28 ธ.ค. 2022 เวลา 00:00 • ไลฟ์สไตล์
สามสิบกว่าปีมาแล้ว ผมเดินทางกลับจากต่างประเทศ ผ่านด่านสนามบินนานาชาติของสยามประเทศ พบว่ากระเป๋าเดินทางของผมถูกง้างออก ของมีค่าภายในกระเป๋าหายไปอย่างลึกลับ
3
ในเมื่อจับมือใครดมไม่ได้ ก็ทำอยู่สองอย่าง 1 ทำตาปริบ ๆ 2 ทำใจ
ในชีวิตผมเคยโดนโกงหลายครั้ง รวม ๆ กันก็เป็นล้าน
มีสองครั้งที่คนโกงบอกว่า อยากได้เงินคืนก็ไปพึ่งกระบวนการทางกฎหมายเอาเอง
3
คำนวณเวลาและค่าปรึกษาทนายแล้ว ก็ทำอยู่สองอย่าง 1 ทำตาปริบ ๆ 2 ทำใจ
เจ็บปวดมากเมื่อคิดว่าเงินที่หามายากเย็นถูกปล้นไปต่อหน้าต่อตา
2
สองปีก่อนเพื่อนคนหนึ่งเจอประสบการณ์คล้ายกัน กระเป๋าเดินทางหายไปทั้งใบขณะผ่านด่านเข้าเมืองแห่งหนึ่งในแดนสยามเมืองยิ้ม
1
แต่เขายิ้มไม่ออกเพราะเมื่อไปแจ้งความ กลับพบท่าทีของผู้รักษากฎหมายที่บอกว่ามันเป็นเรื่องเล็ก “ก็แค่กระเป๋าใบเดียวหาย” ยิ่งทำให้ช้ำใจ เหมือนถูกข่มขืนแล้วบอกว่า แต่งตัวยั่วโจรเอง
3
จะว่าไปแล้ว คนถูกกระทำก็เหลือทางเดียวเท่านั้นคือพึ่งธรรมะ ทำใจ
ตอนมากรุงเทพฯใหม่ ๆ ผมได้ยินประโยคนี้เป็นครั้งแรกเมื่อของใครคนหนึ่งหาย “ถือว่าฟาดเคราะห์” และ “ปลงเสียเถิด แม่จำเนียร”
แปลว่า ของหายน่ะดีแล้ว เป็นการลดเคราะห์ใหม่ให้เบาบางลง
คนไทยมักมีวิธีมองโลกในแง่ดี มองเรื่องร้ายเป็นดี เช่น ของหายก็ว่าฟาดเคราะห์ ไฟไหม้บ้านก็ว่าดีแล้ว ก็ทำใจโดยโยนให้กรรมเก่าบ้าง ชดใช้กรรมเก่าคงช่วยลดกรรมใหม่บ้าง จะได้หมดกรรมเสียในชาตินี้ มันเป็นอุบายอย่างหนึ่งที่มีเหตุผลทางจิตวิทยา
1
เอาละ ความจริงยังมีวิธีมองเรื่องนี้อีกมุมหนึ่ง คือมุมมองของนักบัญชี
2
สมมุติว่าทุกอย่างในโลกคิดเป็นเงินได้ เราตีค่าความสุขของเราเท่าไร? หากเงินซื้อได้ทุกอย่างในโลก เราจะยอมจ่ายเงินเพื่อไม่ให้อารมณ์เราเสียไหม?
1
สมมุติว่าค่ากระเป๋ากับข้าวของภายในคิดเป็นเงิน 5,000 บาท ค่าความทุกข์จากกระเป๋าหาย กลุ้มใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ความเครียดพัวพัน ความดันพุ่ง ค่าหมอ คิดเป็นค่าเงิน 20,000 บาท
ความเสียหายจึง = 5,000 + 20,000 = 25,000 บาท
1
ถ้าต้องหงุดหงิดทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ไปอีกหลายปี ค่าใช้จ่ายก็มากกว่า 25,000 บาท
สมมุติว่าทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์นี้แล้วหัวใจเต้นแรง ความดันพุ่งขึ้น เซลล์สมองตายไปจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้อายุสั้นลง ก็แปลว่ามีเวลาหาเงินน้อยลง สมมุติว่าเราสามารถตีเป็นค่าเงินได้ 10,000 บาท ทุกครั้งที่เราเครียดเพราะเรื่องกระเป๋าหาย ก็เสียเงิน 10,000 บาท กลุ้มใจสิบครั้ง ก็เป็น 100,000 บาท
3
แต่หากปล่อยวางเรื่องนี้แต่วันแรก ก็เสียแค่ 5,000 บาท
คิดตามหลักบัญชีง่าย ๆ ได้ว่า ปล่อยวางแต่แรก จ่ายน้อยกว่า
3
ถ้าปล่อยวางได้ สิ่งที่เสียไปคือทรัพย์สินอย่างเดียว
1
ถ้าไม่ปล่อยวาง สิ่งที่เสียไปคือทรัพย์สิน + ความทุกข์ทุกครั้งที่คิดถึงมันไปตลอดชีวิต
4
คิดแบบกำไร-ขาดทุน ปล่อยวางคุ้มกว่า
7
มันคือ damage control นั่นเอง เป้าหมายคือเสียน้อยที่สุด
3
นี่อาจเป็นอุบายหนึ่งในการลดทุกข์ที่เกิดจากวัตถุ
บางทีคนโบราณอาจพูดไม่ผิดเมื่อบอกว่า เมื่อเกิดเรื่องเสียทรัพย์ ให้คิดว่า “ฟาดเคราะห์”
ฟาดเคราะห์ด้วยความเข้าใจ ฟาดความซวยด้วยการปล่อยวาง
1
ฟาดเคราะห์ไปแล้ว ก็เดินหน้าชีวิตต่อ ไม่คิดถึงความทุกข์ของเรื่องนั้นอีก
1
ถ้าทำได้อย่างนี้ บางทีค่าฟาดเคราะห์อาจจะคุ้ม
ไม่งั้นก็ต้องทำตาปริบ ๆ ไปตลอดชีวิต
จากหนังสือ 'มากกว่าสามสิบสอง' โปรโมชั่นพิเศษยังมีจนถึงสิ้นปีนี้ สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113)
โฆษณา