11 ธ.ค. 2022 เวลา 15:50 • การศึกษา
เรื่องราวของสมาธิ..เรื่องราวขององค์พระสิทธัตถะ ที่ท่านหนีจาก เวียงวังไปนั่ง อยู่กลางป่า ท่านมีความเบื่อหน่าย ทรัพย์สมบัติ เงินทอง สละมาตั้งแต่ครั้งยังเป็น พระเวสสันดร ท่านสละแล้ว ..กลับมาอยู่เวียงวังอีก เหมือนยังยึดอยู่ มาในชาติพระสิทธัตถะ คราวนี้ ..ท่านก็สละอีก เพื่อยุติการเกิด..ท่านทรงหนีจากเวียงวัง ไปดูไปเห็นฤาษี นั่งนิ่งกายนิ่งง.เหมือนกัน. มีฤทธิ์มีเดช..ฤาษีทำกายนิ่ง เพื่อให้ได้ฤทธิ์ ก็ไปติดในฤทธิ์ที่ได้
ท่านก็ใคร่ครวญพิจารณา ทำตามฤาษี ..ท่านก็ เพียรรักษา ให้กายนิ่ง จิตนิ่ง ..ทำอยู่ในรอยทั้งสี่ ที่ปกติคนเรา สร้างกรรมก็ด้วยกิริยา ยืน เดิน นั่ง นอน..สร้างกรรมด้วยอารมณ์ ที่เกิดขึ้น ..ท่านก็กระทำ ..นำกิริยาที่เดินสร้างกรรม มาเป็นกิริยา ..ยืน เดิน นั่ง นอน จิตเป็นมัชฌิมา จิตเฉย .เป็นกิริยาของผู้ที่เดินหนีกรรม..ไม่ให้อารมณ์เกิดขึ้น อารมณ์อะไรเกิดขึ้น ท่านก็ปัดออกไป สะสางไป เรื่อยๆ
เมื่อจิตท่านนิ่ง กายนิ่ง..ท่านก็สังเกตเห็นว่ามีแสงเกิดขึ้น ท่านก็กระทำขึ้น จนกายท่านไม่ไหวติง เป็นเหมือนศิลา ..ตรงนั่น ..ก็เกิด เป็นเรื่องราวของภาพ แสง สี เสียง เหตุผล เกิดขึ้น … นั่นเป็นเรื่องราว ของสมาธิ..ทำให้กายนิ่งจิตนิ่ง ได้..แล้วท่านก็สำรวจตรวจสอบ สิ่งต่างๆเกิดขึ้นในกาย..
..สิ่งที่ทำให้กายนิ่งไม่ได้ มีอะไร..ท่านก็กระทำเข้าไปถึงคำว่าธาตุทั้งสี่ ธาตุพ่อแม่..ไปจนธาตุ ที่เป็นมหาธาตุ ท่านก็ทำสะสางขัดจิตขัดกาย เป็นกายแก้ว วิญญาณทั้งหกเป็นแก้ว จิตเป็นแก้วไปทั้งหมด … นั่นก็ทำให้จิตไม่มีอารมณ์กรรมอะไรเกิดขึ้นอีก เมื่อไม่มีอารมณ์เกิดขึ้น ก็ไม่ต้องกลับมาเกิด..ใช้อารมณ์อีก เพราะไม่มีอารมณ์นำพาให้มาเกิด ก็ยุติการเกิดได้
ในคำว่า ญาน ที่ทำให้หยุดเกิด..เท่าที่เข้าใจ คือ ปัญญาในธรรม ที่สะสางกรรม สะสางอารมณ์กรรมนั่นทิ้งไป คราวนี้ สะสามสลัด อารมณ์กรรมได้มากขึ้น สติเข้มแข็งขึ้น นั่งสมาธิปุ๊บกายนิ่งเลย จิตก็นิ่งตามกาย นิ่งเสียจน กายนั่นไม่มี. คือจิตไม่ยึดกาย .สิ่งห้อมล้อมจิตอยู่ ทำให้จิตยึดกาย เมื่อทำจิตให้ไม่มีกาย .จิตก็ออกจากายได้ ไปศึกษาเรื่องราวต่างๆนามธรรมต่างๆที่แท้จริง นั่นทำทำด้วยกายนิ่ง จิตนิ่ง จนเหมือนไม่มีกาย
มีผู้ใหญ่ ชี้ให้ฟังว่า กายนิ่งจิตนิ่ง ไม่มีอะไรภายในจิต นั่นแหละ ตัวปัญญา ที่จะหลุดพ้นได้ ท่านบอกให้ทำให้ได้ แล้วจะเกิดปัญญา ต้องไปฝึกหัดกันเอง อย่าไปอยากทะเยอทะยาน ไปคว้าเอาเวทมนต์ คาถาอาคมมาท่องเลย เพราะนั่นมันเรื่องเรียกร้องเวรกรรม เรื่องราวของตัวยึด ยึดอิทธิฤทธิ์จมอยู่กับกรรม กดจิตให้จมลงโดยไม่รู้ตัว
ภาวนา แค่สองคำ พุทโธ พุท..รู้ โธ..สงบ กำกับดูแล ลมเข้าลมออก ทุกลมหายใจ ..ขณะ ประพฤติ หลงลืม พุทโธ..จิตก็ไม่สงบ ..มีอารมณ์เกิดขึ้น ความคิดนั่นคืออารมณ์ คือกรรม เมือ่เราปฏิบัติอยู่ เราก็รักษาจิตอยู่กับคำาว่า พุทโธ รักษาจิตไปเรื่อยๆ จนกว่าครบเวลาที่กำหนด ครบเวลาก็กราบพระ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (อัครสาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)
บางคนก็มุ่งมั่นที่จะทำสมาธิ..คิดดี ..จนลืม..เรื่องราวที่เค้าว่า ทาน บุญ ที่ช่วยหนุนนำให้จิต เบาบางจากอารมณ์ความยึดถือ อารมณ์โลภโกรธหลง ..มันก็เลยติดขัด ..เป็นอุปสรรคขัดขวาง ในการประพฤติปฏิบัติ ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องของกายสะสม ทาน บุญ บารมี เป็นการสะสม สะสมมาหลายชาติ เป็นอเนกชาติ กว่าจะรู้กรรม กว่าจะรู้จักธรรม ที่แท้จริง
หมายเหตุ .เรื่องที่เล่าให้ฟัง พระที่นับถือ..ท่านเล่าให้ฟัง หากผิดพลาด ก็เพราะเราจำมาไม่ดี ฟังมาไม่ดี ..แล้วอีกอย่างหนึ่ง ..ก็ยังทำให้ถึงกายนิ่งจิตนิ่ง..ยังทำไม่ได้ นั่นเอง..
โฆษณา