3 ธ.ค. 2022 เวลา 03:06
ฎีกาที่ 4110/2560
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 196 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ในคดีสามัญโจทก์ฟ้องเพื่อขอให้ชำระเงินจำนวนแน่นอนตามตั๋วเงิน ซึ่งการรับรองหรือการชำระเงินตามตั๋วเงินนั้นได้ถูกปฏิเสธและศาลเห็นว่าเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก ศาลย่อมมีอำนาจสั่งให้นำบทบัญญัติในหมวดนี้ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้บังคับ คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามตั๋วเงินที่จำเลยสั่งจ่ายแก่โจทก์แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก จึงสั่งให้นำบทบัญญัติในหมวดนี้ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้บังคับ โดยศาลชั้นต้นออกหมายเรียกตามมาตรา 193 วรรคหนึ่ง อย่างคดีมโนสาเร่ คือ กำหนดวันนัดพิจารณาโดยเร็วและออกหมายเรียกไปยังจำเลย ในหมายนั้นได้จดแจ้งประเด็นแห่งคดี และจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาที่เรียกร้อง และข้อความว่าให้จำเลยมาศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย และสืบพยานในวันเดียวกัน
จำเลยได้รับหมายเรียกให้มาศาลโดยชอบแล้วไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การตามมาตรา 193 ทวิ วรรคสอง การที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้วต่อมาจำเลยมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีและแจ้งว่าตนประสงค์จะต่อสู้คดี ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไรต่อไปนั้น มิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในหมวดวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่โดยเฉพาะ
แต่มาตรา 195 บัญญัติให้นำบทบัญญัติอื่นในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับแก่การพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีมโนสาเร่ด้วยโดยอนุโลม ซึ่งในในหมวดว่าด้วยการพิจารณาโดยขาดนัด ส่วนที่ 1 การขาดนัดยื่นคำให้การ มาตรา 199 บัญญัติใจความสำคัญในเรื่องนี้ว่า ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีและแจ้งต่อศาลในโอกาสแรกว่าตนประสงค์จะต่อสู้คดี เมื่อศาลเห็นว่าการขาดนัดยื่นคำให้การนั้น มิได้เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควร
ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรและดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่เวลาที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่ถ้าศาลเห็นว่าการขาดนัดยื่นนั้นเป็นไปโดยจงใจหรือไม่มีเหตุอันสมควร ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ในกรฯเช่นนี้ จำเลยอาจถามค้านพยานโจทก์ที่อยู่ระหว่างการสืบได้ แต่จะนำสืบพยานหลักฐานของตนไม่ได้ เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาและไม่ยื่นคำให้การ อันถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไปแล้ว
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 193 ทวิ วรรคสอง ศาลชั้นต้นจึงดำเนินกระบวนพิจารณาไปฝ่ายเดียว และเมื่อศาลชั้นต้นเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือ จำเลยมาศาลและขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนให้ได้ความจริงว่า การขาดนัดยื่นคำให้การนั้นมิได้เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่เสียก่อน คดีนี้ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าการขาดนัดยื่นคำให้การของจำเลยเป็นไปโดยจงใจ
จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การย่อมเป็นกระบวนพิจารณาโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง ประกอบมาตรา 195 และเมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องสอบคำให้การจำเลยหรือจัดให้เจ้าพนักงานของศาลจดบันทึกรายละเอียดคำให้การของจำเลยลงในแบบพิมพ์ ม. 2 ดังที่จำเลยอ้างในฎีกาอีก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา