10 ธ.ค. 2022 เวลา 10:15 • ความคิดเห็น
5 เรื่องที่เคยถวิลหาแต่จะไม่มาอีก
ผมเป็นคนที่เติบโตมาในยุค 80s 90s เรียกได้ว่าเป็นพวก Analog ยุคสุดท้ายก่อนโลกจะหมุนเร็วจี๋ด้วยการมาถึงของ Digital Age และ Social Media คนรุ่นผมได้เห็น ได้ลอง และได้มีความรู้สึกดีๆหลายเรื่องในยุคก่อนดิจิตอล การมาถึงของเทคโนโลยีนั้นทำให้หลายอย่างต้องหมดต้องหายไป
3
แต่ความทรงจำถึงความรู้สึกดีๆนั้นยังอยู่ แต่พอจะลองกลับไปหาความรู้สึกนั้นอีกก็กลับไม่เหมือนเดิม ต่อให้ไปลองประสบการณ์เดิมก็เรียกความรู้สึกนั้นกลับมาไม่ได้อีก เหมือนว่าพอผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป กลายเป็นเรื่องที่ได้แค่ถวิลหา เม้ากับเพื่อนฝูงที่ทันประสบการณ์เดียวกันพอครึ้มๆ และโม้ให้เด็กมันฟังว่าแต่ก่อนมีอะไรแบบนี้ด้วย
5
ผมลองลิสต์เล่นๆถึง 5 เรื่องที่เคยมีประสบการณ์ที่ดีแต่ตอนนี้กลับไปทำเหมือนเดิมก็ไม่ได้ หรือไม่รู้สึกแบบนั้นอีก คนอื่นคงมีเรื่องต่างกันออกไป ตามวัย ตามเรื่องราวของแต่ละคน ลองคุยกันเล่นๆต่อเนื่องในความเห็นกันนะครับ
1
  • เล่นเกมส์ที่ไม่ซับซ้อน
สมัยก่อนผมติดเกมส์ Football Manager มากโดยเฉพาะภาคปี 2005 และ 2010 รวมถึง CM ภาค 03/04 แถวๆช่วงนั้นเกมยังเล่นบนแผ่น CD จัดตัวนักเตะแป๊บเดียวก็มาลุ้นแข่งได้โดยไม่ต้องคลิกปุ่มโน่นนี่ ไม่ต้องบริหารจัดการทีม ตอบคำถามผู้สื่อข่าว คุยกับนักเตะเหมือนกับ Version ปัจจุบันที่กว่าจะแข่งได้ก็ใช้เวลานานมาก เล่น Season นึงไม่นานก็จบ เมื่อวานผมไปลองโหลดเกมส์ที่เคยรักมากดังกล่าวมาลองเล่นดู ปรากฏว่าเปิดได้แป๊บเดียวก็ปิด เพราะกราฟฟิคไม่ดีเลย แถมนักเตะก็ตกยุคไปแล้ว ไม่สนุกเหมือนเล่นแต่ก่อน
1
ผมไปลองเกมส์ที่เคยติดในอดีตที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนทำเอาสมัยก่อนติดงอมแงมไม่กินข้าวกินปลา ไม่ว่าจะเป็นสามก๊ก Civilization Command&Conquer ฯลฯ ก็ได้ความรู้สึกเดียวกันคือไม่สนุกเหมือนเดิมอีกต่อไป ก็ได้แต่ยอมรับว่าเวลาผ่าน โลกเปลี่ยน ความรู้สึกก็เปลี่ยนตามไปอย่างเรียกคืนไม่ได้อีก
6
  • การเขียนหนังสือด้วยลายมือ
1
ผมเขียนหนังสือเยอะก็จริงแต่ Input 99% เป็นการพิมพ์ โอกาสในการเขียนด้วยลายมือเหมือนสมัยก่อนแทบไม่มี ความรู้สึกละเลียดในการค่อยๆเขียน ใช้เวลาคิดก่อนเขียนเพราะผิดไปต้องลบก็จะเลอะเทอะ นั้นทำให้คันอยากรู้สึกแบบนั้นอีก ผมเลยลองพยายามเขียนบทความด้วยลายมือเล่น
3
ปรากฏว่าไม่สนุกแล้ว เล็บนิ้วชี้ก็งอกมาจนสีกับนิ้วจนเลือดออกซิบๆพอเขียนไปได้ซักพัก ความอดทนก็น้อยลง ในที่สุดก็หันไปพิมพ์เอาแทน การเขียนจดหมายยาวๆ ก็คงเหมือนเกมส์ เขียนตอนนี้ก็ไม่อินเหมือนก่อน
  • อ่านหนังสือกำลังภายใน
ผมโตมากับกิมย้งและโกวเล้ง เวลาอ่านกำลังภายในทีละห้าเล่ม แปดเล่มนี่แทบไม่อยากให้จบ จินตนาการในหัวบรรเจิดถึงฉากการต่อสู้ ซาบซึ้งไปกับน้ำใจลูกผู้ชาย ดื่มด่ำกับความรักแสนหวาน อ่านจบแล้วก็เอามาอ่านใหม่ได้หลายรอบ
3
แต่ผมก็ไม่ได้อ่านนิยายกำลังภายในมาเป็นสิบปีเพราะนิยายใหม่ช่วงหลังๆใช้ภาษาจีนกลางเป็นชื่อคนซึ่งผมอ่านแล้วจำชื่อไม่ค่อยได้เพราะไม่ชิน แต่พอว่างๆลองไปซื้อฉบับดั้งเดิมของกิมย้งและโกวเล้งมาอ่าน เลือกเรื่องที่โปรดปรานเช่น กระบี่เย้ยยุทธจักร ฤทธิ์มีดสั้น หงส์ผงาดฟ้า แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ฯลฯ
2
พอเอามาอ่านใหม่กลับไม่มีภาพจินตนาการในหัว ในใจเหมือนรู้สึกว่าหนังสือไปช้ามาก ไม่เหมือนดูจาก Streaming ที่ฉากบู๊ดุเดือดอลังการ ตัวละครก็พูดจาวกวนไม่คมคายเหมือนอ่านแต่ก่อน อ่านได้ไม่ถึงครึ่งเล่มก็ยอมแพ้ ปล่อยความมันส์ในอดีตไว้อยู่ที่เดิมต่อไป
1
  • ดูทีวีตามเวลา ดูเรื่องเดียวกับคนอื่นแล้วมาเม้ากัน
ผมเคยดูสัมภาษณ์ต๋อง ศิษย์ฉ่อย โดยน้าเน็ก น้าเน็กพูดเกริ่นว่าสมัยต๋องรุ่งๆนี่ประมาณเขาทรายเลย คือเป็นพวกทำถนนว่างเพราะทั้งประเทศจะหยุดดูหน้าจอกันหมด พอดูจบก็วิ่งออกไปตีสนุ้กกันจนโรงสนุ้กเต็ม พูดคุยกันได้เฟรมต่อเฟรม หรือยกต่อยกในกรณีเขาทราย ไม่พูดถึงโกโบริ หรือละครต่างๆที่เรารอดูเวลาเดียวกัน พร้อมกันและรอวันรุ่งขึ้นเพื่อไปเม้ากับเพื่อนที่ดูเหมือนกัน
6
เดี๋ยวนี้ข่าวสาร ข้อมูลก็หลากหลาย คอนเท้นท์ก็มีมากจนล้น แพลตฟอร์มต่างๆก็มีจนต่างคนต่างดูเลือกไม่ถูก เรื่องใหญ่สำหรับบางคนก็หาคนที่มีส่วนร่วมแบบเจอหน้าได้ยาก ที่ออฟฟิศก็ดูคนละเรื่องละราว ต้องไปคุยกับคนที่มีรสนิยมเหมือนกันในเนตแทน
3
ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อนผมเองที่บ้าบอลอังกฤษก็งงๆกับคนที่ตื่นเต้นกับการแข่ง F1 เพราะไม่ได้ดู มัวแต่ดูบอล ไม่มีอีกแล้วที่รถจะโล่งเพราะเราดูอะไรพร้อมกันทั่วประเทศและได้เม้ามอยกันแบบนั้นอีก
  • สมัยที่เพลงเป็นของหายาก
เพลงในยุคที่ยังไม่โดน Digitize เป็นของหายากและมีราคา การที่ได้เพลงโปรดมาครอบครองนั้นต้องใช้ความพยายามไม่น้อย ตั้งแต่ยุคที่ต้องคอยอัดเพลงจากวิทยุ มีดีเจพูดกลางเพลงทีก็มีเคืองกัน หรือต้องโทรไปขอเพลง จนถึงมายุคที่เบิร์น CD หาเพลงจาก Limewire เพลงนั้นมีเสน่ห์ที่สามารถทั้งบอกเรื่องราวที่ตัวเองคิดว่าเท่ห์อัดส่งให้สาวฟัง
หรือเพลงที่มีครอบครองสามารถบอกอารมณ์โศกเศร้าเหงารักได้เป็นอย่างดี เพลงเป็นของมีราคาไม่ว่าต้องไปเดินซื้อแผ่นประเทืองตามพันธุ์ทิพย์หรือมาถึงตอนเสียค่าริงโทนทีละสิบบาท
2
แต่พอมาถึงยุคที่เพลงกลายเป็นของฟรี จากฟังอะไรเมื่อไหร่ก็เปิดยูทูป Joox Spotify หรือส่งต่อกันได้ง่ายๆมีเก็บทีเป็นพันเป็นหมื่นเพลงตั้งแต่ยุค iPod ความหายากของเพลงก็น้อยลง เพลงฮิตร่วมสมัยก็ไม่มีเหมือนก่อน หรือถ้ามีก็ผ่านไปเร็วมากๆ ของบางอย่างพอได้มาง่ายเกินไปหรือเป็นของฟรี คุณค่าก็ลดน้อยถอยลงตามไปด้วย
2
ความรู้สึกบางอย่างก็คงมีค่าและเหมาะสมกับบริบทและยุคสมัยนั้นๆ รวมถึงประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนไป บางเรื่องย้อนกลับไปทีไรก็มีความสุข แต่หลายอย่างผ่านแล้วก็ผ่านเลย เหลือแต่ความทรงจำดีๆไว้ระลึกถึงและพูดคุยกับคนร่วมสมัยเท่านั้น
1
เหมือนกับความรู้สึกทั้งห้าเรื่องที่นึกเมื่อไรก็รู้สึกดี แต่ย้อนกลับไปรู้สึกแบบเดิมไม่ได้อีก…
โฆษณา