26 ธ.ค. 2022 เวลา 03:30 • นิยาย เรื่องสั้น
เส้นทางขาเดียว (4)
ข้อเท้าขวาถูกขมวดแน่น ใบฮาร์มมลายคามือ เขาตื่นตระหนกสุดขีด รีบพลิกตัวหงายขึ้น มือคว้าหอกหมับ สะบัดคมของหินคริสตัลบนยอดหอก เฉือนรากไม้เส้นเขื่องขาดฉับในเดียว
เอกาพลันกลิ้งตัวหนีแถบแผ่นดินแยก ก่อนปลดปล่อยแรงลมอันมหาศาลจากข้างใต้พิภพ
เบื้องหลังอสุรกายหินสี่เมตรอย่างต่ำ ปิศาจดอกไม้ปล่องยักษ์ตรงนั้น
ถ้าเอกาคาดเดาไม่ผิดคาดไปจากนี้ เขาจึงพุ่งปรี่ไปหาดอกไม้ปล่องเน่าเปื่อย จู่โจมเป้าหมายหลักอย่างเดียว
ระหว่างทางอสุรกายหินอารักขา ง้างหมัดเหวี่ยง ยกเท้าค้างหาจังหวะกระทืบพื้นสะเทือน กะบดบี้ขยี้เขาให้แบนแต๋ดแต๋คาแผ่นเท้าหินหนักอึ้ง แต่ทุกครั้งเส้นยาแดงผ่าแปดไปได้ตลอด เขาไม่ประมาทต่อความอืดอาดกับบางท่วงท่าของมันเด็ดขาด
พื้นข้างใต้ร่างปิศาจดอกไม้ปล่องยักษ์ อยู่ๆ พื้นดินแยกออกเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ มันกระโดดลอยสูงก่อนทิ้งตัวร่วงลงไปในนั้น หน้าดินผสานฝังกลบตัวมันมิด
เอกาชะงักกะทันหัน ผิดคาดถนัด เขาจังงังชั่วครู่หนึ่ง ประหนึ่งชั่วกัปชั่วกัลป์ ณ วินาทีนี้ ตกอยู่ในอารามงุนงงจนทำอะไรไม่เป็นไปไม่ถูก จังหวะเขายืนเฉยๆ ครุ่นคิดให้ตกว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีนั่นเอง
เกือบถูกฉวยโอกาสตอนทีเผลอเสียแล้ว
อสุรกายหินกะคว้าเขาด้วยฝ่ามือมหึมาจากด้านหลัง
ดีแท้ เจ้าหางก้อนช่วยเขาให้ไหวตัวทันท่วงที ไม่งั้นคงถูกมันทุบลงกับพื้นอย่างที่ได้เห็นต่อมาเป็นแน่
บุปผาปล่องเน่าเปื่อยสี่ดอก ผุดขึ้นกระจัดกระจายตำแหน่ง ซ้ายขวาอย่างละหนึ่ง เฉียงขวาล่างและซ้ายบนอีกอย่างละดอก
ทั้งสี่ดอก กลีบหุบอยู่ จนหนึ่งในสี่ดอกผลิกลีบบาน
ตัวมันกระโจนขึ้นมาจากในดิน มันถ่มก้อนควันสีดำสามก้อนรวดเดียว อสุรกายเถาไม้คมหิน กับอสุรกายโล่หิน
กองกำลังเสริมยิ่งทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงเกินไป เขารู้สึกกำลังตกที่นั่งลำบาก
เอกาหาลู่ทางเข้าถึงปิศาจดอกไม้ปล่องเอาดาบหน้า เขาไม่มีเวลามากพอ เพื่อคิดหาวิธีได้รวดเร็วทันใจนึก
เขาเกลียดการรักษาระยะห่าง ด้วยการพ่นยางสีเหลืองเรืองแสงร้อนฉ่า
เขาถลาออกข้าง รากไม้พุ่งผ่าอากาศ เขวี้ยงหอกในมือปักกลางหว่างเบ้าตากลวงโบ๋
เจ้าหางก้อนก่อกวนสมาธิของอสุรกายหินให้เอกาดำเนินกิจได้สะดวกราบรื่น ไม่ต้องระวังหน้าระแวงหลัง แม้ไม่นานนัก เขาจำต้องเร่งประชิดตัวให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้
ปิศาจดอกไม้ปล่องพยายามสุดความสามารถกระชากหอกให้หลุดออกจากตัวมัน แหกปากหวีดร้องแสนสาหัสลั่น เขาขนลุกขนพองกับเสียงโหยหวนอันสยดสยองของมัน
เมื่อมันหยุดนิ่งได้ ปราศจากทักษะปกป้องตัวเองไปแล้ว
เขาคืนหอกกลับมือ ทันทีนั้นเอง เด็กชายฟาดหอกใส่ลำตัวปิศาจดอกไม้ปล่องเพียงสามครั้ง มันสวนตอบเขาด้วยรากไม้ยืดสะบัดลงมากลางกบาล เขาเบี่ยงตัว แล้วกระแทกหอกพาดแผ่นหลังของมัน มันมุดลงดิน
อสุรกายตัวใหญ่อิสระจากเจ้าหางก้อนเป็นที่เรียบร้อย
มันหอบแฮกๆ ข้างตัวเอกา
เอกาไม่ได้สนใจมันเป็นหลัก พุ่งเป้าไปที่กองหนุนอสุรกายตัวเล็กก่อน
เขาเลี่ยงโจมตีอสุรกายหินไม่ได้เสมอไป มันเข้ามาจุ้นจ้านด้วยตลอด ความบังเอิญหรือเป็นเพราะความจงใจ สมุนพวกนั้นมักนำพาเขาเข้าไปอยู่ในระยะของมัน หอกไม่สร้างความเสียหาย เกิดความสะทกสะท้านแก่มันสักนิด
เด็กชายสังหารกองกำลังเสริมถูกเรียกมาทั้งสามหมดสิ้นแล้ว
แมลงปอเฮสธาจูงมวลดอกฟันสิงโตห้อยท้ายลงไปในปล่องตรงกลางกลีบดอก กลีบดอกลิลลี่ชมพูกลีบใหญ่บานสะพรั่งแทนที่ดอกไม้ปล่องเน่าเปื่อยก่อนหน้านี้
อสุรกายศิลาล้มทรุดฮวบ คุกเข่าข้างเดียว เอกาโถมหอกเข้าฟาดสามตลบต่อเนื่อง ตามหินบางส่วนร้าวลึกเป็นร่อง คล้ายธารขาวสกาวเรืองรองปื้นสั้นยาว
เท้าถีบดีดตัวส่ง มันกระโดดสูงมาก น้ำหนักอันมหาศาล ผนวกกับแรงโน้มถ่วงดึงมันลงมาอย่างรวดเร็ว เอกาไม่มีทางพ้นระยะเขตแผ่นดินสะเทือน เขาหกล้มหน้าทิ่มหัวคะมำ กองแผ่หลาอยู่ที่พื้น จึงรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นเร็วจี๋
หันหน้าประจันอสุรกายหิน บัดนี้มันผงาดอีกครั้ง
ดอกไม้ปล่องฟากซ้าย ถึงคราวของมันพรวดขึ้นมาจากข้างใต้ดิน
เอการู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อมาดี
มันเรียกสมุนปิศาจอีกสามตน เจ้าเถาไม้คมหินสองตนนั้นไม่เท่าไร เขาค่อนข้างไม่ชอบปิศาจคทาคาถาไฟหนึ่งตนเอาเสียเลย
เด็กชายรุดจู่โจมอสุรกายสีครามก่อนสามฟาดหอกเพียงทางผ่าน แต่ไม่ใช่ทีเดียวรวดอย่างง่ายดาย สองครั้งแรก มันปัดป้องด้วยการเหวี่ยงคทาปัดโต้ตอบ หวังทำร้ายเขากลับจังๆ ถอยออกทันเสมอ พอเกิดระยะห่าง มันวาดคทาร่ายเวทไฟเผาเขา
เขาลัดเข้าใส่ปิศาจดอกไม้ปล่อง ประหยัดเวลากับศึกมะรุมมะตุ้มรอบนี้น้อยลงกว่ามาก แมลงปอมรกตลากดอกฟันสิงโตทั้งหมดใส่เข้าไปในปล่องดำมืดนั่น พลันดอกไม้เน่าเปื่อยแปรเปลี่ยนเป็นลิลลี่ชมพู เมื่อนั้นอสุรกายหินล้มลง ให้หลังเขาร่วงตกถึงพื้น หลังถูกหมัดหินใหญ่โตกวาดมาโดนเต็มๆ จนร่างเล็กปลิวกระเด็นลอยละลิ่วหลายเมตร
เอการีบสับเท้า ทำความเสียหายรุนแรงสามครั้งแบบเดียวกันกับทีแรก รอยแตกร้าวบนร่างอสูรศิลาเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง
ไม่รู้ว่าตนทำผิดพลาดมากไปหรือเปล่า ที่ซึ่งยิ่งทำมันคุ้มคลั่งหนักเอาเรื่องกว่าครั้งไหนๆ ก่อนหน้านี้นั่นเอง
กลีบดอกไม้น่าเปื่อยด้านขวาที่เหลืออยู่สั่นไหว ประหนึ่งสัญญาณเลวร้ายร้องเตือน ขณะมันดึงมวลร่างขึ้นจากใต้พสุธา พาความโกลาหลวุ่นวายขนาดพายุเฮอริเคนปานนั้น พร้อมพรั่งลูกสมุนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ทว่า คราวนี้พวกมันถูกเรียกมาสมทบกันถึงสี่ตน อสุรกายสีครามหนึ่งตน อสุรกายเถาไม้คมหินหนึ่งตน และอสุรกายโล่หินถึงสองตน เขาต้องเพ่งเล็งดอกไม้ปล่องเท่านั้นเสียก่อน อย่าให้มันเริงร่ากับการได้ปั่นป่วนเขาด้วยการถ่มยางกับตวัดรากไม้ที่เป็นแขนทั้งสองข้างของมันโจมตีเขา อีกประการ เขาจะได้ไม่พลั้งพลาดฆ่าอสุรกายตัวเล็กสักตน แล้วทำให้มันถูกเรียกมาใหม่ ซึ่งเปล่าประโยชน์ต่อเวลา ทั้งเสียแรงโดยใช่เหตุ
เด็กชายใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะทำให้ปิศาจดอกไม้ปล่องมุดลำตัวกลับลงดินไปได้
เจ้าหางก้อนคายก้อนน้ำลาย เอกาดื่มมันเพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บทางร่างกายเพียงก้อนเดียว
มันเบี่ยงเบนความสนใจของอสุรกายหินจากเขาชั่วครู่หนึ่ง
พอให้เขาสังหารกำลังเสริมทั้งสี่จนราบคาบ ดอกฟันสิงโตตามท้ายแมลงปอเฮสธาลงปากปล่อง กลีบดอกสีดำเน่าเปื่อยเหล่านั้น กลายเป็นลิลลี่ชมพูสวยสดบานสะพรั่ง
อสุรกายหินล้มคุกเข่าข้างเดียว เอกาปรี่เข้าฟาดหอกอย่างไม่รีรออะไรทั้งสิ้น ครั้งนี้เขาโจมตีทั้งหมดสี่ครั้ง มันถึงกระโจนสูงขึ้นฟ้า ก่อนไล่ล่าเขาเอาเป็นเอาตาย
ทั่วทั้งร่างหินของมันเรียกได้ว่าเปล่งแสงสว่างมาก คล้ายเจียนระเบิดเป็นเสี่ยงๆ อยู่รอมร่อ หากกระทบกระทั่งอีกเพียงเล็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น
เอกาต้องพุ่งหลบทุกการเข้าใส่ปานสายฟ้าแลบของอสุรกายหิน พร้อมกับต่อยกำปั้นทลายพื้น ถ้าเขาออกมาจากบริเวณใกล้เคียงไม่ทัน ร่างเขาจะถูกแรงลมใต้พิภพมหาศาลยกลอยไม่ต่ำกว่าสองเมตร และร่วงตกลงมาเป็นแน่ ยังไม่นับรูปแบบการโจมตีด้วยการทุบสองกำปั้นสร้างรอยแยกเป็นทางยาวมาสิ้นลงตำแหน่งเขานั่นอีกน่ะนะ
ปิศาจดอกไม้เน่าเปื่อยดอกสุดท้าย คลายกลีบซึ่งหุบอยู่บานออก มันดึงร่างออกจากการฝังตัว รากไม้สะบัดยืดยาวเฉียดแก้ม พ่นก้อนควันสีดำผ่านปล่องทั้งหมดห้าก้อน อสุรกายทุกตนก้าวฝ่าม่านควันมืด หาจังหวะบุกทีละตน
เขาทะยานหนีว่องไว เมื่ออสุรกายโล่หินหนึ่งในสองตน วิ่งปราดเข้ามาปะทะด้วยโล่ติดไฟลุกท่วม จากการร่ายคาถาของอสูรสีครามหนึ่งตน
มันช่างพอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน เจ้าดอกไม้ปล่องดันวิ่งผ่านใกล้เข้ามาบริเวณเขา
เอกาตรงดิ่ง พลางง้างหอกเหนือศีรษะกะตีหอกเต็มแรง
ขยับเท้าหนึ่งก้าวเพิ่มเกือบคลาดระยะกะไว้ทีแรก
เขาปราดหนีก้อนยางร้อนฉ่า มันถุยออกปากเพื่อสกัดกั้นเขาให้ถอยห่าง
จนแล้วจนรอด เขาส่งมันผลุบกลับลงดินได้สำเร็จ แม้เจ้าหางก้อนจะช่วยเหลือเขาไม่ได้ถี่ เนื่องจากข้อจำกัดของพลังกายอันจำกัดจำเขี่ย จะเป็นการหักโหมหนักเกินตัว เด็กชายจึงค่อนข้างมั่นใจมากว่าตนเลือกพลาด
กระนั้น เอกาปราบพวกสมุนห้าตนลุล่วงแล้ว ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จากอสุรกายโล่หินกระแทกชนด้านข้างลำตัว เมื่อเพลิงเกาะติดมอดม้วยไปพร้อมกับปิศาจสีครามร่างสลายกลายเป็นดอกฟันสิงโตจำนวนหนึ่งลอยค้างอากาศ เขาเซล้ม ม้วนหน้าลุกขึ้นฉับไว
อสุรกายหินร่วงล้มอีกครา เอกาไม่เคยรอช้าแม้แต่วินาทีเดียว
เอกากระหน่ำหอกห้ากระบวนท่า ผงะถอยกรูดตอนอสุรกายหินแหลกเป็นก้อนเล็กใหญ่ร่วงกราว ดอกฟันสิงโตนับยี่สิบเรืองแสงลอยคว้างอยู่เหนือศีรษะสองสามเมตร
ไม่ทันได้เงยหน้ายลชมความงดงามดั่งดวงดาราราตรีกาล ปิศาจดอกไม้ปล่องยักษ์พุ่งพรวดขึ้นมาจากข้างใต้พื้น เอกาลืมมันจนสนิทใจไปแล้วด้วยซ้ำ มันปรากฏตัวตั้งแต่แรกเริ่ม และมุดหนีหายไปครั้นเขาใกล้เข้าถึงมันพอดี
หวังว่าคราวนี้คงเป็นอย่างนั้น
เขาอยากสิ้นเรื่องสิ้นราวหนักหนาสาหัสสากรรจ์จากตรงนี้เสียที
มันเคลื่อนย้ายมวลร่างมหึมาอันเทอะทะแต่ละก้าวค่อนข้างอืดอาด ทว่า รากไม้ยืดยาวออกจากแขนแต่ละข้าง มันสะบัดมายังตำแหน่งของเขานั้นห้ามเผลอกะพริบตาเลยทีเดียว
เอกาขว้างหอกปักตรงกลางหน้าท้อง วินาทีเดียวกัน มันฟาดรากไม้ลงมาสุดแรง เขากระโดดม้วนหน้าหนี
ไม่ปล่อยให้หอกถูกดึงออก และโยนทิ้งไปทางอื่น
เด็กชายเรียกหอกคืนกลับมากำไว้มั่นมือข้างขวา
มันอยู่ห่างจากเขาในระยะสิบก้าว สืบเท้าเข้าหาเร็วไว วาดหอกฟาดสีข้าง
วิ่งหนีตำแหน่งการถ่มยางร้อนฉ่า พอได้จังหวะยกหอกตีมัน
เอกาทำความเสียหายดอกไม้ปล่องปิศาจหนึ่งกระบวนหอกทุกครั้งที่มีโอกาสมากพอ นับแปดหนด้วยกัน โดยไม่ถูกมันคืนสนองอย่างรุนแรง
พลันฉุกคะนึงถึงสิ่งที่หอกเล่มนี้ทำได้อีกอย่างขึ้นมา เกือบลืมไปเสียสนิทใจซะแล้ว
เขาพุ่งหลาวตัวเองไปขวามือโดยด่วน หยุดยืนเฉย วาดหอกสุดวงแขน เส้นโค้งสีทองหม่นแห่งแสงสุริยนปะทะพาดลำตัวมัน ต่อมาเจ้าปิศาจดอกไม้เน่าเปื่อยยักษ์ฝังกลบร่างใต้พื้นดิน
แมลงปอเฮสธาพ่วงดอกฟันสิงโตเหล่านั้นหายลงปล่อง กลีบดอกสลัดความเสื่อมโทรม กลีบลิลลี่ชมพูระบายทับ
อยู่ๆ เม็ดฝนร่วงผ่านหน้าเขา เอกาแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีเทาทึบ รู้สึกราวกับโลกทั้งใบจะไม่สว่างสดใสอีกตลอดไปอย่างไรอย่างนั้น เขาไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เลยน่ะนะ
เขารู้สึกได้ถึงเพียงความเย็นยะเยือกไหลรินบนร่างกาย ปราศจากความเปียก
มองไปรอบๆ ตัว เอกาถึงกลับสะเทือนขวัญ ฝนสัมผัสกลีบลิลลี่ชมพู ซึ่งบัดนี้สีของมันหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เฉกเช่นความสุขในฤดูฝนแสนเปล่าเปลี่ยว ช่างหดหู่จับใจเหลือเกิน
ถนนเบื้องหน้าสู่หนทางอันแสนลึกลับรอคอยเด็กชายเยือน
เอกาทิ้งตัวคุกเข่าสองข้าง เจ้าหางก้อนที่อยู่ใกล้ชิดเขาตลอดเวลา
แขนขวาโอบรอบคอยาวระหง ข้างใบหน้าแนบเสียดสีกับขนนุ่มนวล ช่วยปลอบประโลมจิตใจถูกความเศร้าซึมอธิบายไม่ได้กัดกินอยู่นี้ พอสบายใจท่วมท้นขึ้นมาได้บ้าง
"ขอบใจแกมากนะ"
กระซิบเสียงแผ่วปลายอย่างอ่อนล้า
"เจ้าหางก้อน"
หลับตา พลางสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก คลี่ยิ้มอ่อนแรง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา