4 ธ.ค. 2022 เวลา 17:11 • ไลฟ์สไตล์
คนที่ไม่เคยปิ๊งใคร...
- มีด้วยเหรอ?
- เป็นไปได้ยังไง?
- เลือกมากเองรึเปล่า?
- อย่าซึนเดเระสิ...!
+ เมื่อหลายวันก่อนมีโอกาสคุยประเด็นนี้...
- หลายคนเชื่อว่า คนเราต้องมีสัญชาตญาณโดยธรรมชาติในการรู้สึกรักชอบเพศที่ชอบ เหตุผลที่บางคนยังโสดก็เพราะเลือกมาก, หรือมี ego สูง เป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะไม่เคยปิ๊งใคร
- บางคนก็เชื่อว่า คนโสดที่บอกว่าชอบเพศตรงข้ามนั้นบางครั้งอาจเป็นข้ออ้าง ความจริงคือชอบเพศเดียวกันแต่ไม่กล้าบอกใคร และใช่ค่ะ...
(1)ตอนนี้ส่วนใหญ่เข้าใจและยอมรับ LGBTQIA+ โดยเฉพาะ LGBTQI ที่เกี่ยวข้องกับเพศที่ชอบแต่ A สุดท้ายคือ Asexual นี่สิ...
+ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้ามก็ล้วนเป็น asexual ด้วยกันได้ทั้งนั้นเพราะไทป์นี้แตกต่างจากคนกลุ่มอื่นที่ "มันเป็นกันที่ภายใน ที่เข้าใจรายละเอียดได้ยาก" และมันยากจน... เราที่สงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็น asexual ก็ยังไม่แน่ใจไปกับมัน!
(2)สำหรับเรา
ตั้งแต่เกิดมาจนอายุแตะเลข3 กว่าๆ เราไม่เคยรู้สึกปิ๊งหรือหวั่นไหวกับใครเลย...แม้แต่ครั้งเดียว และโดยลึกๆ แล้วเราไม่เข้าใจ(ด้วยความรู้สึก)ด้วยซ้ำว่าที่คนอื่นบอกว่า
- เกิดรักแรกพบ
- หัวใจเต้นแรง
- รู้สึกตื่นเต้นเมื่อคิดถึงเขา
- อยากเจอคนคนนั้น
- อยากมีแฟน
- ...
มันเป็นยังไง
เราไม่เข้าใจในความรู้สึกเหล่านั้น ที่เราเข้าใจเป็นความเข้าใจด้วยสมอง คือเข้าใจด้วยหลักการ เหตุผล และมโนเอาว่าที่คนอื่นพูดมามันน่าจะเป็นอย่างนี้ๆๆในขณะที่หัวใจเราไม่ได้รู้สึก
(3)สำหรับเรา...
ทุกๆครั้งที่ถึงช่วงเทศกาลอย่างลอยกระทง ปีใหม่ วาเลนไทน์ ...
ที่คนอื่นบ่นกันว่า
- เบื่อคนมีความรัก
- ไม่อยากรับรู้
- อยากอยู่บ้านเฉยๆ
- อยากปิดมือถือ
- ...
เราไม่เข้าใจ(ด้วยความรู้สึก)เลยว่ามันรู้สึกยังไง ในทางตรงข้ามเราจะชอบวิ่งเข้าหา
ช่วงเทศกาลเหล่านั้นเราชอบหาโอกาสไปดูคนมีคู่เค้าไปใช้ชีวิต ไปมีความสุขกัน ไปดูหนังวาเลนไทน์ ไปแย่งซื้อดอกไม้ให้ตัวเอง เราชอบเห็นอะไรแบบนั้นมันเป็นสีสันที่น่าเก็บไว้ในความทรงจำดีออก
ใช่ค่ะ... เรากำลังจะบอกว่า "คนที่ไม่เคยปิ๊งใครนั้นมีอยู่จริง" อย่างน้อยคนคนนั้นก็คือเรา สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความรู้สึก passive ที่เกิดขึ้นจากภายใน ไม่ต้องพยายามหักห้ามใจให้ไม่รู้สึก โดยเฉพาะในตอนเด็กที่ผู้ใหญ่มักไม่อยากให้ลูกหลานมีแฟนนั้นเราไม่เคยต้องพยายามหักห้ามใจอะไรเลย
สำหรับเราในตอนที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ใครหลายคนชอบมาสอบถาม (แกมกดดัน) ว่าเมื่อไหร่เราจะมีแฟน? เมื่อไหร่จะแต่งงาน? เมื่อไหร่จะมีลูกต่างหากที่เราต้องพยายาม
(4)จริงๆ ลึกๆ ข้างเลยเราไม่เคยมีช่วงเวลาในชีวิตที่คิดอยากโฟกัสกับความรักหรืออยากมีแฟนด้วยซ้ำ มันไม่รู้สึกค่ะ มันไม่มีแรงขับอะไรจากภายในให้รู้สึกอยากทำอะไรแบบนั้น แต่พออายุเกินเลข 3 มา พอหลายคนเริ่มทักโน่นนี่ เราก็เริ่มมีข้อสงสัยว่า เออ... อะไรกันนะ? นี่เราผิดแปลกจริงๆป้ะ? หรือว่ายังไง? เราควรลองหาแฟนไหม? เราควรทำยังไง?
(5)พอเริ่มรู้สึกแบบนั้นเราก็เริ่มลอง
- ลงเพจหาคู่
- ไป speed dating
- เล่นแอพหาคู่
- อื้ม...รายการหาคู่ก็เคยสมัคร แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับจากทางรายการแม้กระทั่งการติดต่อไปแคสติ้ง
หลังจากที่ได้ลองทำอะไรเหล่านั้น มันก็มีคนทักมาเรื่อยๆ แต่ลึกๆ แล้วเรารับรู้ความรู้สึกของตัวเองเลยว่า "อินเนอร์ภายในเรายังนิ่งเหมือนเดิม" เพราะอะไรรู้ไหม?... เพราะที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจในจุดที่เราเป็น ด้วยระยะเวลาที่ว่างเว้น ด้วยคำที่ใช้ก็อาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจไปว่าเราเย็นชา และหมายความว่าเราไม่สนใจแล้วเราแทบจะไม่เคยแชทคุยกับใครได้เกิน 3วัน
จนกระทั่งวันที่รู้จักคำว่า Asexual
(6)ในภาษาไทย Asexual หมายถึงคนที่ไม่ฝักใฝ่ทางเพศหรือไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ที่ผลจากการศึกษามีประชากรกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 1%
แต่ในคำนิยามนั้น... เชื่อไหมว่าขนาดใช้เวลาอยู่นานเราก็ยังงงๆอยู่ดีว่า "คำคำนี้คืออะไร?" แม้กระทั่งตอนที่ไปอ่านรายละเอียดภาษาไทย/ภาษาอังกฤษหลายที่เราก็ยังงงๆ อยู่ดี อย่างคำนี้ในรูป... never had any romantic or sexual feelings for strangers เรายังงง 😅
(7)ที่ว่างงคือ
เราไม่รู้ว่า ความรู้สึก romantic หรือ sexual อ่ะ...
มันต้องรู้สึกยังไง?
อืมใช่! เราไม่รู้สึกถึงขนาดนั้นแต่ไม่ได้หมายความว่าเราสัมผัสตัวใครไม่ได้
จริงๆ เราเป็นคนที่ชอบ skinship คนนึง เวลาที่เจอเพื่อน/รุ่นพี่ที่สนิทๆ เราก็จะเข้าไปน้วยๆ เป็นแมวแง้วๆ ใส่
เราสัมผัสตัวคนอื่นได้ แต่เราไม่เข้าใจคำว่า romantic
(8)พอไม่เข้าใจว่า
- ความ romantic เป็นยังไง?
- ไม่เข้าใจว่าไม่ฝักใจทางเพศเป็นยังไง
มันก็ไม่ค่อยเข้าใจในเชิงลึกของคำว่า asexual
และเอาเข้าจริง... เราไม่เข้าใจด้วยว่า
- คำว่า sex appeal มันเป็นยังไง
- ไม่เคยเข้าใจที่คนอื่นพูดว่าดาราคนนั้นหล่อ พระเอกคนนั้นมีเสน่ห์
เราไม่เคยเข้าใจเลยยย
(9)จำได้ว่าปี 2553 ตอนฝึกงานปี 5 ที่ช่อง 3 มีละครชุด 4หัวใจแห่งขุนเขา
มีเพื่อนเราคนนึงถือเรื่องย่อละครมา 4เล่มแล้วบอกว่า พระเอกเรื่องสุดท้ายเป็นรุ่นพี่เภสัช แกหล่อเท่มากเลย เราก็เอาทั้ง4เล่มมาดูด้วยความงุนงง พอสบโอกาสก็ถามเพื่อนคนหนึ่งว่า "เราขอถามจริงๆนะว่า... ตัวชี้วัดของความหล่อนี่คือยังไง ต้องดูยังไงให้รู้ว่าหล่อมาก/หล่อน้อย?😅"
(10)คำถามนั้นมันฟังดูขำนะ และมันค่อนข้าง sensitive กับการถามเพื่อนแบบนั้นเพราะถ้าไม่เข้าใจกันก็อาจจะคิดว่าเราประชดได้ แต่ก็นั่นแหละไม่เข้าใจ(ด้วยหัวใจ)ก็คือไม่เข้าใจ ที่เรามีและใช้มาตลอดคือความเข้าใจ(ด้วยสมอง)ว่าเออ... เป็นพระเอกก็ต้องหล่อแหละ แต่จากใจจริงๆเลยค่ะ เรารู้สึกมาเสมอเลยว่าผู้ชายก็หล่อ(เกือบ)ทุกคน...จริงๆ 🤣
(11)ความไม่เข้าใจเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เหมือนจะเป็นข้อสรุปที่ว่า นี่แหละคือ asexual แต่ทีนี้ asexual ก็แบ่งย่อยไปหลายแบบอีก เช่น aromantic, demisexual, aro/ace, aromantic,... ดังรูป
จริงๆ ประเภทย่อยของ asexual ยังมีมากกว่ารูปด้านบนนี่อีกมาก และยอมรับว่า... เราเองที่วันนี้มาแชร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้เข้าใจกับมันมาก เราใช้เวลาดูรายละเอียดเรื่องนี้แค่เป็นช่วงๆ ไม่ได้ดูแบบจริงจังเพราะไม่เห็นความจำเป็นว่าเราต้องยัดตัวเองเข้ากรอบอะไร แค่สนใจเพื่อจะทำความเข้าใจกับตัวเองเพิ่มขึ้น
(12)จนวันนึงก็มาเจอข้อมูลในรูปนี้แล้วเออ... เราเข้าใจ sign ต่างๆ เหล่านี้แฮะ
Some signs that you may be demisexual and demiromantic
-> สัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะเป็น demisexual and demiromantic
You have never had a ‘crush’ on someone, or had any romantic or sexual feelings for strangers or acquaintances.
-> คุณไม่เคยชอบใครสักคนหรือมีความรู้สึกโรแมนติกหรือความรู้สึกทางเพศกับคนแปลกหน้าหรือคนรู้จัก
You may have only had ‘those’ sorts of feelings for someone (or very few people) that you had been very close friends with for a long period of time.
-> คุณอาจมีความรู้สึกแบบนั้นกับใครบางคนหรือไม่กี่คนที่คุณสนิทด้วยเป็นเวลานาน
You understand the idea of falling in love with someone, and then wanting to have sex with them and share your life with them. The idea of having butterflies or tingly feelings for strangers or acquaintances seems a bit odd to you.
-> คุณเข้าใจแนวคิดของการตกหลุมรักใครบางคนก่อนที่จะต้องการมีเพศสัมพันธ์กับพวกเขาและแชร์ชีวิตของคุณกับเขา ความคิดที่จะมีอารมณ์แปรปรวนหรือรู้สึกหวั่นไหวกับคนแปลกหน้าหรือคนรู้จักนั้นฟังดูไม่ค่อยจะเข้าใจสำหรับคุณ
You may struggle to form relationships with people, as when you do feel attraction to someone, they have already decided that you are ‘just friends’. This can leave you feeling a bit confused about how to go about having relationships with people.
->คุณอาจงงๆกับการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคน เพราะเมื่อคุณรู้สึกชอบใครพวกเขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าคุณเป็นแค่เพื่อน สิ่งนี้อาจทำให้คุณรู้สึกสับสนกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคน
ถึงตอนนี้เราก็พอเข้าใจอะไรหลายอย่างในทางทฤษฎี แต่ในด้านการปฏิบัตินี่สิ มันไม่ค่อยได้มีโอกาส
(13)ที่ผ่านมาด้วยความที่เพื่อนร่วมงานเกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย เคยถ่ายรูปกับเพื่อนแล้วเพื่อน(กลุ่มอื่น)ถามว่าไม่มีใครจีบเราเลยเหรอ? เพื่อนของเธอหล่อๆหลายคนเธอไม่รู้สึกชอบใครเลยเหรอ? เราก็เอ้อ... เราต้องรู้สึกด้วยเหรอ? ก็เก็บความสงสัยเอาไว้จนกระทั่งวันนึงที่มีโอกาสได้ไปดูงานบอลช่อง3 ที่เราเห็นว่า...
(14)มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ไปพิสูจน์ว่า "เวลาได้เจอคนที่ sex appeal สูงๆ เราจะรู้สึกยังไง?" เพราะแน่นอนว่าใครที่จะมาเป็นพระเอกเตะบอลกับช่อง 3 ได้ต้องมีแรงดึงดูดตรงนี้มาก ๆ อยู่แล้วแน่ ๆ เราก็เลยลองไปแล้วบทสรุปที่ได้มาก็คือ... เราไม่รู้สึกอะไรกับพระเอกคนไหนเลย
- มันไม่ปิ๊ง
- มันไม่มีกระแสไฟฟ้าช็อต
- มันไม่เขิน
- มันไม่อะไรทั้งนั้น
- มันไม่รู้สึกอะไรเลย
ก็เป็นอันว่านั่นล่ะ... เป็นอันว่าต่อมรับแรงดึงดูดในเพศที่ชอบของเราน่าจะช็อตจริงๆ
อันนี้คือประสบการณ์ส่วนตัวจากที่เราใช้เวลาทำความรู้จักกับสิ่งที่ตัวเองเป็นซึ่งเกิดขึ้นกับประชากรส่วนน้อย ซึ่งอาจจะน้อยซะจนหลายคนไม่เชื่อว่าจะมีคนแบบนี้ได้
ค่ะ... สิ่งที่ asexual เป็นไม่ใช่ความผิดปกติ
asexual ไม่ได้ไม่รู้สึกถึงแรงดึงดูดทางเพศเพราะศีลธรรม ไม่ได้เป็นเพราะเซ็กซ์เสื่อม หรือไม่ได้เป็นเพราะเหตุผลอื่นใดทั้งสิ้น สิ่งที่ asexual เป็นนั้นเป็นความปกติแบบหนึ่ง เพียงแต่แค่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คนอีก 99% เป็น
แต่สุดท้ายแล้ว ถ้ามีใครไม่เชื่อในการมีอยู่ของ asexual สำหรับเราเราก็เข้าใจได้ เพราะในส่วนลึกแล้วเราก็ไม่เข้าใจ(ด้วยความรู้สึก)เหมือนกันว่า ที่คนอื่นว่ามันจะมีแรงดึงดูดตามธรรมชาติที่ทำให้อยากเข้าหาใครสักคน รู้สึกปิ๊งเขา รู้สึกอยากเข้าใกล้เขานั้นมันเป็นยังไง
ฉันเข้าใจ... ถ้าเธอจะไม่เข้าใจฉัน
เพราะแท้ที่จริงแล้ว ลึก ๆ ฉันก็ไม่เข้าใจเธอเหมือนกัน
ฉันพยายามแล้ว...
โฆษณา