[กรุงเทพธุรกิจ] ส่องโรงเรียนสอนทำอาหารในไทยบูมแค่ไหน? หลังจาก “เลอโนท” โรงเรียนสอนศิลปะการทำอาหารสัญชาติฝรั่งเศส เปิดบริการในไทย ซึ่งถือเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดมีโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกเ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

30 ธ.ค. 2022 เวลา 00:00 • อาหาร

ส่องโรงเรียนสอนทำอาหารในไทยบูมแค่ไหน? หลังจาก “เลอโนท” โรงเรียนสอนศิลปะการทำอาหารสัญชาติฝรั่งเศส เปิดบริการในไทย ซึ่งถือเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ล่าสุดมีโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกเปิดใหม่ที่ประเทศไทย คือ โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ชื่อเต็มคือ “Lenôtre Culinary Arts School Thailand” เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการทำอาหารสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2514 ในนครปารีส โดยเชฟชาวฝรั่งเศส “กัสตง เลอโนท”

ดำเนินการเปิดสอนหลักสูตรศิลปะการทำอาหาร สำหรับผู้ที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นเชฟมืออาชีพมายาวนานกว่า 50 ปี การเปิดบริการในไทยถือเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญากับเลอโนท ปารีส เป็นระยะเวลา 10 ปี

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงเรียนสอนทำอาหารหลากหลาย ทั้งหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว หลักสูตรประกาศนียบัตร และวุฒิปวช. จนถึงระดับปริญาตรี โดยโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหนีไม่พ้น

เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ในเครือ เลอ กอร์ดอง เบลอ ที่เป็นโรงเรียนต้นตำรับในการผลิตบุคลากรด้านอาหารชื่อดังของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1895 โดยมีหลักสูตรหลากหลาย ตอบรับความต้องการในปัจจุบัน เช่น

🥓อาหารคาว

🥞ขนมอบและขนมหวาน

🥖ทำขนมปัง

🏪การบริหารธุรกิจร้านอาหาร

🍷ไวน์และเครื่องดื่ม

🧈ความรู้เกี่ยวกับเนยแข็ง

ในขณะที่ฝั่งโรงเรียนสอนทำอาหารไทยก็มีไม่น้อยเช่นกัน เช่น โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต ที่เด่นเรื่องหลักสูตรระยะสั้น ราคาถูก ที่สามารถต่อยอดในอาชีพได้ทันที หรือโรงเรียนการอาหารไทย เอ็มเอส ซี และ โรงเรียนสอนทำอาหารครัววันดี

อายุของผู้เข้าเรียนในโรงเรียนทำอาหารแต่ละโรงเรียนเริ่มมีเกณฑ์ที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ จากที่อดีตจำกัดเพียงอายุ 18 ปีขึ้นไป และอายุไม่เกิน 50 ปี แต่ปัจจุบันมีการขยายเกณฑ์การเข้าสมัครเรียนได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ขึ้นไป สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากค่านิยมการมองของอาชีพเชฟและพ่อครัวที่ต่างไปจากอดีต รายได้ที่มากขึ้น ตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้น และการจุดประกายฝันของการเป็นเชฟทางอ้อมผ่านสื่อบันเทิง

อ่านต่อฉบับเต็มได้ที่