🚗 เทียบค่าใช้จ่ายรถน้ำมัน vs รถ EV บน 4 เส้นทางยอดฮิต หัวหิน, สัตหีบ เขื่อนศรีนครินทร์, เขาใหญ่ ถ้าใช้รถ EV จะประหยัดกี่บาท?
ใกล้วันหยุดยาวแบบนี้ หลายคนคงเตรียมออกทริปเที่ยวไทย ขับรถกับคนรัก - ครอบครัว ทัวร์ตามจังหวัดต่างๆ ของไทยแล้วแน่ๆ แต่ออกไปเที่ยวทั้งที ถ้ามีเงินเหลือจากค่าเดินทางมาใช้จ่ายอย่างอื่นได้ก็คงจะดีไม่น้อย หนึ่งวิธีที่ทั้งประหยัด และดีต่อโลกด้วยก็คือการใช้รถ EV ซึ่งจะทำให้เราประหยัดค่าเดินทางต่อทริปได้เกือบๆ 1 พันบาทเลยทีเดียว!
Spotlight รวบรวมค่าใช้จ่ายการเดินทางไปยัง 4 จุดหมายสุดฮิต ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้แก่ ‘หัวหิน สัตหีบ เขื่อนศรีนครินทร์ เขาใหญ่’ โดยอาศัยข้อมูลจากโครงการ ‘EV Go ทริปปิดดีล’ ของกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้จัดทริปขับรถ EV จากกฟผ. บางกรวย ไปยัง 4 จุดหมาย แต่ละที่จะประหยัดได้เท่าไร มาดูพร้อมกัน
🚗 เส้นทางที่ 1 : ปลายทางหัวหิน (ระยะทาง 230 กม.)
เดินทางด้วยรถยนต์น้ำมัน : 524 บาท
เดินทางด้วยรถยนต์ EV : 145 บาท
ประหยัดไปได้ 379 บาท
ตลอดเส้นทางมีสถานีชาร์จ EleX by EGAT 4 สถานี ( ปั๊ม PT บรมราชชนนี 2 / ปั๊ม PT เขาย้อย 1 / ปั้ม PT ชะอำ / Market Village Huahin)
🚗 เส้นทางที่ 2 : ปลายทางสัตหีบ (ระยะทาง 275 กม.)
เดินทางด้วยรถยนต์น้ำมัน : 627 บาท
เดินทางด้วยรถยนต์ EV : 154 บาท
ประหยัดไปได้ 471 บาท
ตลอดเส้นทางมีสถานีชาร์จ EleX by EGAT 2 สถานี (ปั๊ม PT บางพระ / โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา)
🚗 เส้นทางที่ 3 : ปลายทางเขื่อนศรีนครินทร์ (ระยะทาง 230 กม.)
เดินทางด้วยรถยนต์น้ำมัน : 524 บาท
เดินทางด้วยรถยนต์ EV : 145 บาท
ประหยัดไปได้ 379 บาท
ตลอดเส้นทางมีสถานีชาร์จ EleX by EGAT 3 สถานี (ปั๊ม PT บรมราชชนนี 2 / ปั๊ม PT บ้านใต้ / เขื่อนศรีนครินทร์)
🚗 เส้นทางที่ 4 : ปลายทางเขาใหญ่ (ระยะทาง 250 กม.)
เดินทางด้วยรถยนต์น้ำมัน : 570 บาท
เดินทางด้วยรถยนต์ EV : 140 บาท
ประหยัดไปได้ 430 บาท
ตลอดเส้นทางมีสถานีชาร์จ EleX by EGAT 3 สถานี (ปั๊ม PT วังน้อย 5 / ปั๊ม PT ปากช่อง 3 / Midwinter เขาใหญ่)
หมายเหตุ : คำนวณจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ 15 กม./ลิตร สำหรับรถยนต์น้ำมัน ณ ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 วันที่ 10 ธ.ค. 65 ลิตรละ 34.15 บาท
คำนวณจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ 7.93 กม./หน่วย สำหรับรถยนต์ EV ณ ค่าไฟเฉลี่ย 5 บาท/หน่วย
🚗 เคล็ด(ไม่)ลับ คนขับรถ EV
นอกจากการประหยัดจากการเปลี่ยนการใช้รถน้ำมันเป็นรถ EV แทนแล้ว ยังมีวิธีต่างๆ ที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของผู้ขับรถ EV ได้อีกด้วย
- การชาร์จรถที่บ้าน (ค่าไฟเฉลี่ย 5 บาท/หน่วย) จะช่วยให้ประหยัดมากกว่าการชาร์จที่สถานีชาร์จ (สถานีบริการ DC Quick Charge 7.5 บาท/หน่วย) ได้ถึง 33%
-การชาร์จไฟในช่วงที่ช่วงที่มีการใช้ไฟน้อย (Off-peak : หลัง 4 ทุ่ม - ก่อน 9 โมงเช้าวันธรรมดา + วันเสาร์-อาทิตย์) จะช่วยประหยัดมากกว่าการชาร์จไฟในช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟเยอะ (Peak : 9 โมงเช้า - 4 ทุ่มวันธรรมดา) ได้ถึง 50%
-ระยะทางที่รถ EV ประเภท City Car และ SUV สามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง อยู่ที่ราว 300 - 500 กม. จึงไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาแบตหมดกลางทาง ระหว่างขับข้ามจังหวัดไปยังจังหวัดใกล้เคียง
นอกจากนี้ ในพื้นที่ใกล้ๆ กรุงเทพมหานคร ยังมีผู้ให้บริการสถานีชาร์จ EV ครอบคลุมระยะทางที่รถวิ่งได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี ผู้ขับควรคำนวณระยะทางทุกครั้งที่วิ่งทางไกล และหาสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้อุ่นใจระหว่างเดินทาง
🚗กฟผ. เร่งปั้นสถานีชาร์จให้ครอบคลุม ชวนประชาชนสัมผัสรถ EV
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันนี้ ประชาชนคนไทยจำนวนมาก ยังคงกังวลเกี่ยวกับการใช้รถ EV ทั้งเรื่องความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนที่ยังไม่มากพอ ความกังวลเรื่องจำนวนสถานีชาร์จ หรือกังวลว่ารถจะสามารถลุยน้ำท่วมได้ไหม
ดังที่บริษัทด้านการวิจัยระดับโลก Arthur D. Little เคยกล่าวในบทวิจัยด้านความพร้อมของไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ EV ว่าความพร้อมด้านความตระหนักรู้และความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องรถ EV ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหญ่ที่ภาครัฐและภาคเอกชนควรต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้ทุกคนพร้อมก้าวสู่เป้าหมาย ‘30@30’ ตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle : ZEV) ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2030 ไปด้วยกัน
ด้านกฟผ. เอง ก็เร่งเดินหน้าเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนคนไทย ทั้งในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ไฟ การผลิตพลังงานด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และล่าสุด ได้ชวนคนไทยมาลองขับรถ EV ด้วยตนเองในโครงการ “EV Go ทริปปิดดีล” ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,500 คน
ในทริปนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ออกเดินทางไปยัง 4 จุดหมายได้แก่ หัวหิน สัตหีบ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขาใหญ่ ร่วมกับ EV Instructor ชื่อดัง ได้แก่ สุรมิส เจริญงาม, อรรครินทร์ ห้องดอกไม้, กฤษดา ธีรศุภลักษณ์ หรือ เวลดันการันตี, เอกณัฏฐ์ กฤษศิริธนานันท์, ภาคภูมิ วรรณแสง
พร้อมเรียนรู้วิธีชาร์จรถ EV ที่สถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ควบคู่กับการใช้แอพพลิเคชั่น “EleXA” เสริมความมั่นใจก่อนเปลี่ยนมาใช้รถ EV โดยทีมงาน EGAT EV Business Solution ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดทั้ง 4 เส้นทาง โดยจากกิจกรรมนี้พบว่า ผู้เข้าร่วม 89% พร้อมเปลี่ยนมาใช้รถ EV ในขณะที่อีก 10% ยังไม่ตัดสินใจเปลี่ยนในขณะนี้
ศ. ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้ริเริ่มแคมเปญทราบแล้วเปลี่ยน กล่าวว่า “เราอยากให้ประชาชนมั่นใจในสิ่งที่เราและ กฟผ.กำลังตั้งใจพัฒนาและขยายโครงสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วประเทศให้ได้ตามแผน เพราะสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ผุดขึ้น 1 แห่ง นั้นเท่ากับสร้างความมั่นใจในรถอีวีให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นได้อีกมาก”
ปัจจุบัน มีสถานีชาร์จไฟฟ้าของ กฟผ. และพันธมิตรบนเครือข่าย EleXA เปิดให้บริการแล้ว 80 แห่งทั่วประเทศ และกำลังเพิ่มจำนวนสถานีให้มีมากกว่า 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับเทรนด์อีวีที่คาดว่าจะคึกคักมากขึ้นอีกในปีหน้า
ติดตามข้อมูล ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจการเงิน ของ #Spotlight เพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.amarintv.com/spotlight
ยูทูป : https://bit.ly/31rtDUM
อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/spotlight_biz
TikTok : https://www.tiktok.com/@spotlightbiz
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
