25 ธ.ค. 2022 เวลา 03:30 • นิยาย เรื่องสั้น
เส้นทางขาเดียว (3)
อยู่ๆ พื้นดินใต้เท้าเขาสั่นสะเทือนรุนแรงเรื่อยๆ เอกาพยายามทรงตัวยืนไว้ให้มั่นสุดความสามารถ ไม่ให้เสียหลักล้มระเนระนาดเสียก่อน ชั่วแวบเดียว เอกาทันเห็นร่างโปร่งใสสีเขียวทั้งสองพลันสลาย แมลงปอเฮสธาพุ่งทะยานหายลับขึ้นข้างบน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ราวกับมันตื่นกลัวสุดขีดกับอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลเอามากๆ นี้
ทีแรกเดิมที เอกานึกว่าตัวเองรู้สึกเออเอง ที่ไหนได้ เงามืดกำลังค่อยๆ คืบคลานมาจากข้างหลัง ทาบทับลงบนตัวเขาทีละนิด
แผ่นดินยังสั่นไหว ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง เด็กชายเงยหน้ามองท้องฟ้าเคยแจ่มใสก่อนหน้า บัดนี้อึมครึมฟ้าฝนกลืนกินจนเกลี้ยงผืนนภา ชวนหม่นหมองครอบงำจิตใจ แผ่ขยายกว้างขวางรวดเร็ว
เจ้าหางก้อนมันส่งเสียงเห่าคล้ายร้อนรนอะไรของมันกัน
ดั่งสัญญาณเตือนภัยอันตรายร้ายแรงขณะนี้ เอกาก้มมองมัน เห็นว่ามันมองอะไรก็ตามเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลัง เขารีบมองตามสายตามันทันใด ให้ถ่องแท้ว่าคืออะไร
ต่อให้เอกาฝีเท้าเร็วขนาดไหน ไม่มีทางเทียบเท่าการผลุบๆ โผล่ๆ ของเจ้าหางก้อนภายในพริบตาเดียวก็ทิ้งระยะห่างไปห้าก้าว
เอกาเพิ่มความระมัดระวังพื้นข้างล่างมากขึ้น กอปรกับวิ่งไม่คิดชีวิต คลื่นเถาไม้หนามยักษ์แทงทะลุพสุธาไล่กรวดกระชั้นชิด อย่างกับมีชีวิต ดวงตา ไม่ก็ประสาทสัมผัส มุ่งหมายคร่าชีวิตดับสิ้นไม่ลดละ ฝังกลบและหนามแหลมคมพวกนั้นเสียบร่างเขาคาไว้ข้างในนั้นตลอดกาล หากพลาดเพียงก้าวเดียว ชีวิตหาไม่เป็นแน่
ถนนมันลาดลงต่อเนื่อง ทั้งชันมากขึ้น เขาหวั่นไถลตกลงไป ไม่รู้ชะตากรรมข้างล่างรอรับร่างกระแทก
เขาปล่อยตัวเองไถลลื่นลงไป โดยไม่คำนึงถึงอะไรให้เยอะแยะยุ่งเหยิง ไม่ว่าหน้าหรือหลังอันตรายพอกัน อย่างไหนมหันต์ถึงชีวิตบอกไม่ได้
เด็กชายหน้าถลากับพื้นหิน เถาไม้หนามยักษ์หยุดไล่ล่าเขาสนิทอยู่ตรงนั้น สองมือยันตัวลุกขึ้นยืนตรงแน่ว
คล้ายเสียงเป่าปากกับใบฮาร์มลอยแว่วมาในอากาศเงียบงัน
เอกาเบนสายตาไปทางขวามือ น้ำตกสีดำสนิทโปรยปรายลงมาจากผาหิน ไร้เสียงดังซู่ซ่า บริเวณรอบๆ หลงเหลือเพียงซากต้มฮาร์มยืนต้นตาย กิ่งก้านสาขาบนยอดต้นล้านเลี่ยน ทว่า กลับมีใบฮาร์มร่วงโรยไม่ขาด ถึงพื้นแล้วก็อันตรธานฉับพลัน
ร่างมรกตโปร่งแสงของพวกเขาสองคน มานินั่งยองๆ ส่วนเอกายืนก้มสังเกตเฝ้าติดตามความเป็นไปใจจดใจจ่อเทียบริมตลิ่ง
เขาสืบหน้าเข้าไปใกล้
ขณะนั้นเอง
"ที่นี่เองเหรอ"
เอกาเอ่ย
มานิหยิบใบฮาร์มใกล้ตัวขึ้นมา พลิกสำรวจมันถี่ถ้วนแล้ว อีกฝ่ายทิ้งใบในมือ ก่อนหยิบอีกใบตรงปลายเท้าซ้าย
ตามจริงแล้ว เอกาไม่เห็นใบฮาร์มสักใบบนพื้น ประมาณว่ามานิหยิบมาจากสถานที่ต่างเวลา และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่านั่นเอง
"ฉันว่าที่นี่มันเงียบสงบดี"
มานิบอก
"บรรยากาศก็ดีด้วย แถมทิวทัศน์ก็สวยงามไม่แพ้กัน"
"แล้วนายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ"
เขาใคร่สงสัย
อีกฝ่ายหันมาเลิกคิ้วสูงข้างหนึ่ง
"นายไม่รู้จักใบฮาร์มจริงสิ"
ใบฮาร์มในคีบนิ้วโป้งกับชี้ชูขึ้น
"รู้จักสิ"
เอกายืนกราน
"แล้วทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ"
มานิงุนงง
"ฉันแค่ไม่เข้าใจน่ะ"
เขาแก้ต่าง
"นายจะเลือกสรรใบฮาร์มพวกนี้ทำไมกัน"
"อ่อ"
อีกฝ่ายร้อง
"บางใบใช้การได้ บางใบก็ไม่ได้แล้ว"
"ยังไง"
มานิยกยิ้ม
"เดี๋ยวนายคอยดูนะ เอกา"
เด็กชายเอกาด้วยใคร่อยากรู้อยากเห็นเสียมากๆ ตอนนี้เขาหยุดยืนอยู่ห่างจากพวกเขาทั้งสองคนหนึ่งช่วงแขน ใกล้ชิดมากจนมองเห็นทุกอากัปกิริยาได้ชัดถนัดตาทีเดียว
มานิวาดใบฮาร์มปาดผิวน้ำพลิกทั้งสองด้าน คลื่นน้ำกระเพื่อมทางยาว สลัดพอเปียกหมาดๆ เม็ดน้ำมากมายกระเซ็นกระจัดกระจาย ร่วงกราวตกกระทบผิวน้ำเกิดวงกระเพื่อมหลายดวง
"ทำไมต้องป้ายน้ำด้วยล่ะ"
เอกาเกิดคำถามอันน่าสงสัยขึ้นไม่หมด
"ถ้านายอยากได้เสียงนกอรุณอันไพเราะอะนะ"
มานิขยายความให้กระจ่าง
"อย่างนี้นี่เอง"
เขายิ่งแจ่มแจ้งก็ตอนมานิเม้มใบฮาร์มไว้ใต้ริมฝีปากบางๆ เป่าลมปากเบาๆ ไม่เน้นหนัก เพื่อทดสอบการใช้งานได้เป็นที่แน่นอนแล้ว อีกฝ่ายจึงเริ่มเป่าเสียงทีละจังหวะ เฉพาะท่อนหลักของเพลงคิมหันต์นิรันดร์ แม้แปร่งเล็กน้อย ดั่งเสียงนกอรุณก็ไม่ปานขับขานเจื้อยแจ้ว---ผิดเวลา สองมือหนีบปลายยอดปลายท้ายใบ ดึงไปซ้ายทีขวาที ค่อยๆ ที เสียงจะได้ไม่เพี้ยนจนตลกขัน
"วิเศษ"
เอกาอัศจรรย์ใจ
"นายทำให้ฉันอยากลองบ้างเลย มานิ"
"เอาจริงสิ"
มานิยากจะเชื่อที่ได้ยินความกระเหี้ยนกระหือรือนั่น
เขาพยักหน้าขันแข็ง
"มันไม่ง่ายเลยนะ"
อีกฝ่ายออกโรงเตือน
"จะยากกว่าการประคับประคองอาวุธพรานขนาดไหนกันเชียว"
"มันต่างกันมากนะ"
มานิแย้ง
เอกาก็หาเข้าใจ หรือตระหนักทันใดไม่
"สิ่งหนึ่งเลย เอกา ที่นายต้องมีคือความอดทนอดกลั้นให้มากๆ คล้ายๆ กับการใช้อาวุธพรานของนายนั่นแหละ มันต้องผ่านการฝึกปรือจนชำนาญชาญ น้ำหนักลมปากที่ใช้เป่าสำคัญพอๆ กับการขยับใบฮาร์มทีเดียว ฉันว่าฉันสอนนายให้เป่าออกมาเป็นเสียงให้ได้ก่อนดีกว่า ไม่งั้นคงออกมาเป็นเสียงพ่นลมปาก น้ำลายพุ่งเลอะเทอะไปทั่วแน่"
"ขนาดนั้นเลยหรือ"
เขาขำพรืด
อีกฝ่ายสำลักหัวเราะลั่นตามทีหลัง
เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งค่อนกำยำล่ำสัน คว้ามือจับอากาศธาตุ กลับมีใบฮาร์มติดมือข้างนั้น
หว่างนิ้วของเอกาหนีบโคนใบฮาร์ม เขาไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในมือเขาได้อย่างไร ตอนไหน เขาหาคำตอบได้ไม่ทัน และคงไม่คิดหาคำตอบให้ได้มาตอนนี้เป็นแน่ กระนั้น คิดจนหัวระเบิดก็ไม่มีวันได้คำตอบถ่องแท้ ซึ่งอนุมานใดๆ ไม่มีอยู่ในสมองอันว่างเปล่านี้
ร่างเขียวปรุโปร่งของพวกเขาสองคนเลือนหายตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้สึกตัวได้ตอนความรู้สึกชักพาเขาขยับมายืนเลียบริมตลิ่งลำพัง ลำธารอยู่ต่ำลงไปไม่กี่เซนติเมตร เด็กชายนั่งคุกเข่า ขณะจ้องมองน้ำราวกับโดนมนต์สะกดอยู่นี้
เจ้าหางก้อนเห่าเสียงดังโหวกเหวก มันตื่นกลัวสัมผัสตามสัญชาตญาณ เพื่อปลุกสติเอกา ฉุดเขาออกจากภวังค์อันถวิลหาแต่มานิ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา