18 ธ.ค. 2022 เวลา 03:00 • สุขภาพ
การทดสอบการแพ้ยาเพนิซิลลิน (penicillin)
ตามการรายงานของ Centers for Disease Control and Prevention พบว่าประชากรของสหรัฐอเมริกาจำนวน 10% ที่มีประวัติแพ้ยาเพนิซิลลิน แต่มีน้อยกว่า 1% ที่มีการทดสอบหรือประเมินการแพ้ยาก่อนการใช้
ยาเพนิซิลลินมีหลายตัวนะครับ แต่ตัวที่หลายๆคนน่าจะรู้จักก็เช่น ampicillin, amoxicillin, dicloxacillin เป็นต้น ที่มีการใช้บ่อยและหาซื้อได้ตามร้านยาทั่วไป ส่วนใหญ่เราใช้ยากลุ่มนี้รักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย
อาการแพ้ยาที่เกิดจากยาในกลุ่มเพนิซิลลินที่พบบ่อย เช่น ผิวหนังแดง คัน มีผื่น หรือบวมแดง เป็นต้น แต่ก็จะมีบางอาการเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อาการเหล่านี้บางทีอาจจะเกิดจากการแพ้ยาได้เช่นกันแต่เป็นกลุ่มอาหารที่มักถูกมองข้าม
สำหรับวิธีการทดสอบการแพ้ยาเพนิซิลลินนั้นเราสามารถใช้วิธีทดสอบทางผิวหนังหรือที่เรียกว่า skin test เช่น วิธีสะกิด (Skin Prick Test) เป็นการทดสอบโดยหยดน้ำยาลงบนผิวหนังที่แขนและใช้เข็มสะกิดลงบนปลายหยดน้ำยา ภายใน 15 นาทีหากมีอาการแพ้เกิดขึ้นเราก็จะสังเกตเห็นรอยผื่นนูนแดงเกิดขึ้น
การทำ skin test
แต่ในทางปฏิบัติในบ้านเรายังไม่สามารถทำในคนไข้ทุกรายก่อนที่จะเริ่มให้ยาเพนิซิลลินได้ การทำ skin test แพทย์จะทำในกรณีที่สงสัยแพ้ยา อยากทดสอบเพื่อความมั่นใจ หรือคนไข้แจ้งประวัติว่าเคยแพ้ยาแต่นานมาแล้ว การทำ skin test ก็อาจจะช่วยยืนยันสิ่งที่คนไข้บอกว่าแพ้จริงหรือไม่
สำหรับประโยชน์ของการทดสอบการแพ้ยาเพนิซิลลิน (penicillin) นั้นสามารถช่วยให้ผู้ป่วยไม่เกิดการแพ้ยาซ้ำได้กรณีที่ผู้ป่วยเคยมีประวัติแพ้ยาดังกล่าว แต่ไม่ได้มีการแจ้งให้แพทย์ทราบ
ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นความสำคัญของการทดสอบการแพ้ยาก่อนการให้ยามากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยามากขึ้นครับ
โฆษณา