อานันท์ ปันยารชุน
ผมเขียนบทความนี้ในฐานะติ่งตัวยงนะครับ….
เมื่อวานผมได้มีโอกาสนั่งฟังท่านนายกอานันท์ ปันยารชุน อดีตผู้นำประเทศและเป็นสุภาพบุรุษที่ผมแอบปลื้มแอบชื่นชม เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับตัวยงเลยทีเดียวในงาน Dinner talk ของ The Standard Economic Forum ท่านนายกอานันท์ในวัยเก้าสิบปียังดูสง่า แข็งแรง ทรงพลังอย่างน่าทึ่งมาก
ท่านนายกมาถึงงานก่อนขึ้นเวทีเป็นชั่วโมง โอภาปราศรัยทักทายผู้คนก่อนขึ้นเวทีเสวนาอีกหนึ่งชั่วโมง บนเวทีนั้นท่านนายกก็ยังเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย ด้วยเรื่องราวที่คมกริบ ลุ่มลึก ชวนคิด และด้วยพลังงานที่ไม่มีตก ไม่มีเสียงสั่นใดๆเลย ผมนั่งฟังด้วยความทึ่งว่าในวัยเก้าสิบปีแบบนี้จะมีสักกี่คนที่จะมีจะเป็นแบบนี้ได้ แถมเพิ่งรู้จากคุณเคน นครินทร์บนเวทีด้วยว่าท่านนายกฯเพิ่งไปงานหนึ่งมาก่อนงานนี้อีกด้วย
ในวัยหนุ่มของผมนั้นเติบโตมากับยุคที่นายกอานันท์ฯเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่สองสมัย เป็นช่วงที่ในความคิดของผมนั้นเป็นคณะรัฐมนตรีที่มีความสามารถและทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมองย้อนกลับไปหลังจากชีวิตผมได้ผ่านรัฐบาลหลายยุคหลายสมัยมาจนถึงปัจจุบัน
นายกอานันท์เล่าบนเวทีถึงภาวะผู้นำทางการเมืองในช่วงนั้นว่ารู้ตัวดีว่ามีเวลาน้อย ก็เลยต้องเลือกคณะทำงานที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย เป็นคนเก่ง คนดี และต้องรู้จักระบบราชการไทย ซึ่งเป็นข้อสำคัญในการขับเคลื่อนภาครัฐอันต่างไปจากภาคเอกชนที่สั่งแล้วทำได้ ซึ่งผลงานในช่วงสั้นๆนั้นก็เป็นที่ยอมรับกันจนทุกวันนี้
หลังจากนั้น ผมก็แอบปลื้ม แอบติดตามประวัติของท่านนายกฯ ได้ทึ่งกับประวัติชีวิตอันหลากสีสันและประสบการณ์ของท่าน ตั้งแต่รับราชการกระทรวงต่างประเทศ ไปบุกเบิกเรื่องความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์จนต้องลาออกจากราชการ แล้วมาทำงานภาคเอกชนที่สหยูเนี่ยนก่อนที่จะมีบทบาทอย่างมากในฐานะผู้นำประเทศ
จนต่อมาถึงบทบาทสำคัญต่างๆที่มีผลต่อบ้านเมืองอีกหลายเรื่อง เวลาท่านนายกฯให้สัมภาษณ์ในเรื่องต่างๆ ก็จะรู้สึกได้ถึงภาวะผู้นำ กล้าตัดสินใจและความจริงใจของท่านที่มีต่อบ้านเมืองเสมอ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับท่านหรือไม่ก็ตาม
ผมเองได้มีโอกาสพบเจอท่านนายกฯแบบตัวเป็นๆเมื่อตอนที่เข้ามาทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีโอกาสนั่งฟังท่านนายกฯอยู่ไกลๆเวลามีประชุมบอร์ดเพราะท่านนายกฯเป็นประธานกรรมการของธนาคาร ได้มีโอกาสนำเสนองานอยู่สองสามครั้ง
ทุกครั้งที่ได้เข้าประชุมก็จะประทับใจเวลาได้เห็นท่านนายกฯ ตั้งใจฟังทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กตัวน้อยแค่ไหน และได้ฟังท่านนายกฯให้ความเห็นที่คมคาย ในมุมมองของโลกกว้างใหญ่แต่แฝงความนุ่มนวลด้วยเมตตาเสมอ ผมได้มีโอกาสไปพบท่านนายกฯที่ห้องทำงานอยู่สามสี่ครั้ง ทุกครั้งที่ไปพบท่าน เวลากลับท่านนายกฯจะเดินมาส่งที่ลิฟท์ทุกครั้ง
เป็นกริยาของสุภาพบุรุษและผู้ใหญ่ที่น่าชื่นชมอย่างที่สุด ภรรยาผมเคยไปพบท่านอยู่หนึ่งครั้งก็กลับมาเล่าด้วยความตื่นเต้นและภูมิใจว่าท่านนายกฯเดินมาส่งที่ลิฟท์แม้ในตอนนั้นก็อยู่ในวัยแปดสิบกว่าแล้วด้วย
บนเวทีเสวนาเมื่อวาน คุณเคน นครินทร์ชวนท่านนายกฯคุยเรื่องผู้นำ มีข้อคิดดีๆหลายข้อมาก แต่ที่ผมชอบที่สุดและท่านนายกฯพูดคำนี้อยู่บ่อยครั้งบนเวทีก็คือเรื่อง กาลและเวลา นายกอานันท์บอกว่าทุกอย่างมีกาลเวลา ผู้นำต้องรู้ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ไม่เหมือนกัน ต้องรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ต้องรู้ว่าเปลี่ยนแปลงไปทางไหน ต้องวางตัวยังไง คนที่น่าอนาถคือคนที่ไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น..
นายกอานันท์เล่าถึงตัวเองที่เป็นประธานกรรมการของธนาคารไทยพาณิชย์มาสิบสองปี เมื่อถึงยุคที่เริ่มฟังเรื่องใหม่ๆอยาก Digital Banking ไม่เข้าใจ ก็คิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะนำองค์กรต่อไป นายกอานันท์ก็ขอลาออกมา…
มันจะเสียหน้าอะไรถ้าต้องลุกออกมา นายกฯทิ้งท้ายไว้เป็นข้อคิดเตือนสติผู้นำทั้งหลายบนเวทีเมื่อวาน…
ผมไปนั่งย่อๆ ข้างนายกฯเพื่อกราบสวัสดีท่านระหว่างทานข้าว ไม่น่าเชื่อว่านายกอานันท์จะจำได้ ท่านนายกฯทักว่าเดี๋ยวนี้ไปทำบริษัทลูกแล้วหนิ (โรบินฮู้ด) สมัยก่อนอยู่ดีแทคใช่มั้ย…
สำหรับคนตัวเล็กที่นั่งไกลๆเวลาประชุมบอร์ด แทบไม่เคยได้พบท่านเท่าไหร่นัก ในวัยเก้าสิบปีที่ท่านนายกฯยังจำได้และเมตตาทักทาย เป็นทั้งความปลื้มใจและเป็นเสน่ห์ของนายกอานันท์ฯที่ผมปวารณาเป็นติ่งท่านอย่างสุดใจเลยครับ…
- 25
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
