุคสามก๊ก !? [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.youtube.com/watch?v=O98mOQZvPLk
www.silpa-mag.com (2564). ซือหม่าเชียน ผู้บันทึกประวัติศาสตร์ 3,000 ปีของจีน โดนตอน มาเป็นเจ้ากรมขันทีได้อย่างไร? [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.silpa-mag.com/history/article_60927
โฆษณา