11 ธ.ค. 2022 เวลา 04:49 • ความคิดเห็น
ของเรา..ขอเวลาส่วนตัว เข้าห้องพระสวดมนต์ ไปวัดไปปฏิบัติของเรา เป็นเวลาของเรา ทำมาเกือบสามสิบปี คนที่ตามไปอยากไปก็ไป เค้าก็มีเวลาเป็นส่วนตัวมาก คือ ไปนั่งหลับใหล รอจนเรากลับ ไปทุกครั้งก็หลับ ก็เลยบอกว่า งั้นอยู่บ้านแล้วกัน ไปมัวนั่งหลับ มันก็ไม่ได้อะไร เวลาอยู่บ้าน เค้าก็ทำนั่นทำนี่ คุยคนนั้นคนนี้ ไม่มีหลับ ..แต่สติเหลือน้อย ..คือ รับอารมณ์คนนั้นคนนี้ มาคิดฟุ้งซ่าน ..อยู่ในตัวตน ทับจิตของตน
..มีแต่เอาเรื่องราว เรื่องอารมณ์คนนั้นคนนี้ วิตกวิญญาณ ข่าวนั่นข่าวนี้ สารพัดเรื่อง ..มันทับไปเรื่อยๆ ..น่าสงสาร ..บอกอะไรก็ไม่ค่อยฟังเสียด้วย ..ดื้อตาใส .พูดบอกอะไร ไม่ค่อยได้ยิน..พอหยิบเงินให้..ไม่ต้องบอก รีบมารับทันทีเลย..
..ส่วนเรา ..เราต้องการพักกาย พักจิต..ไปทำจิตทำใจ ให้สงบจากอารมณ์วุ่นวาย ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เราต้องการพัก..หยุดอารมณ์นึกคิดที่ไม่หยุดหย่อนชั่วขณะหนึ่งก็ยังดี ..ไปพักจิตพักใจ เงียบๆ พักแล้วก็กลับบ้าน ทำงานเหมือนเดิม..แต่ว่าสิ่งที่ได้ คือ จิตที่ไม่มัวหมกมุ่นกับอารมณ์คนนั้นคนนี้ เราฟังคนพูดได้ เราก็คัดเอาอารมณ์ที่เค้าพูด ด้วยอารมณ์ออกไป ..เราคัดเอาเหตุผลได้ ..ในสิ่งที่เราฟัง .เรื่องที่ต้องกระทำ สมควรทำ หรือ ไม่สมควรทำ .
คนเรามันไม่ได้ ..อยู่กันแค่สองคน มีเรื่องคนนั้นคนนี้ เรื่องที่ทำงาน เรื่องที่ต้องไปเกี่ยวข้องมามากมายก่ายกอง ที่เป็นภาระต้องเสาะแสวงหามาหล่อเลี้ยงชีวิต ..ยิ่งยุคนี้ ..มีแต่คำว่า ค่าใช้จ่าย .มันจึงต้องหมกเสาะแสวงหา ปัจจัยมาชำระ ..อะไรต่างๆ ..เหมือนกับเรามีหนี้ที่ต้องใช้แรงกายไปหามาใช้เค้า…บ้างเหลือเก็บ บ้างไม่มีเหลือ..บ้างต้องกระจัดกระจายแบ่งปัน ..ให้คนนั้นคนนี้อีก
..ที่เค้าว่า พาราณะขันโธ คือ มีกายก็มีภาระ ภาระของการดูแลกายคนเดียวไม่พอ ..ต้องหาภาระอีก ไปหารูปขันธ์ห้าของผู้อื่น..คนนั้นคนนี้มาเป็นภาระ .จิตมันก็เลยหนัก ..มีภาระที่อารมณ์เค้าปรุงแต่งให้มากมาย ..มันก็เลยสะสมความเครียดไม่รู้ตัว.. มันน่าเห็นอกเห็นใจออก…เมื่อเค้่าขออยู่เงียบ คนเดียว..เราก็ควรให้เค้ามีโอกาส พักกาย พักจิต..เพื่อ..ปลดปล่อยเรื่องราวในใจ ..ที่สะสมมาให้จิตได้พัก รักกันก็ช่วยยกน้ำยกท่าไปให้ ช่วงที่เค้าขอพักก็ยังดี ..ดีที่เกื้อกูล เห็นอกเห็นใจกันเป็น..
โฆษณา