27 พ.ย. 2022 เวลา 07:51
ฎีกาที่ 3264/2560
ในคดีแพ่ง ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง เจ้าหน้าที่ของศาลชั้นต้นจะคำนวณค่าธรรมเนียมที่คู่ความได้เสียไปในการดำเนินคดีลงในบัญชีค่าฤชาธรรมเนียม เพื่อให้คู่ความได้เสียไปในการดำเนินคดีลงในบัญชีค่าฤชาธรรมเนียม เพื่อให้คู่ความที่ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้น
นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลได้ถูกต้องครบถ้วน สำหรับคดีนี้มีการคำนวณค่าธรรมเนียมที่โจทก์ได้เสียไปในการดำเนินคดีรวมทั้งค่าทนายความที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้รวมเป็นเงิน 10,650 บาท ลงในบัญชีค่าฤชาธรรมเนียมแล้ว และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์
จำเลยผู้อุทธรณ์จึงมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวโดยเคร่งครัด หาใช่เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะต้องแจ้งจำนวนค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้จำเลยทราบและมีคำสั่งให้จำเลยปฏิบัติเสียก่อนไม่ เพราะกรณีมิใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง ที่ศาลชั้นจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ
ดังนั้น เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์ชำระเพียงค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์โดยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาด้วย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรา 229 มีผลทำให้อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยจะอ้างว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยโดยมิได้สั่งให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาก่อน เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบหาได้ไม่ กรณีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบที่จะยกอุทธรณ์ของจำเลยได้ทันทีโดยไม่จำต้องมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางเสียก่อน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบแล้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา