1 ธ.ค. 2022 เวลา 08:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จีนกับพายุอันตรายที่กำลังจะโหมกระหน่ำ
8 ความท้าทายที่จีนกำลังจะต้องเจอ
Ray Dalio
ขมวดมุมมองของ Ray Dalio บน Linkenin เกี่ยวกับจีน
8 ความท้าทายนั้นมีอะไรบ้าง
1. การส่งผ่านปัญหาของอสังหาริมทรัพย์และหนี้เข้าสู่ระบบการเงินที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจจีน
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นสัดส่วน 25% ของเศรษฐกิจจีน และคิดเป็น 70% ของความมั่งคั่ง เพราะฉะนั้นการลดลงของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น Local Government Financing , ผู้ปล่อยกู้ , ธุรกิจต่าง ๆ โดย Ray Dalio มีมุมมองว่าปัญหานี้ไม่ถูกนำเข้ามาพิจารณาและแก้ไขตั้งแต่ช่วงต้น ๆ จึงทำให้ปัญหาหนี้กระจายเพิ่มขึ้นและยากที่จะแก้ลงไปที่ต้นตอของปัญหา โดยหนี้ส่วนใหญ่เกิดในสกุลเงินของจีนเอง
Ray Dalio มองว่าจีนจะสามารถรรับมือกับปัญหานี้ได้ แต่จะต้องใช้เวลา อย่างน้อย อีก 2-3 ปี ที่จะจัดการกับมันได้อย่างดี แม้จะทำให้เกิดรอยแผลทิ้งไว้บ้าง ซึ่งยังถือว่าเป็นผลดีในระยะยาวและเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้กับประเทศจีนต่อไปข้างหน้
2. COVID และนโยบาย COVID ที่ทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลง และทำให้สังคมเกิดความไม่พอใจ
Ray Dalio มีมุมมองว่าคนที่เป็น Non-Chinese มองปัญหาเรื่องโควิดเว่อเกินไป ในขณะที่คนจีนเองมองว่าการที่ควบคุมเรื่องโควิดอย่างเข้มงวดจะทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอและควรจะผ่อนคลายมาตรการให้คลายลงเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโต
แต่อย่างไรก็ตามประชากรของประเทศจีนมีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน รวมถึงความเชื่อของคนจีนที่ว่าวัคซีนจะส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าตัวโรค จึงทำให้ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศจีนเปราะบางเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์โควิด
แต่จีนเองก็พยายามที่จะรับมือกับปัญหาในรูปแบบ Targeted way คือการระบุปัญหาและแก้ลงไปให้ทุกจุด ดังนั้นจึงทำให้ปัญหาด้านโควิดในจีนจะค่อย ๆ ดีขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้
3. ผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังทำอะไรอยู่ เกี่ยวกับระบบทุนนิยม บริษัทเทคโนโลยี และความเจริญรุ่งเรือง ที่จะส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจ
คำถามสำคัญที่ถูกถามโดยนักธุรกิจ และนักลงทุนคือ ประเทศจีนจะยังคงมีระบบที่เอื้อต่อทุนนิยมอยู่อีกหรือไม่ ระบบที่ยังเปิดประตูให้กับคนต่างประเทศ ความท้าทายของจีนที่กำลังจะเปลี่ยนไปคือ จีนจะหาจุดสมดุลระหว่างระบบทุนนิยมและระบบคอมมูนิสต์ให้เหมาะสม โดยนักลงทุนบางกลุุ่มที่ไม่ได้ศึกษาประเทศจีนเป็นอย่างดีก็มีแนวโน้มที่จะมีมุมมองลบว่าจีนกำลังจะปิดตัวเองต่อระบบเศรษฐกิจโลก
แม้ตอนนี้เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ผู้นำของจีนในความมีประสิทธิภาพของตลาดทุนที่ส่งผลดีต่อจีน
เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองนั้น การเปิดโอกาสอย่างเท่าเทียมจะช่วยเพิ่มผลผลิตโดยรวม ผู้กำหนดนโยบายของจีนสามารถที่จะ หรือควรที่จะสร้างระบบที่ก่อให้เกิดความรุ่งเรืองโดยทั่วกันขึ้น ระบบที่คนทั่วไปและคนทั่วโลกสามารถเข้าใจได้ ทั้งนี้เป็นเพราะความไม่ชัดเจนและนโยบายที่ถูกขัดจังหวะเป็นปัญหาใหญ่ หากเกิดกรณีที่จีนสร้างแต่ Concept แต่ไม่มีแผนที่ถูกวางมาอย่างละเอียด นักลงทุนหรือคนอื่น ๆ ก็จะมีมุมมองในกรณีที่แย่ที่สุดของจีนมากกว่าจะนึกถึงภาพบวก
4. การทำสงครามกับสหรัฐจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ
การมีสงครามก่อให้เกิดความไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ไม่สามารถพึ่งต้นเองได้ และมีต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูง จะเกิดการเคลื่อนย้ายแหล่งการผลิตไปยังประเทศที่มีเสถียรภาพมากกว่า เพราะฉะนั้นแล้วจึงเป็นความท้าทายที่สำคัญของจีนว่าจะเดินหมากเรื่องสงครามอย่างไร
5. ในระหว่างที่เศรษฐกิจโลกกำลังจะแย่ลงกว่าเดิม เงินเฟ้อและความเข้มงวดของนโยบายทางการเงินที่เป็นเครื่องมือที่จะต่อกรกับเศษฐกิจโลกจะส่งผลทางลบกับการส่งออกของจีนและเม็ดเงินที่จะไหลเข้าประเทศ
6. สภาวะที่พึ่งพิงการควบคุมและความเสี่ยงที่รุมเร้าเอื้อให้ผู้วางนโยบายในทุก ๆ มิติปฏิเสธที่จะตัดสินใจมากกว่าที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นผลลบต่อการเติบโตและการพัฒนา
7. ความท้าทายด้านประชากรสูงอายุในจีนเป็นผลให้เศรษฐกิจต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลเพื่อดูแลผู้สูงอายุ และประเทศจีนยังมีระบบสาธารณะสุขไม่เพียงพอต่อประชากรในประเทศ ซึ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเวลาที่เสียไปในการดูแลผู้สูงอายุของผู้ใหญ่อายุ 40-50 ปี
8. ประวัติศาสตร์จีนผ่านมาพบเจอกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด เหล่านี้คือสิ่งที่น่ากังวล ทุก ๆ ความรุ่งเรืองและความตกต่ำของ Civilization ในทุก ๆ ราชวงศ์ของจีนจะต้องผ่านการน้ำท่วมและภัยแล้งมากกว่าปัญหาใด ๆ และภัยของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็กำลังทยอยก่อตัวและเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมในจีน
โฆษณา