28 พ.ย. 2022 เวลา 05:55 • ปรัชญา
เรื่องอารมณ์ อยากได้ อยากมี อยากเป็น ..เป็นอย่างนี้อย่างนี้ เรื่องอยาก มันมีอยู่ในกายมนุษย์..อารมณ์อยากพากายวาจาใจไปทำในสิ่งที่ดี และไม่ดี .. เราอยากได้ บุญกุศล..มันก็ความอยากพาไป พากายไปทำ ในสิ่งที่ดี ดีที่เราระลึกนำกายพ่อแม่ไปสร้างบุญกุศล ไม่ได้ใช้กายอยู่กับ..อารมณ์ที่พาไปยึดวัตถุสิ่งมีชีวิตไม่มีชีวิต
สิ่งที่เรานำกายพ่อแม่ไปเสาะแสวงหามาได้ ด้วยความเหนื่อยยากลำบากกายลำบากจิต เราก็แบ่งปันนำมาแปรสภาพให้เป็นทาน เป็นบุญ สละในสิ่งที่ได้มาเรายึดถือ .จิตมันยึดใครมายืดแย่งก็ไม่ยอม ..โกรธโมโห ..เราฝึกหัดสละออกไป แปรสภาพให้เป็นบุญ ..สละด้วยความเต็มใจ ..ให้เป็นบุญ .เกิดขึ้น ฝากไว้ในศาสนา ที่มีคำสอนดีๆเป็นแนวทางให้แก่จิตของเรา มีศีลสมาธิปัญญาที่กาย และจิต
เราทำบุญสละความยึดถือ นั่นไป เราทำด้วยความเต็มใจ ไม่คิดเอาคืน..อุทิศกุศลให้คนนั้นคนนี้ เจ้ากรรมนายเวร ก็ไม่ไปเรียกร้องหากรรม ให้ร่ำรวยเหนื่อยยากลำบากกาย ทำเพื่อสละทุกข์ที่เราไม่รู้จักมากมาย ที่ทำให้ทุกข์ สละไปเรื่อยๆ เราก็จะค่อยๆรู้จักกรรม รู้จักกรรม เราก็หนีกรรม
พอจิตเราสะสมบุญมากเข้า กายกมีบุญ ..บุญกุศลก็นำพาหนุนนำให้ประพฤติปฏิบัติธรรม..ขึ้นมา ..เราจะเลือกรอยไหน พบรอยไหน รอยที่นำพากายและจิต .
สละ ..สิ่งที่ยึดไว้คือกรรมนั้นออกไปได้ ..มีรอยทั้งสี่ ยืนเดินนั่งนอน ..ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..นั่นเป็นของสูง ผู้ใดมีบุญกุศลบารมี ก็อาราธนาน้อมนำขอเอามาฝึกหัด ..เดินตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ให้จิตพ้นทุกข์ จิตไม่นึกคิดอะไรเลย ..ทำด้วยกายนิ่ง จิตนิ่ง..
เรื่องราวการปล่อยวางจิต ปล่อยวาง นั่นพูดกันง่าย..แต่ทำยาก เพราะจิตเรา มันยึด ที่กินที่นอน หม้อข้าวหม้อแกง มันยึดอยู่อย่างมากมาย ..อันนี้ของฉัน ของสะสม..ของชอบ มันมากมายก่ายกอง ..ยึดแล้วก็หวง..ใครขอก็ไม่ให้ ใครแย่งขโมย ก็ไม่ชอบโมโหโกรธ..มันก็เรื่องราวที่เป็นอารมณ์ทั้งนั่น ..จึงต้องทุกข์ทรมานอยู่กับอารมณ์ ที่ร้อนตลอดเวลา โดยจิตไม่รู้จักความร้อนของอารมณ์เลย
..เป็น..เพราะกรรมนั่นปิดไม่ให้รู้จักความร้อนของอารมณ์เลย ..จึงอยู่กับอารมณ์ เพลิดเพลินในอารมณ์ที่เกิดในเรือนกาย..ไปเรื่อยๆ จนหมดเวลา..สร้างบุญกุศลบารมี หนีกรรม
โฆษณา