18 ธ.ค. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
Hans Wilsdorf ผู้สร้างนาฬิกา Rolex ให้โด่งดังและเที่ยงตรงที่สุดในโลก
2
เรียบหรูและเป็นตำนานเป็นคำนิยามที่หลายคนยกให้กับแบรนด์นาฬิกา “Rolex”
📌 เด็กกำพร้าผู้ได้ไปทำงานที่หุบเขาแห่งนาฬิกา (Watch Valley)
2
Hans Wilsdorf เกิดที่ประเทศเยอรมนี ในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือเหล็ก มีพี่น้องรวมตัวเขาด้วย 3 คน
แต่ในขณะที่เขายังเด็กก็ต้องสูญเสียคุณแม่ไป และในตอนที่เขาอายุได้แค่ 12 ปีเท่านั้น คุณพ่อของเขาก็มาเสียไปอีก
เคราะห์ดี ที่พวกเขาทั้ง 3 ยังมีคุณลุงรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลต่อมา พร้อมทั้งส่งเสียให้สามพี่น้องได้เข้าศึกษาในโรงเรียนประจำ
1
ซึ่ง Wilsdorf ออกมากล่าวที่หลังว่า ชีวิตในวัยเด็กที่ถูกสอนให้ต้องพึ่งพาตนเอง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงต่อมา
2
หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนประจำ Wilsdorf ต้องการไปหาประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศ และก็ได้โอกาสมาทำงานอยู่ที่เมือง La Chaux-de-Fonds ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
1
เมืองแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “หุบเขาแห่งนาฬิกา (Watch Valley)” เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตนาฬิกาสำคัญของโลก และที่นี่เองก็เป็นก้าวแรกสู่อุตสาหกรรมนาฬิกาของ Wilsdorf
หลังจากทำงานที่สวิตเซอร์แลนด์อยู่ 5 ปี Wilsdorf ตัดสินใจครั้งสำคัญเดินทางมาที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตั้งต้นธุรกิจนำเข้านาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์มาขาย
1
แต่ความฝันของเขาไม่จบแค่นั้น แต่แท้จริงแล้วมันคือการผลิตนาฬิกาแบรนด์ของตนเองต่างหาก
2
เขาจึงร่วมมือกับ Alfred Davis ซึ่งเป็นช่างฝีมือชาวอังกฤษ พัฒนานาฬิกาของตนเองขึ้นมาในชื่อแบรนด์ว่า “Wilsdorf & Davis” ในปี 1905
1
📌 ที่มาของชื่อ Rolex และการก้าวขึ้นสู่แบรนด์ชั้นนำ
พอมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วชื่อ “Rolex” เกิดขึ้นมาในตอนไหน?
เรื่องนี้ Hans Wilsdorf เล่าว่า หลังจากดำเนินธุรกิจมาได้ 3 ปี ในขณะที่เขานั่งบนรถม้าที่แล่นไปในย่าน Cheapside ของเมืองลอนดอน และกำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งชื่อใหม่ของแบรนด์ให้ติดหูได้อย่างไร อยู่ดีๆ เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูคำว่า “Rolex” ขึ้นมา
1
เรามิอาจรู้ได้ว่า เรื่องนี้จริงแท้แค่ไหน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อ “Rolex” กลายมาเป็นที่จดจำ และติดหูเกือบทุกคนที่ได้ยิน
แม้จะมีชื่อที่ติดหู คู่หูที่เก่งกาจ และความตั้งใจอันแรงกล้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า ผู้ผลิตรายเล็กๆ อย่างพวกเขาจะก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จอีกขั้นได้
แต่แล้วในปี 1910 ความตั้งใจของ Hans Wilsdorf ก็เริ่มประสบผล เริ่มจากการที่ Rolex ได้รับใบประกาศรับรองคุณภาพความเที่ยงตรงจาก The Official Watch Rating Centre ซึ่งเป็นหน่วยงานจากสวิตเซอร์แลนด์
4
นอกจากนี้ ต่อมาไม่นาน Rolex ก็ยังได้รับใบรับรองประกาศความเที่ยงตรงของนาฬิการะดับ Class A จาก The Kew Observatory ซึ่งเป็นหน่วยงานจากลอนดอน
รางวัลนี้มีความพิเศษอย่างมากเพราะก่อนหน้าที่ Rolex จะได้รับรางวัลระดับ Class A มีเพียงแค่นาฬิกาจากกองทัพเรือเท่านั้นที่เคยได้รับรางวัลนี้
1
แต่ความพิเศษของ Rolex ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะมันคือ “นาฬิกาข้อมือ (wristwatch)”
📌 หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันพิเศษอย่างไร?
ต้องเล่าย้อนความกันสักเล็กน้อยว่า ในยุคก่อนหน้า Rolex นาฬิกาข้อมือเป็นได้เพียงเครื่องแต่งกายเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำหน้าที่บอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรง
ผู้คนในสมัยนั้นจึงยังนิยมใช้ “นาฬิกาพก (pocket watch)” ซึ่งมีความแม่นยำในการบอกเวลามากกว่า
1
แต่วิสัยทัศน์ของ Hans Wilsdorf นั้นมองไปไกลกว่านั้น เขามองเห็นว่า นาฬิกาข้อมือจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมนาฬิกา แต่จะขายแค่ความสวยงามอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีคุณภาพที่สูงด้วย
1
การรับประกันคุณภาพนี้ทำให้ Rolex เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาระดับนานาชาติ และจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทก็มาถึงอีกครั้งหนึ่งในปี 1919 หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง
1
ในตอนนั้นอังกฤษซึ่งบอบช้ำอย่างหนักจากสงคราม จำต้องขึ้นอัตราภาษีเพื่อหาเงินมาฟื้นฟูประเทศ
ทำให้เกิดการตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทจากเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาอยู่ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แทน อันเป็นการกลับสู่ดินแดนที่พา Wilsdorf เข้าสู่อุตสาหกรรมนาฬิกาในตอนแรก
1
และในปี 1926 ในวัย 45 ปี คุณ Hans Wilsdorf และ Rolex ก็ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น “the Oyster” นาฬิกากันน้ำรุ่นแรกของโลก
1
ซึ่งมันประสบความสำเร็จอย่างทล่มทลาย ผ่านแคมเปญที่ให้นักกีฬาว่ายน้ำสาวชาวอังกฤษ Mercedes Gleitze ใส่นาฬิการุ่นนี้ว่ายข้ามช่องแคบอังกฤษ (English Channel) และก็พิสูจน์ให้เห็นว่า นาฬิกายังสามารถทำงานได้ดีอยู่
2
และในปี 1931 Rolex ก็ยังไม่หยุดสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ เมื่อพวกเขาได้เปิดตัว “Rolex Oyster Perpetual” ซึ่งมาพร้อมกลไกลไขลานอัตโนมัติ (self-winding mechanism) เป็นเจ้าแรกของโลก
2
ซึ่งก็ถูกจดสิทธิบัตรในปีเดียวกัน ซึ่งนวัตกรรมนี้ต่อมาก็จะกลายเป็นรากฐานเทคโนโลยีที่ถูกนำไปใช้ในทุกแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาอีกด้วย
3
Hans Wilsdorf ยังดูแลพัฒนา Rolex ต่อไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1960 แต่วิสัยทัศน์ของเขาก็ยังคงอยู่กับ Rolex ต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ดังคำกล่าวที่ว่า
โรแลกซ์ควรถูกมองเห็นเพียงหนึ่งเดียว
และหนึ่งเดียวเท่านั้นในฐานะสิ่งที่ดีที่สุด
(Rolex should be seen as the one and only-the best.)
Hans Wilsdorf
6
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
เครดิตภาพ : เว็บไซต์ทางการของ Rolex และ Wikipedia
โฆษณา