สวัสดีค่ะ วันนี้พบกับทีมงานตาณฑวะ ในรายการตาณฑวะดาราจร “การพยากรณ์ดาวจรด้วยโหราศาสตร์ไทย” คลิปนี้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษส่งท้ายปี 2565 จะเป็นการพยากรณ์เหตุการณ์ในปีใหม่ พ.ศ. 2566 สำหรับทุกลัคนาราศี โดยคลิปนี้เป็นคลิปแรกสำหรับท่านที่มีลัคนาราศีมังกรค่ะ
การพยากรณ์รายปีเราจะดูดาวใหญ่ หรือดาวที่โคจรช้า มีการยกย้ายราศีเป็นรายปี ประกอบด้วย
1. ดาวพฤหัส โคจรราศีละ 1 ปี
2. ดาวราหู โคจรราศีละ 1 ปีครึ่ง
3. ดาวเสาร์ โคจรราศีละ 2 ปีครึ่ง
4. ดาวมฤตยู โคจรราศีละ 7 ปี
จากการพิจารณาดูปฏิทินดาวในปี พ.ศ. 2566 ตลอดทั้งปี เราพบว่ามีดาวรายปียกย้ายราศีครบทั้ง 4 ดวง โดยเรียงตามลำดับก่อนหลังดังนี้ค่ะ วันที่ 1 มี.ค. ดาวเสาร์ เดิมสถิตราศีมังกร จะยกเข้าราศีกุมภ์ วันที่ 8 มี.ค. ดาวมฤตยู เดิมสถิตราศีเมษ จะยกเข้าราศีพฤษภ วันที่ 19 เม.ย. ดาวพฤหัส เดิมสถิตราศีมีน จะยกเข้าราศีเมษ วันที่ 17 ต.ค. ดาวราหู เดิมสถิตราศีเมษ จะยกเข้าราศีมีน
ขั้นตอนต่อมา เป็นการพิจารณาการโคจรของดาวใหญ่ในปี 2566 ว่ามีดาวดวงใดโคจรวิปริตบ้าง เราก็จะมาทำการคำนวณกันดู เคยมีบางท่านมาถามใน comment ว่าเราเอาตำแหน่งดวงดาวมาจากไหน ก็ขอแจ้งที่มาว่า เราคำนวณโดยอ้างอิงตำแหน่งของดวงดาวจากปฏิทินโหราศาสตร์ไทยสุริยยาตร์ และในการพยากรณ์ของปีหน้า เราใช้ “ไดอารี่โหร พ.ศ.2566 ของอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว” โดยมีตารางการคำนวณและผลการคำนวณดังนี้ค่ะ
ในปี 2566 ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส และ ดาวมฤตยู โคจรวิปริตผิดปกติ ตามช่วงเวลาดังนี้
ดาวพฤหัส
โคจรเสริต ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. – 18 มิ.ย. องศา [เดินเร็วกว่าปกติประมาณ 2.9 เท่า]
โคจรมนฑ์ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 66 [ถอยหลัง 11.2 องศา]
ดาวเสาร์
โคจรเสริต ตั้งแต่ปีใหม่ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. [เดินเร็วกว่าปกติประมาณ 3.5 เท่า]
โคจรมนฑ์ ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. – 23 ต.ค. [ถอยหลัง 7.5 องศา]
ดาวมฤตยู
โคจรมนฑ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ไปจนถึงปี พ.ศ. 2567 [ถอยหลัง 1.43 องศา]
จากการคำนวณเราก็มาสรุปภาพรวมการโคจรวิปริตของดาวรายปีกันค่ะ (สังเกตว่าไม่มีดาวราหู เพราะดาวราหูเดินตรงไม่มีการวิปริต) เมื่อดู Timeline จะเห็นสีส้มแทนดาวพฤหัส สีม่วงแทนดาวเสาร์ และสีดำแทนดาวมฤตยู เราก็จะเห็นได้ว่าระยะเวลาที่ดาวเดินปกติจะน้อยกว่าเวลาที่เดินวิปริต นั่นก็เป็นเพราะว่าในปี 2566 ดาวมฤตยูพี่ใหญ่จะยกย้ายราศี ทำให้เกิดความระส่ำระสายของดวงดาวอื่นๆ ในระบบนั่นเอง
หลังจากการเตรียมข้อมูลการยกย้ายราศีของดวงดาวและการโคจรไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาเริ่มภาคพยากรณ์กันเลยนะคะ ในการพยากรณ์รายปี เราก็จะแบ่งเวลาออกเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการยกของดาว นั่นคือ
1. ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ไปจนถึงดาวเสาร์ยก
2. ช่วงที่ 2 เริ่มจากดาวเสาร์ยก
3. ช่วงที่ 3 ดาวมฤตยูยก
4. ช่วงที่ 4 ดาวพฤหัสยก
5. ช่วงที่ 5 ดาวราหูยก
พยากรณ์ช่วงแรกเริ่มตั้งแต่ต้นปี ไปจนถึงวันที่ดาวเสาร์ยกย้ายราศี นั่นคือ 1 ม.ค. – 28 ก.พ. (เป็นเวลา 2 เดือน) เราก็จะมาพิจารณา “ตำแหน่ง ทำเนียบ และการโคจรของดวงดาว” กันค่ะ
ดาวพฤหัส สถิตราศีมีน ได้ทำเนียบเกษตร (มั่นคง)
ดาวพฤหัส สถิตราศีมีน ได้ทำเนียบเกษตร (มั่นคง)
สำหรับคนราศีมังกร ดาวพฤหัสจรเข้าภพสหัสชะ ช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 14 ก.พ. โคจรปกติ ทำนายว่า จะมีเพื่อนหรือคนที่แวดล้อมรอบตัวเราเป็นที่แก่กว่าเรา เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา ได้นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ มาเป็นเพื่อน ที่จะคบกันยืนยาว ดาวพฤหัสให้คุณแบบนุ่มนวล ผู้ใหญ่จึงมาช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ เรา
หลังวันที่ 14 ก.พ. ดาวพฤหัสโคจรเสริต ทำนายว่า เมื่อมีผู้ใหญ่แนะนำต้องทำตามโดยเร็วจึงได้ผล
ดาวเสาร์ สถิตราศีมังกร ได้ทำเนียบเกษตร (มั่นคง)
สำหรับคนราศีมังกร ดาวเสาร์จรเข้าภพตนุ โคจรเสริต ทำนายว่า เราทุกข์และเครียดเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่นานก็หาย มีความระแวดระวังอยู่ไม่นาน มีความรอบคอบและอดทนอยู่ครู่เดียวก็คลายหายไป
ดาวราหู สถิตราศีเมษ ไม่มีทำเนียบ
สำหรับคนราศีมังกร ดาวราหูจรเข้าภพพันธุ โคจรปกติ ทำนายว่า มีการซ่อมแซม ต่อเติมบ้าน บ้านจึงเกิดความวุ่นวาย ถ้าไม่ได้มีการปรับปรุงบ้าน ก็ทำนายว่า คนทางบ้าน เช่น ญาติๆ หรือคุณแม่ มีเรื่องมาให้เราแก้ปัญหา
ดาวมฤตยู สถิตราศีเมษ ไม่มีทำเนียบ
สำหรับคนราศีมังกร ดาวมฤตยูจรเข้าภพพันธุ โคจรปกติ ทำนายว่า มีการซ่อมแซมบ้าน หรือ หลักฐานบ้านช่องจะมีการเปลี่ยนมือ เปลี่ยนผู้ครอบครอง
เมื่อดูความหมายของดาวจรแต่ละดวงไปแล้ว ต่อมาเราก็จะมาดูดาวจรกระทบกันในช่วง 2 เดือนแรกของปี 66 ว่าจะส่งผลอย่างไรบ้าง
ดาวคู่ ๐๘ มฤตยู-ราหู เป็นคู่ตั้งตัวได้ หรือตั้งสติได้ แต่ให้อารมณ์แบบเฉื่อยชา ไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรมากนัก
สำหรับคนราศีมังกร ๐๘ อยู่ในภพพันธุ ทำนายว่า “จะตั้งตัวได้ในเรื่องบ้าน ที่อยู่อาศัย” หรือ “เราตั้งหลักได้-ตกผลึกในสิ่งที่เราขวนขวายพยายาม”
ดาวโยค ๓๕๗ อังคาร-พฤหัส-เสาร์ เป็นดาวคัดค้านคานอำนาจกัน ทำให้ไม่มีการตัดสินใจหรือลงมือทำอะไร
สำหรับคนราศีมังกร ๓๕๗ ดาวคานอำนาจกันเอง โดยมีเซนเตอร์อยู่ที่ภพสหัสชะ หมายถึง “เราอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไม่มีใครคิดจะทำอะไร” หรือ “เพื่อนๆ ไม่มีการตัดสินใจที่ทำอะไรลงไป”
สำหรับคนราศีมังกร ๕๗ โยคถึงกันที่ภพตนุ-สหัสชะ ในช่วงก่อนวันที่ 14 ก.พ. “เจ้าชะตามีความลำบากกายใจ โดยมีเหตุมาจากเพื่อน” แต่เสาร์เสริต-พฤหัสเสริต “ความลำบากอยู่กับเราไม่นานก็หาย”
ผ่านช่วงแรกไปแล้วนะคะ เราก็มาดูกันต่อเลยค่ะ หลังจากผ่านปีใหม่ไป 2 เดือน ก็ถึงวันที่ 1 มี.ค. ดาวเสาร์ยกจากราศีมังกร เข้าราศีกุมภ์ ก็นับว่าเป็นข่าวดีมากๆ สำหรับคนราศีมังกร เพราะ “โทษทุกข์ทายเสาร์” และดาวเสาร์ทับลัคนามังกรมาตั้ง 2 ปีครึ่ง เมื่อดาวเสาร์ยกออกไปก็เปรียบเหมือนการยกภูเขาออกจากอก ความเครียด ความทุกข์ที่คนลัคนาราศีมังกรต้องแบกรับไว้ ก็จะได้คลายหายไปในตอนนี้
เมื่อดาวเสาร์ยกย้ายราศี เราก็ต้องมาดูความหมายของภพใหม่ที่ดาวเสาร์ยกเข้ามาสถิต นั่นคือ ภพกระดุมภะของคนราศีมังกร ทำนายว่า “การหาเงินหาทองของคนราศีมังกรจะยากลำบากกว่าเดิม รู้สึกเครียดเรื่องเงินทองทรัพย์สิน มีความรอบคอบระแวดระวังในเรื่องการเงินการทองมากเป็นพิเศษ เรื่องเงินไว้ใจใครไม่ค่อยได้”
ดาวเสาร์จะอยู่ภพกระดุมภะเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง คนราศีมังกรอาจจะกำลังบ่นในใจว่าเสาร์กุมลัคน์มานาน พอยกออกก็มาเข้าเรื่องการเงินการทองอีก แต่ที่จริงแล้วในช่วงแรกที่ดาวเสาร์ยกมาจะโคจรเสริต ทำให้ช่วงวันที่ 1–31 มี.ค. เราเครียดไม่นานแป๊บเดียวก็หาย อีกทั้งมีดาวราหูโยคถึง ๗๘ กลายเป็นความยิ่งใหญ่ ซึ่งกลับส่งผลดี (แอบ short cut ให้ดูคร่าวๆ
- พอปลายปี ราหูยกหนีไปเกิดคู่พฤหัส-เสาร์ ๕๗ คู่แสนสาหัส แต่พฤหัสช่วงนั้นมนฑ์พอดี คู่ศัตรูมนฑ์ทายดีว่า ชื่นชม สบาย ไม่ลำบาก นับว่าคนราศีมังกรในปีนี้ยังคงไม่ต้องรับผลเป็นโทษทุกข์ในเรื่องเงินแต่อย่างใด)
ส่วนดาวอื่นๆ ที่ไม่ได้ยกย้ายราศี เราก็สามารถดูความหมายได้จากการทำนายที่กล่าวแล้วในตอนต้นค่ะ
เมื่อดาวเสาร์ขยับมาที่ราศีกุมภ์ ทำให้เกิดดาวคู่ดีๆ 2 คู่
ดาวคู่มิตร ๗๘ เป็นคู่ยิ่งใหญ่อลังการ โยคถึงกันเมื่อใด เจ้าชะตาก็จะไม่ค่อยสนใจเรื่องปลาซิวปลาสร้อย เรื่องเล็กๆน้อยๆ นี่ลืมไปได้เลย แล้วจะยิ่งใหญ่เรื่องใด? เราก็มาดูภพที่ดาวจรสถิต สำหรับคนราศีมังกร คือภพกระดุมภะ-พันธุ ทำนายว่า “มีเรื่องยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเงินทองและบ้านที่อยู่อาศัย” หรือ “มีเรื่องใหญ่เกี่ยวกับเงินทองเกิดขึ้นกับญาติๆ หรือ คนทางบ้านของเรา”
ดาวคู่ ๐๗ เป็นคู่เสือนอนกิน สำหรับคนราศีมังกร อยู่ที่ภพกระดุมภะ-พันธุ ทำนายว่า “เรื่องเงินทองและบ้านที่อยู่อาศัย ให้เราอยู่เฉยๆ แล้วจะดีเอง เขาให้ทำอะไรก็ทำไปตามที่เขาบอกแล้วจึงดี อย่าไปดิ้นรนขวนขวาย เพราะดาวคู่ ๐๗ เรายิ่งดิ้นรนก็จะยิ่งเดือดร้อน”
หลังจากที่ดาวเสาร์ยกได้เพียง 8 วัน พอถึงวันที่ 8 มี.ค. ดาวมฤตยูก็ยกจากราศีเมษ เข้าราศีพฤษภ เดิมทีดาวมฤตยูสถิตภพพันธุของราศีมังกร บ้านช่องห้องหอของคนราศีมังกรจะมีการซ่อมแซม เปลี่ยนมือ เปลี่ยนผู้ถือครอง ญาติๆ หายหน้าหายตากันไป ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา พอถึงปีนี้ดาวมฤตยูยกเข้าราศีพฤษภ เป็นภพปุตระ ความอาเพศเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นกับเรื่องใหม่ใน 7 ปีต่อจากนี้
เมื่อดาวมฤตยูยกเข้าราศีพฤษภ เราก็จะต้องมาดูความหมายของภพใหม่ที่ดาวมฤตยูยกเข้ามาสถิตคือภพปุตระของราศีมังกร ทำนายว่า บุตรหลาน บริวาร ลูกน้อง คนในปกครองของเราจะแปรเปลี่ยนอาเพศ คือหายหน้าหายตาไป หรือมุมมองของเราที่เห็นบุตรหลานบริวารได้เปลี่ยนไป เช่น เราเห็นว่าลูกหลานของเราเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
อีกประการหนึ่งก็คือเรื่องเป้าหมายของชีวิต เรื่องในอนาคต ที่เราเคยวาดหวังไว้ เมื่อดาวมฤตยูมาสถิต ความหวัง เป้าหมายของเราที่เคยตั้งไว้ก็จะถูกทำลายลง ก็ไม่ต้องท้อถอยหรือเสียกำลังใจ เพราะถือว่าเราจะมีโอกาสได้ตั้งเป้าหมายชีวิตครั้งใหม่
ดาวมฤตยูเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวทั้งหมดที่เล่าเรียนมาในโหราศาสตร์ไทย มีอิทธิพลในการทำลายล้างดวงดาวที่โยคถึง และส่งผลถึงเรือนชะตาหรือภพที่โยคถึงด้วย ดาวมฤตยูเข้าภพไหนก็ส่งผลเต็ม 100% ในเรื่องนั้น ถ้าเป็นภพที่เล็งหรืออยู่ตรงข้ามกันก็จะส่งผล 50% และสำหรับช่องโยคหน้าโยคหลัง คือ เว้นไปข้างหน้า 1 ช่อง และ เว้นไปข้างหลัง 1 ช่องก็จะส่งผลเพียง 25% ผลของดาวมฤตยูนั้นหลีกเลี่ยงได้ยาก
เนื่องจากเป็นดาวที่แสดงผลของกรรมเก่า ดังครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่า “ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม” เป็นผลตามธรรมชาติที่ว่า “ไม่ว่าใครทำสิ่งใดไว้ สิ่งนั้นก็ย่อมย้อนกลับมาเพื่อคืนสู่สมดุลนั่นเอง”
สำหรับชาวราศีมังกร มฤตยูจรเข้าภพปุตระ ส่งผลดังนี้
สถิตภพปุตระ ส่งผล 100% เรื่องลูกหลานบริวาร และความหวัง เป้าหมาย จะเกิดอาเพศแปรเปลี่ยนไป
เล็งภพลาภะ ส่งผล 50% เรื่องลาภผลความสำเร็จ จะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ความสำเร็จจะแปรเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น การกระทำรูปแบบเดิมๆ pattern เดิมๆ ที่เคยทำ 1 2 3 แล้วจะผลลัพธ์เป็น 4 แน่ๆ ที่เราเคยได้รับมาตลอด เมื่อมฤตยูมาเล็งผลนั้นก็จะแปรเปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
โยคหน้าภพสหัสชะ ส่งผล 25% เรื่องเพื่อนฝูง พี่น้อง สิ่งแวดล้อมรอบตัว นั่นคือ เพื่อนๆ จะเปลี่ยนไป เพื่อคนเดิมๆ จะหายหน้าหายตาไป เราจะได้คบหากับคนแปลกๆ สิ่งรอบตัวจะเปลี่ยนไปมีความอึมครึมทึมทึบ ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน
โยคหลังภพปัตนิ ส่งผล 25% เรื่องความรัก คนรัก คู่ครอง หุ้นส่วน จะเปลี่ยนแปลงวิปริตไปไม่เหมือนเดิม หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือ มุมมองเรื่องความรักของเราจะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สิ่งที่เราเคยทำเป็นประจำจะมีเหตุอันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงวิปริตไปจากที่เคย
อีกประการหนึ่ง การที่ดาวมฤตยูยกเข้าราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรือนเกษตรของดาวศุกร์ทำให้ดาวศุกร์ได้รับผลของความอาเพศไปด้วย [เนื่องจากกิเลสสมบัติทายศุกร์] ผลของมันก็คือ ความอาเพศจะเกิดขึ้นกับเรื่องกิเลสสมบัติ จึงทำนายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการเงินการทอง การธนาคาร วงการความสวยความงาม การแสวงหาความสุขที่แปลกไปจากเดิม และความรักนอกกรอบจะได้รับการยอมรับ ไปจนถึงละครหรือภาพยนตร์สาย Y จะได้รับความนิยม
ถ้าเราลองสังเกตช่วง 7 ปีที่แล้ว “มฤตยูในเรือนอังคาร” เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการขนส่ง Logistic เกิด Grab LineMan FoodPanda Robinhood เหล่านี้เป็นต้น
ถ้าเรามองในแง่เศรษฐกิจ ดาวมฤตยูเข้าภพกระดุมภะหรือการเงินของลัคนาดวงเมือง มฤตยูคือความตระหนี่ขี้เหนียว เก็บทุกบาททุกสตางค์ไม่ยอมควักยอมจ่ายอะไรเลย ทำนายว่า รัฐบาลจะพยายามหาทุกวิถีทางที่จะรีดภาษีจากธุรกิจ จากประชาชน จากกองมรดก หรืออาจจะเพิ่มอัตราภาษีให้สูงขึ้น ขึ้นค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เราก็ต้องทำใจตั้งรับกันไว้ให้ดี
หลังจากดาวมฤตยูยกได้เดือนเศษๆ เราน่าจะรับรู้ถึงความอาเพศเปลี่ยนแปลงและพอจะปรับตัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว ก็ถึงเวลาที่ดาวพฤหัสจะยกย้ายราศี ดาวพฤหัสเป็นดาวศุภเคราะห์ให้คุณแบบนุ่มนวล ไม่รวดเร็วทันใจ และมักจะเดินมนฑ์ประมาณ 4 เดือน ใน 1 ปี คือประมาณ 33% หรือ 1 ใน 3 เลยทีเดียว
ดาวพฤหัสยกเข้าราศีเมษในวันที่ 19 เม.ย. โคจรเสริตไปจนถึงวันที่ 18 มิ.ย. นั่นคือ 2 เดือนแรกที่ยกมา ครูบาอาจารย์ หลักการต่างๆ มีความรีบร้อน เราจะเห็นการรีบเร่งใช้กฎระเบียบต่างๆ รวดเร็วกว่าปกติ
ดาวพฤหัสในราศีเมษ ได้ตำแหน่งราชาโชค “จะมีการให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษา นักวิชาการ ครูบาอาจารย์” หรือ “จะมีการชูประเด็นเรื่องอนุรักษ์นิยมต่างๆ เช่น ศีลธรรม และ ขนบธรรมเนียมประเพณีอันสืบทอดมาแต่เก่าก่อน จะถูกนำกลับมาใช้”
สำหรับชาวราศีมังกร พฤหัสจรเข้าภพพันธุ คนราศีมังกรจึงไม่ค่อยอยากเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่คนที่มีความสำคัญ อีกประการหนึ่งก็คือผู้ใหญ่ไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือ และนั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เราไม่อยากเข้าผู้ใหญ่ก็เป็นได้
ในช่วงที่ดาวพฤหัสโคจรมนฑ์ ตั้งแต่ 29 ส.ค. เป็นต้นไป คำทำนายจะกลับ จึงทำนายว่า ถ้าเราพยายามเข้าหาผู้ใหญ่ก็จะได้รับความช่วยเหลือ
เมื่อพิจารณาดาวอื่นๆ ที่กระทบกับดาวพฤหัสที่ยกเข้าราศีเมษ เราจะเห็นว่ามีดาวคู่ที่น่าสนใจดังนี้
๕๘ เป็นดาวคู่ “คนบ้าหรือนักปราชญ์” แสดงอาการแบบสุดๆ ทำสิ่งใดไม่สุดทางก็ไม่ยอมยุติ ต้องใช้ทั้งพฤหัส (คือความรู้) และราหู (คือไหวพริบ) ยิ่งถ้าคนที่มี ๕๘ ในดวงเดิมอยู่แล้วก็อาจจะหมายถึงจะเกิด “คดีความ” ขึ้นก็เป็นได้
สำหรับชาวราศีมังกร ๕๘ ตกช่องพันธุ ทำนายว่า
คนราศีมังกรมีความขวนขวายพยายามอย่างสุดๆ เหมือนคนบ้า หรือว่าดูคล้ายนักปราชญ์
ญาติๆ คนทางบ้านของคนราศีมังกร อาจจะเกิดคดีความ การฟ้องร้องต่างๆ
๗๘ เป็นดาวคู่ “ยิ่งใหญ่” (ที่ได้กล่าวแล้วในการพยากรณ์ตอนต้นหน้าที่ 8) แสดงความยิ่งใหญ่อลังการ มีความใจถึงและกล้าตัดสินใจ เรื่องเล็กๆ มักจะไม่สนใจ
สำหรับชาวราศีมังกร ๗๘ โยคถึงกันในช่อง กระดุมภะ-พันธุ ทำนายว่า
มีเรื่องยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเงินทองทรัพย์สิน และบ้านที่อยู่อาศัย
มีเรื่องยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเงินทองของญาติๆ
ดาวก๊กเหล่าที่น่าสนใจหลังดาวพฤหัสยก
เมื่อดาวพฤหัสยกเข้าราศีเมษในวันที่ 19 เม.ย. ทำให้เกิดดาวก๊กเหล่าขึ้น ดังนี้
ก๊กศักดินา ๑๕๗ ช่วงวันที่ 19 เม.ย. – 15 พ.ค. (ประมาณ 1 เดือน) หลังจากนั้นก๊กศักดินาก็จะสลายตัวเพราะอาทิตย์ยกย้ายราศี
ช่วง 1 เดือนนี้ ก๊กศักดินาไม่มีดาวมนฑ์ แต่มีดาวพฤหัสเสริต ทำนายว่าจะมีการรวมตัวกันของกลุ่มชนชั้นศักดินา เจ้าขุนมูลนาย ข้าราชการระดับสูง คนที่มียศศักดิ์ตำแหน่งใหญ่โต เป็นการรวมตัวกันแบบรีบๆ เร็วๆ ต้องรีบตกปากรับคำ รีบตกลงปลงใจจึงได้มรรคได้ผล
ก๊กศักดินาฝ่ายมืด ๘๕๗ ช่วงวันที่ 19 เม.ย. – 19 มิ.ย. (ประมาณ 2 เดือน) หลังจากนั้นก๊กศักดินาฝ่ายมืดก็แตกเพราะเสาร์โคจรมนฑ์
ช่วง 2 เดือนนี้ ก๊กศักดินาฝ่ายมืดไม่มีดาวมนฑ์ แต่มีดาวพฤหัสเสริต ทำนายว่าจะมีการรวมตัวกันของผู้มีอิทธิพล เช่น เจ้าพ่อ มาเฟีย มือที่มองไม่เห็น คนใหญ่โตที่อยู่เบื้องหลัง เป็นการรวมตัวกันแบบรีบๆ เร็วๆ ชิงไหวชิงพริบ ไม่แพ้ก๊กศักดินา ต้องรีบตกปากรับคำ รีบตกลงปลงใจ หากมัวชักช้าก็จะไม่ทันการ
เป็นที่น่าสนใจว่า ระหว่าง “ศักดินา” และ “ศักดินาฝ่ายมืด” ที่ราศีเมษหรือลัคนาดวงเมืองของประเทศไทย เราจะเห็นว่ามีดาวพุธปรากฎอยู่ด้วย ทำนายว่าการรวมตัวกันของผู้บริหารระดับสูง และ การรวมตัวกันของผู้มีอิทธิพล ในบ้านเมืองของเรา มี พ่อค้า เจ้าสัว หรือผู้ที่ทำการค้าเพื่อหวังผลประโยชน์เป็นตัวเชื่อมอยู่ระหว่างทั้งสองฝ่าย
ดาวใหญ่ดวงสุดท้ายที่จะยกย้ายราศีในปี 2566 ก็คือดาวราหู ในวันที่ 17 ต.ค. ดาวราหูจะยกจากราศีเมษเข้าสู่ราศีมีน ดาวแม่ธาตุลมยกเข้าราศีธาตุน้ำ จะเกิดลมพายุในมหาสมุทร ดาวราหูเป็นความวุ่นวายโกลาหล เมื่อจรไปช่องใดก็จะสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนและทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนั้นๆ
ดาวราหูในราศีมีนไม่มีทำเนียบพิเศษ และดาวราหูเดินตรงไม่มีการวิปริต ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวว่า “มัวเมาทายราหู” สำหรับคนราศีมังกร ดาวราหูจรเข้าภพสหัสชะ ทำนายว่า
เราจะรักเพื่อน หลงเพื่อน ตามใจเพื่อนเป็นพิเศษในช่วงปีครึ่งนับต่อจากนี้
เพื่อนๆ มักจะนำปัญหามาให้เราแก้ สร้างความวุ่นวายให้กับเราอีกด้วย
สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามีความวุ่นวาย โกลาหล
เมื่อดาวราหูยกเข้าราศีมีนดวงดาวที่โยคกันก็เปลี่ยนไป เกิดดาวโยคที่น่าสนใจ ในช่วงวันที่ 17 ต.ค. ไปจนถึงสิ้นปี ดังนี้
๐๘ ดาวคู่เฉื่อยชา ตั้งตัวได้ เจ้าชะตาจะตั้งสติได้ ไม่ค่อยหุนหันพลันแล่น แต่ไม่ค่อยจะเอาเรื่องเอาราวอะไร
สำหรับคนราศีมังกร ๐๘ อยู่ภพสหัสชะ-ปุตระ ทำนายว่า
จะตั้งตัวได้ในเรื่องเป้าหมายในอนาคต
เพื่อนๆ ลูกน้อง บุตรหลาน จะตั้งสติได้ แต่เฉื่อยชา ไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวอะไร
๕๗ ดาวคู่แสนสาหัส แต่พฤหัสมนฑ์ ไม่ยาก ไม่ลำบาก ไม่ต้องเหนื่อยทั้งกายใจ
สำหรับคนราศีมังกร ๕๗ อยู่ภพพันธุ-กระดุมภะ ทำนายว่า
รู้สึกสบายในเรื่องเงินทองและบ้านที่อยู่อาศัย
ญาติๆ ไม่มีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ
เมื่อเราพิจารณาดาวใหญ่ยกย้ายราศีครบทั้ง 4 ดวงแล้ว เราก็จะมาดูดาวก๊กเหล่าที่สำคัญๆ ในปี พ.ศ.2566 จากที่เคยเล่าไว้ในคลิปก่อนๆ แล้วว่าดาวครบก๊กนั้นจะมีอานุภาพสูง เปรียบเหมือนกับ คนมีพรรคพวกที่มีจิตใจและนิสัยส่งเสริมกันก็จะสามารถทำเรื่องเหลือเชื่อได้ เพราะศักยภาพของการรวมกลุ่มก๊กนั้นสูงส่ง ไม่เหมือนคนหัวเดียวกระเทียมลีบ ในปี 2566 มีดาวครบก๊กที่น่าสนใจดังนี้
ดาวก๊กโจร ประกอบด้วย ดาวอังคาร ศุกร์ เสาร์ ราหู (๓๖๗๘) หมายถึง
การปล้น การเอารัดเอาเปรียบ เรื่องสีเทาๆ
ความสำเร็จชั่วข้ามคืน
การกระทำที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน
ดาวก๊กวิญญาณ ประกอบด้วย ดาวพฤหัส ราหู เกตุ มฤตยู (๕๘๙๐) หมายถึง
แคล้วคลาด รอดปาฏิหาริย์
สำเร็จด้วยเดชะบุญ
ได้ทำบุญกุศล ทำสิ่งดีๆ ที่เป็นสาธารณะกุศล
ในปี 2566 ดาวก๊กโจร ๓๖๗๘ / ๓๗๘ โยคถึงกันช่วงวันที่ 15 มี.ค. – 9 พ.ค. (ประมาณ 2 เดือน) โดยมีเซ็นเตอร์อยู่ที่ภพพันธุ ของราศีมังกรทำนายว่า
ถ้าเราพยายามที่จะกระทำเรื่องแบบก๊กโจรก็จะสำเร็จ
ระวังโจรขึ้นบ้าน
ญาติๆ ของเราทำกิจแบบก๊กโจร หรือ ถูกปล้นถูกโกง (ทำนายทั้งสองทาง คือเป็นผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ)
ปี 2566 มีดาวโยคถึงกันได้ก๊กวิญญาณ 3 ช่วง ช่วงแรกคือ วันที่ 26 ม.ค. – 8 มี.ค. (ประมาณ เดือนครึ่ง) ที่ภพพันธุ-กรรมะของราศีมังกรทำนายว่า
การงานที่ขวนขวายพยายาม จะทำได้ง่ายดายและสำเร็จ
ทางบ้าน ญาติๆ แคล้วคลาด ปลอดภัย
การงาน คนที่ทำงาน แคล้วคลาด ปลอดภัย
มีโอกาสได้ร่วมงานบุญ ลงมือทำงานช่วยเหลือ งานสาธารณะกุศล กับญาติๆ
ดาวโยคถึงกันได้ก๊กวิญญาณ วันที่ 9 ก.ย. – 16 ต.ค. (ประมาณ 1 เดือน) ที่ภพอริ-พันธุของราศีมังกร ทำนายว่า
เจ้าชะตาจะผ่านพ้นอุปสรรคได้ง่ายๆ
ชนะศัตรู
ทางบ้าน ญาติๆ แคล้วคลาด ปลอดภัย
มีโอกาสได้ร่วมงานบุญ งานช่วยเหลือ งานสาธารณะกุศล กับญาติๆ ในต่างถิ่นแดนไกล
ดาวโยคถึงกันได้ก๊กวิญญาณ วันที่ 4 พ.ย. – 30 ธ.ค. (ประมาณ 2 เดือน) ที่ภพสหัสชะ-ปุตระของราศีมังกร ทำนายว่า
สิ่งแวดล้อม เป็นใจ เอื้อให้เกิดสิ่งดี
เพื่อนๆ ลูกน้องร่วมมือกันทำอะไรก็สำเร็จ
บุตรหลาน บริวาร แคล้วคลาด ปลอดภัย
คนรอบตัวร่วมกันทำบุญ ช่วยเหลือ ทำเรื่องสาธารณะกุศล
เมื่อดูตามปฏิทินเราก็จะเห็นได้ว่าดวงดาวครบก๊กวิญญาณปี 2566 ถึง 4-5 เดือน แสดงให้เห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่อุทิศตนให้ความช่วยเหลือสังคมเป็นสาธารณประโยชน์ ในช่วงเวลาที่ประเทศยังคงลำบากยากจนเพราะผลกระทบของโรคระบาดที่ผ่านมา เราก็พออุ่นใจได้ว่าในปีหน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์และพลังอำนาจที่มองไม่เห็นจะคอยช่วยเหลือผู้คนให้ผ่านพ้นอุปสรรคความยากลำบากต่างๆ ไปได้โดยไม่ลำบากยากเย็น
ทั้งหมดของการพยากรณ์ Road map ปี 2566 ที่กล่าวมานี้ ทางทีมงานขอมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแฟนรายการทุกท่าน และในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ จงดลบันดาลให้ท่านและคนที่ท่านรักมีความสุข พบแต่สิ่งที่ดี มีความเจริญ ร่ำรวยด้วยโภคทรัพย์ ได้รับแต่สิ่งอันเป็นมงคลต่อชีวิต ตลอดปีใหม่ 2566 ค่ะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
