13 ธ.ค. 2022 เวลา 05:47 • นิยาย เรื่องสั้น
รถไฟสายใต้ออกจากสถานีที่แออัดไปด้วยผู้คนที่ต้องการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่
รถไฟที่เดินทางในช่วงนี้จึงต้องขายตั๋วยืนเพิ่ม เมื่อตั๋วที่นั่งปกติเต็ม ก็ยอมที่จะยืนไปแม้อาจต้องใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมงก็ตาม
ปู่เข้มก็คือคนนึงที่จำเป็นต้องกลับเวลานี้จึงซื้อตั๋วแบบยืน
ปู่เข้มอายุ 78 ถือว่าเป็นคนที่แข็งแรงคนนึง ยังสามารถเดินทางไปไหนๆได้คนเดียว แต่จะให้ยืนตลอดก็น่าจะลำบากอยู่
ขณะที่ปู่เข้มเดินเข้ามากลางโบกี้ หนุ่มสาวหลายคนที่นั่งอยู่เหลือบตามองคุณปู่ รู้สึกขัดเขินเล็กน้อย บางคนก็หันมองออกไปด้านนอกรถ บางคนก็หยิบโทรศัพท์มากด บางคนก็หลับตาแบบง่วงนอนขึ้นมาทันทีทันใด
ขณะที่ปู่เข้มเดินผ่าน น้อย หญิงสาวหน้าตาสวย อายุราว 25
ก่อนที่คุณปู่จะเดินผ่านไป น้อยตัดสินใจดึงมือคุณปู่ไว้ พร้อมพูดว่า
"ปู่คะ ปู่นั่งที่นั่งหนูได้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูยืนเอง" พร้อมลุกขึ้นยืน
ปู่เข้ม " ไม่เป็นไรหนู ปู่ยืนได้ ปู่ซื้อตั๋วยืนมา หนูนั่งเถอะนะ "
น้อย " ไม่เป็นไรค่ะ หนูเป็นเด็กหนูยืนได้นานกว่าปู่แน่นอนค่ะ แล้วจริงๆแล้วหนูก็ซื้อตั๋วยืนมาเหมือนกัน"
ปู่เข้ม " อ่อ อย่างนั้นหรอ เอ้าๆ เดี๋ยวปู่นั่งก่อนนะ แล้วซักพักนึง หนูมานั่งบ้างนะ"
ปู่เข้ม " หนูลงไหน อีกไกลมั้ย "
น้อย " ลงปลายทางเลยค่ะ "
ปู่เข้มถอนหายใจเล็กน้อย มองหน้าสาวน้อยผู้มีจิตใจงาม ยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นดูออกชัดเจนถึงความซาบซึ้งใจอย่างมาก ก่อนจะพูดออกไปว่า
" ดีนะที่คนที่ซื้อที่นั่งตรงนี้ไม่ได้มา ยังไงเดี๋ยวเราผลัดกันนั่งนะ"
น้อย " ไม่เป็นไรนะคะ ปู่พักผ่อนก่อน ไม่ต้องกังวล ถ้าหนูไม่ไหวหนูบอกปู่เองค่ะ"
รถไฟวิ่งฝ่าความมืดมาร่วม 2 ชั่วโมง ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็หลับกันรวมทั้งปู่เข้มด้วย มีคนยืนทั้งหมด 7 คน หนึ่งในนั้นคือ น้อย ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียว
1
" ตรวจตั๋วหน่อยครับ " เสียงพนักงานตรวจตั๋วเดินตรวจตั๋วจากท้ายรถไฟ
ผู้โดยสารที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมา ต่างหยิบตั๋วของตัวเองขึ้นมาให้ตรวจ จนมาถึงที่นั่งของคุณปู่ และตรงที่น้อยยืนอยู่
คุณปู่เข้ม ยื่นตั๋วให้พนักงานๆหยิบตั๋วขึ้นมาดู ตั๋วเขียนว่า "ตั๋วยืน"
พนักงานยิงที่เจาะรูบนตั๋วนั้นแล้วยื่นคืนให้ปู่ แล้วหันมาหยิบตั๋วของน้อยที่น้อยส่งมาให้
ตั๋วนั้น มีตัวหนังสือระบุว่า "ที่นั่ง C27 "
พนักงานทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย พร้อมหันไปดูที่พนักพิงที่นั่งที่ปู่เข้มนั่งระบุว่าคือ "C27"
สาวน้อยรีบ ส่ายหน้าให้กับ พนักงาน พร้อมจุ๊ปากให้รู้ว่า อย่าพูดอะไร ไม่ต้องบอกปู่
พนักงานอึ้งไปพักนึง แล้ว หันมากระซิบข้างหูน้อยว่า " คุณเป็นคนดีจริงๆ "
"ผมมีที่ๆนึง ในโบกี้ท้าย พอจะนั่งได้ ผมอยากให้คุณไปนั่ง ตามผมมานะครับ" พร้อมผายมือเชิญชวน
น้อยยื้มให้เค้า พร้อมพยักหน้าตอบตกลงว่าจะไป
วินาทีนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า กับสายตาหลายคู่ที่มองมายังหญิงสาว
ทำให้ทุกคนอึ้ง ตกใจ และนึกไม่ถึง ก็คือ....
น้อย เอื้อมแขนไปยังที่เก็บสัมภาระด้านบน เอามือดึงกระเป๋าหลบออกไป
และ ... หยิบ ไม้ค้ำยันคนพิการ 2 อัน
หนีบใต้รักแร้ เดินตามพนักงานตรวจตั๋ว ...
ผู้โดยสารที่นั่งอยู่เกือบทั้งโบกี้..
ย้อนนึกไปถึงวินาทีแรกที่คุณปู่เดินผ่านพวกเค้า และปล่อยให้เดินผ่านไปโดยไม่ตัดสินใจทำอะไร
แต่คนที่ช่วยเหลือคุณปู่กลับกลายเป็น คนพิการ ที่มีจิตใจงดงามอย่าง น้อย 🙂
เรื่องนี้เมื่อได้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ ผมคิดว่า ในบางครั้งการทำความดีต้องการการตัดสินใจ ต้องทำทันที รอไม่ได้ เหตุการณ์ในเรื่องอาจจะเป็นเพียงการสมมุติ
แต่ลองย้อนกลับมาในชีวิตจริงคิดว่าเราก็อาจจะเคยเป็นแบบนี้นะครับ เคยนั่งอยู่บนรถเมล์ มีคนชรา เด็ก ขึ้นมา เราก็ไม่ได้ช่วยเหลือทุกครั้ง อาจจะมาจากกลัวจะเป็นจุดเด่นหรือเขอะเขินที่จะทำความดี
หรือเหตุการณ์อื่นๆเช่น ช่วยเข็นรถที่ขวางทางออก, การพาคนข้ามถนน, ช่วยคนเก็บสิ่งของที่หล่น, ให้เงินเล็กน้อยกับเด็กหมวกเล่นดนตรีตามท้องถนน ล้วนมีให้พบเจอเสมอๆ
มันก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็จริงครับ ถ้าเราได้ทำ แต่ผลที่ได้มันกลับเป็นความสุขในใจที่อาจจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงานทั้งวันก็เป็นได้ 🙂
ย้อนกลับไปยังเรื่องราวของน้อยกับปู่เข้ม ถ้าผมเปลี่ยนเรื่องราวเป็นว่า ทุกคนในโบกี้นั้น อาสาผลัดกันยืน ให้ที่นั่งกับปู่เข้มได้นั่งตลอดเส้นทาง 8 ชั่วโมง ก็คงเป็นอีกแบบ แต่ก็น่าประทับใจเช่นเดียวกัน ความสุขจะเข้าไปอยู่ในใจของปู่เข้มและทุกๆคน แน่นอน😊
ขอขอบคุณเรื่องราวนี้ที่ผมได้ดัดแปลงเขียนขึ้นเพิ่มเติมจากคลิปวิดีโอช่อง Viralfox
กร
สถานีต่อไปความสุข
13/12/65

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา