Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชายขี้เล่า Story
•
ติดตาม
22 ธ.ค. 2022 เวลา 03:00 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง – เด็กดื้อกับตัวตลก Creepypasta (Thai)
จัดทำโดย : ชายขี้เล่า Story 👻
สวัสดีผมมีเรื่องที่อยากเล่าทุกคนได้ฟัง มันเป็นเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอายุสิบขวบ ผมยังจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นผมกลับนึกอะไรไม่ออกเลย ใช่แล้ว...
ผมหมายถึงตัวเองเริ่มสูญเสียความทรงจำไปตั้งแต่จัดงานวันเกิดในคราวนั้น หลังจากวันนั้นผมจำอะไรไม่ได้อีกเลย จำไม่ได้ว่าผมเรียนจบจากที่ไหนหรือเคยผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง ตอนวัยรุ่นเป็นยังไง เคยมีแฟนรึเปล่า ผมนึกอะไรไม่ออกเหมือนกับว่าความทรงจำช่วงครึ่งหลังของชีวิตมันได้หายไปทั้งหมด ผมกลับมาเล่าเรื่องนี้อีกครั้งในตอนที่มีอายุครบสามสิบปี เรื่องมีอยู่ว่า...
ผมชื่อนัทเป็นลูกชายคนเดียวที่เกิดในตระกูลของนักธุรกิจที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆที่ทุกคนต้องรู้จัก ผมเกิดในครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ของเล่นราคาแพง ขนมแสนอร่อยที่สามารถกินได้ทุกมื้อ เรียกได้ว่าเป็นที่อิจฉาของเด็กในรุ่นเดียวกันเลยทีเดียว ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนเดียวทำให้ถูกพ่อแม่ตามใจจนเคยตัว ผมชอบพูดคำหยาบบางครั้งก็มีต่อยตีกับเด็กคนอื่น หลายครั้งที่ผมถูกตักเตือนจากคุณครูที่โรงเรียนแต่มักจะมีพ่อที่คอยมาแก้ปัญหาให้ทุกครั้ง
ปีนั้นผมมีอายุครบสิบขวบพอดี ทางครอบครัวเลยถือโอกาสนี้จัดงานวันเกิดให้อย่างยิ่งใหญ่สมฐานะ มีแขกรับเชิญมากมายแวะมาที่งานวันเกิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ดารา รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน งานถูกจัดขึ้นในบ้านหลังใหญ่อันหรูหรา แขกทุกคนที่มาในงานต่างรู้สึกชื่นชมครอบครัวของผมที่มีความร่ำรวยมากมายขนาดนี้
ผมแยกตัวออกไปเล่นกับกลุ่มเด็กๆซึ่งเป็นลูกของผู้ใหญ่ที่มาในงาน พวกเราพากันวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน สักพักหนึ่งได้มีรถบัสคันใหญ่มาจอดหน้าที่บ้าน มีคนใส่ชุดแฟนซีสีสันฉูดฉาดเดินลงมาจากรถบัสคันนั้น พวกเขาคือกลุ่มนักแสดงมายากลที่คุณพ่อของผมเป็นผู้จ้างมา
กลุ่มนักแสดงพากันเดินขึ้นไปบนเวทีกล่าวทักทายผู้คนที่อยู่ในงาน พวกเขาเริ่มแสดงโชว์มายากลหลายอย่าง ตั้งแต่นำลูกโป่งมาปั้นเป็นรูปสัตว์ มายากลเสกนกพิราบ โชว์หายตัวออกจากกรงขัง แขกทุกคนต่างพากันตบมือให้กับการแสดงนี้
แต่ผมกลับรู้สึกว่าโชว์พวกนั้นมันดูปัญญาอ่อนมาก มายากลที่เห็นก็แค่กลหลอกเด็กธรรมดาทั่วไปผมเคยดูโชว์ที่ยิ่งใหญ่และสมจริงมากกว่านี้ในต่างประเทศ กลุ่มนักแสดงพวกนี้เทียบกับมืออาชีพพวกนั้นไม่ได้เลย ผมไม่ค่อยสนใจการแสดงบนเวทีมากนักเลยไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆคนอื่นเหมือนเดิม
ระหว่างที่กำลังวิ่งเล่นสายตาของผมได้ไปพบเจอกับสิ่งที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว มันคือลูกบอลเรืองแสงสีแดงขนาดเล็กที่อยู่ในมือของนักแสดงที่สวมชุดตัวตลกคนหนึ่ง ตัวตลกโยนลูกบอลเรืองแสงเด้งไปมากับพื้น ผมรู้สึกสนใจลูกบอลนั้นจนไม่สามารถละสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เหมือนถูกดึงดูดด้วยอำนาจบางอย่างที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
ผมเดินเข้าไปหาตัวตลกเพื่อมองดูลูกบอลสีแดงใกล้ๆ ตัวตลกเมื่อเห็นว่ามีเด็กเดินมาเขาจึงหยุดโยนลูกบอลในมือก่อนที่จะหันมามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้ ลักษณะตัวตลกนี้มีจมูกแดงเขียนหน้าตาด้วยสีขาวสลับสีฟ้าบนหัวใส่วิกผมสีเขียว อันที่จริงออกจะดูน่าขนลุกมากกว่าดูตลกเสียอีก ตัวตลกหันมาจ้องมองผมด้วยความสนใจ
“อยากเล่นลูกบอลมั้ย” ตัวตลกเอ่ยถาม
“อยากเล่นสิ ขอผมเล่นหน่อย” ผมร้องขอลูกบอลจากตัวตลก
“จะให้เล่นก็ได้ แต่ต้องทำตามกฎ ตกลงไหม” ตัวตลกเสนอเงื่อนไขให้ฟัง
“มีกฎด้วยเหรอ แล้วผมต้องทำอะไรบ้างล่ะ” ผมถามเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวตลกบอก
ตัวตลกอธิบายว่าการจะเอาลูกบอลเรืองแสงไปเล่นมีกฎอยู่ 3 ข้อดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1. ห้ามขโมย,ห้ามทำหาย
ข้อที่ 2. ห้ามส่งให้ผู้อื่นเล่น
ข้อที่ 3. ห้ามทำร้ายตัวตลก
“โคตรไร้สาระเลย... เอาลูกบอลมานี่” ผมตะโกนใส่หน้าเขาพร้อมกระชากลูกบอลออกจากมือตัวตลกอย่างแรง
ตัวตลกนิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไร ส่วนผมนำลูกบอลเรืองแสงที่แย่งมาเอาไปโยนเล่นกับเพื่อนๆโดยไม่สนใจกฎที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ พวกเราพลัดกันโยนลูกบอลกันอย่างสนุกสนาน ลูกบอลนี้มีน้ำหนักเบาเรืองแสงสว่างแถมยังเด้งกระดอนกับพื้นได้อีกด้วยเด็กทุกชอบของเล่นชิ้นนี้มากๆ
ระหว่างที่กำลังเล่นกันอยู่ผมได้โยนลูกบอลแรงไปหน่อยจนทำให้มันเด้งออกไปไกล แต่ตัวตลกวิ่งมารับลูกบอลที่เด้งออกมาไว้ได้ทัน ผมรีบเดินเข้าไปหาตัวตลกอีกครั้งและยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อที่จะขอลูกบอลเอาไปเล่นต่อ แต่ตัวตลกไม่ยอมส่งลูกบอลคืนให้ ผมรู้สึกโกรธมากเลยวิ่งไปทุบตีตัวตลกด้วยความโมโห ทั้งเตะแลต่อยโดยไม่ยั้งมือ
“โฮะๆ โอ้ยเจ็บจังเลย ฮ่าฮ่าฮ่า” ตัวตลกทำท่าทางล้อเลียนถึงแม้ว่าตัวเขาจะถูกผมทุบตีอย่างแรง
“ไอ้ควายเอ้ย เอาลูกบอลคืนมา” ผมเริ่มพูดคำหยาบใส่ตัวตลกโดยไม่สนเพื่อนๆที่อยู่แถวนั้น
“แน่จริงก็แย่งให้ได้สิ โฮะๆ” ตัวตลกหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อเห็นท่าทางที่เกรี้ยวกราดของเด็กน้อย
เสียงทะเลาะวิวาทระหว่างผมกับตัวตลกดังขึ้นจนทำให้ผู้ใหญ่แถวนั้นได้ยิน ทุกคนพากันมาดูว่าเกิดอะไร คุณพ่อของผมรีบมาเป็นคนแรกเมื่อรู้ว่าเสียงนั้นเป็นของลูกชายตัวเอง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น” คุณพ่อตะโกนสั่งให้สองคนนั้นเลิกทะเลาะกัน
“พ่อครับ ไอ้ตัวตลกนี่มันแย่งลูกบอลของผมไปครับ” ผมรีบฟ้องพ่อให้เข้าข้างตัวเองเหมือนทุกครั้ง
“เอ่อ ขอโทษนะครับ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ” หัวหน้านักมายากลเดินมาถามคุณพ่อถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
“ตัวตลกนี่เป็นลูกน้องคุณใช่มั้ย ทำไมถึงปล่อยให้มันมาแย่งของเล่นลูกผมล่ะ” คุณพ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พ่อใจ
หัวหน้านักมายากลหันไปดูหน้าตัวตลกด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเรียกสมาชิกคนอื่นมาสอบถามเพิ่มเติมซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้จักตัวตลกคนนี้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหรือมาจากไหน
“ตัวตลกคนนี้ไม่ใช่ลูกน้องผมครับ” หัวหน้านักมายากลรีบแจ้งคุณพ่อทราบทันที
“ดีจะได้จัดหนักให้เต็มที่ โทษฐานที่มาทำให้ลูกชายผมต้องเสียใจ” คุณพ่อสั่งให้ลูกน้องลากตัวตลกไปที่ด้านหลังงาน
กลุ่มชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนเข้ามาล็อคแขนตัวตลกซึ่งมันก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ตัวตลกถูกลากไปตรงที่ไม่มีแขกคนอื่นโดยที่มีผมเดินตามไปด้วย คุณพ่อสั่งให้คนพวกนั้นจัดการรุมกระทืบตัวตลกอย่างหนักเพื่อเป็นการลงโทษที่ทำให้ลูกชายสุดที่รักไม่พอใจ น่าแปลกที่ตัวตลกไม่แม้แต่จะร้องแสดงความเจ็บปวดออกมาเลย เขาเพียงแค่นอนคว่ำล้มไปกับพื้นเท่านั้น บางทีผมแอบสงสัยว่ามันแกล้งทำเป็นลุกไม่ไหวรึเปล่า
“เอานี่ ลูกบอลที่หนูอยากได้” คุณพ่อแย่งลูกบอลออกจากมือตัวตลกแล้วส่งให้ผมรับไป
ผมรับลูกบอลที่พ่อส่งให้ด้วยความดีใจโดยไม่สนใจว่าจะต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากแค่ไหน ขอแค่ให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการก็พอแล้ว คุณพ่อสั่งให้ลูกน้องลากตัวตลกที่ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับตัวเอาออกไปโยนทิ้งที่บริเวณหน้าบ้าน ขณะที่ตัวตลกถูกลากผ่านหน้าผมไปเหมือนบรรยากาศรอบๆได้ถูกหยุดเวลาเอาไว้ โดยมีแค่ตัวตลกกับผมเพียงสองคนเท่านั้นที่ยังคงขยับตัวและพูดคุยได้อย่างปกติ ใช่แล้วคุณฟังไม่ผิดหรอกมันหยุดเวลาได้จริงๆ...
“โฮะๆ กลิ่นตัวหอมจังเลย เนื้อคงจะนุ่มท่าทางน่าอร่อย ฮึฮึฮึ” ตัวตลกพูดไปพลางหัวเราะเหมือนคนวิกลจริต
สิ้นคำพูดนั้นห้วงเวลาได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ตัวตลกถูกลากโยนตัวออกไปที่หน้าบ้าน ทุกคนในงานต่างเห็นเหตุการณ์นั้นทั้งหมดแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเพราะเกรงใจบารมีของพ่อผมที่เป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่โต ผมเดินไปดูตัวตลกที่ล้มอยู่หน้าบ้านเพราะสงสัยว่าเมื่อสักครู่ที่มันพูดหมายถึงอะไร แต่ที่แน่ๆมันทำให้ผมรู้สึกขนลุกเป็นอย่างมาก
ตัวตลกค่อยๆลุกขึ้นยืน ดูท่าทางเขาไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเลย เขาหันมามองผมแล้วยืนยิ้มพร้อมด้วยกระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนคนบ้าก่อนที่จะวิ่งหายไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว
ผมเห็นว่าตัวตลกได้วิ่งหายไปแล้วจึงไม่ได้สนใจมากนัก ผมกลับไปโยนลูกบอลเล่นกับเพื่อนต่อเหมือนเดิม งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปจนถึงช่วงหัวค่ำตอนนี้แขกหลายคนเริ่มทยอยพากันกลับบ้านแล้ว คุณพ่อบอกว่าเดี๋ยวคืนท่านกับคุณแม่จะขับรถออกไปส่งผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นแขกคนใหญ่คนโตที่มาร่วมงาน ท่านบอกให้ผมเข้าบ้านปิดประตูได้เลยถ้าพ่อมาถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวจะเรียกให้มาเปิดเอง
ผมเห็นว่าพ่อแม่ไม่อยู่แบบนี้เป็นโอกาสที่ดีผมจะได้นั่งเล่นเกมตอนกลางคืนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าพวกผู้ใหญ่จะเข้ามาห้าม คุณพ่อได้สั่งให้ลูกน้องอีกสามคนคอยอยู่เฝ้าบ้านดูแลความปลอดภัยให้ผมขณะที่ตัวเขาขับรถไปส่งแขกที่ข้างนอก
เมื่อคุณพ่อขับรถออกไปแล้วผมจึงรีบนำเครื่องเกมมาเชื่อมต่อกับทีวีนั่งเล่นอย่างสบายใจ ส่วนพวกลูกน้องพ่อนั่งคุยกันอยู่ที่โซฟา เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงยังไม่มีวี่แววว่าคุณพ่อจะกลับมาสักที นี่ก็ดึกมากแล้วจะต้องรอแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน พอเล่นเกมไปนานก็เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาจึงเปลี่ยนมานั่งดูทีวีแทน
“เฮ้ย! ไอ้บ้านั้นมันเดินมาแล้ว” เสียงลูกน้องพ่อคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นบางอย่างจากข้างนอกหน้าต่าง
“ไอ้ห่านี่สงสัยมันจะไม่เข็ด ไป... จัดให้มันอีกสักรอบดีกว่า” ลูกน้องพ่ออีกคนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูบ้าน
“คุณหนูอย่าออกไปไหนนะครับ เดี๋ยวพวกเรามา” ลูกน้องพ่อคนสุดท้ายพูดเสร็จก็เดินตามออกไปข้างนอกทันที
ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกทำไมพวกลูกน้องพ่อถึงได้ดูรีบร้อนขนาดนี้ ผมเดินไปแอบดูข้างประตู ที่ข้างนอกตอนนี้ผมมองเห็นลูกน้องพ่อสามคนกำลังยืมล้อมตัวตลกที่เจอเมื่อเย็น ผมตกใจว่าไอ้ตัวตลกนี่มันเดินเข้ามาที่หน้าบ้านได้ไงทั้งที่รั้วถูกปิดไว้แน่นหนาแถมยังเลี้ยงหมาพันธุ์ดุไว้อีกหลายตัว มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนเดินผ่านเข้ามา
กลับมาที่เหตุการณ์ตรงหน้าบ้าน พวกลูกน้องพ่อสามคนสาวหมัดรุมต่อยตัวตลกอีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้ตัวตลกได้ชูนิ้วขึ้นโดยที่ปลายนิ้วได้ส่องแสงสีเขียวสว่างจ้าออกมา แสงนั้นทำให้ลูกน้องพ่อทั้งสามคนเคลื่อนไหวช้าลงจนดูเหมือนกับฉากในภาพยนต์เดอะเมทริกซ์ เอ่อ...ถ้าคุณฟังถึงตรงนี้อาจคิดว่ามันดูเกินจริงแต่เชื่อเถอะว่าไอ้บ้านั้นมันมีอำนาจบางอย่างที่ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เอาเป็นว่ามันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว
ตัวตลกหยิบค้อนของเล่นออกมาจากกระเป๋าที่ด้านหลัง มันดูเหมือนค้อนของเล่นทั่วไปเวลาทุบจะมีเสียงปี๊บๆที่ฟังดูน่าปัญญาอ่อนนั่นแหละ มันใช้ค้อนของเล่นทุบเข้าไปที่ใบหน้าของลูกน้องพ่อทีละคน ทุกคนที่โดนค้อนทุบมีใบหน้ายุบบุบลงไปเป็นรอยรูปหัวค้อน รอยนั้นจมลึกเข้าไปถึงข้างในถึงหัวกะโหลก ลูกน้องพ่อทั้งหมดล้มลงไปกองกับพื้นพวกเขาน่าจะตายหมดแล้ว
“เชี่ย!... ไอ้เวรนั่นมันทำได้ไงว่ะ” ผมคิดในใจเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
เหมือนตัวตลกจะรับรู้ได้ว่าผมแอบมองอยู่ที่ประตู มันยืนยิ้มโบกมือทักทายอย่างอารมณ์ดี สักครู่หนึ่งมันได้ลากศพลูกน้องพ่อทั้งหมดมากองทับรวมกันก่อนที่จะดึงผ้าผืนใหญ่สีขาวออกมาจากกระเป๋า
“ดูให้ดีนะ เดี๋ยวจะเล่นมายากลของจริงให้ดู ฮ่าฮ่าฮ่า” ตัวตลกพูดไปพร้อมโบกผ้าในมือไปมา
มันโยนผ้าคลุมปิดศพลูกน้องพ่อทั้งสามคนจนมิดชิด ก่อนที่จะทำท่าทางเหมือนเสกคาถาบางอย่าง ท่าทางมันอาจดูตลกแต่สีหน้าของไอ้ตัวตลกนั่นมันโคตรโรคจิตเลย มันชี้ให้ผมดูผ้าผืนสีขาวที่ปิดคลุมศพชายสามคนเอาไว้
“หนึ่ง สอง ซั่ม จงหายไปตลอดกาล ฮ่าฮ่าฮ่า” ตัวตลกดึงผ้าออกมาซึ่งปรากฏว่าศพลูกน้องพ่อสามคนได้หายไปแล้ว
ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองนี่เรื่องบ้าอะไรกัน ไอ้ตัวตลกนั่นมันเป็นตัวอะไรกัน ไม่ไหวแล้ว ต้องหนีออกจากตรงนี้ไปให้ได้ ขืนอยู่ต่อมีหวังโดนไอ้โรคจิตนั่นฆ่าตายแน่
“รอแปบนะ เดี๋ยวไปหา โฮะๆ” ตัวตลกเดินมาอย่างไม่รีบร้อน มันตบมือเสียงดังและหัวเราะเหมือนคนบ้าตลอดทาง
ผมที่เห็นตัวตลกเดินมาจึงรีบปิดประตูบ้านล็อคลงกรอนอย่างแน่นหนาก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองแล้วเข้าห้องนอนล็อคประตูอีกชั้นขังตัวเองเอาไว้ข้างใน ผมนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก เปิดประตูหน่อย” ตัวตลกเคาะประตูห้องผมเสียงดังอยู่ที่ด้านนอก
“เฮ้ย!... มันเข้ามาได้ไงวะ ประตูบ้านล็อคไว้แล้วนิ” ผมได้แต่ตกใจเมื่อรับรู้ว่าตัวตลกเข้ามาอยู่ในบ้านได้แล้ว
เสียงเคาะประตูยังคงดังขึ้นอีกหลายครั้ง ผมนอนนิ่งเลือกที่จะไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น ภายในใจได้แต่ภาวนาขอให้ตัวตลกหายไปไวๆขอให้เรื่องทั้งหมดเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น
“นัท เปิดประตูประตูให้พ่อเข้าไปหน่อยสิลูก” เสียงพ่อดังออกมาจากนอกห้อง
“พ่อ! พ่อกลับมาแล้ว” ผมดีใจจนลืมตัวเมื่อได้เสียงพ่อเรียก
ผมกำลังลุกขึ้นจากเตียงเตรียมตัวเดินไปเปิดประตู เดี๋ยวก่อน!... ผมนึกขึ้นได้ว่าพ่อบอกเอาไว้ก่อนออกไปข้างนอกถ้าถึงบ้านเมื่อไหร่จะเรียกให้ผมมาเปิดประตู นั่นไม่ใช่พ่อ มันคงคิดว่าผมเป็นเด็กที่หลอกง่าย ฮึ... แต่ขอโทษที ถ้าไม่แน่จริงผมคงไม่โดนฝ่ายปกครองที่โรงเรียนเรียกอยู่บ่อยๆหรอก
“ไอ้โง่ มึงหลอกกูไม่ได้หลอก” ผมตะโกนด่าด้วยคำหยาบมากมายเท่าที่จะนึกได้
ผมกลับมานอนที่เตียงตามเดิมและปล่อยให้เสียงนั้นพล่ามต่อไป ตัวตลกพยายามเลียนแบบเสียงคนอื่นที่ผมรู้จักอีกหลายคน เช่น แม่ เพื่อนๆ รวมถึงพวกลูกน้องของพ่อด้วย ผมปิดหูไม่อยากรับรู้ไม่อยากได้ยินอะไรสิ้น เวลาน่าจะผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผมต้องทนอยู่ในสภาพนั้น ตอนนี้เสียงข้างนอกประตูได้เงียบลงไปแล้ว
ผมค่อยๆลุกขึ้นมองไปที่ประตูห้องอีกครั้ง ผมคิดว่ามันน่าจะไปที่อื่นแล้วแต่ผมยังคงไม่กล้าเปิดประตูห้อง ผมกลับมานอนเล่นบนเตียงในท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น แต่คงไม่จบลงง่ายๆแบบนี้น่ะสิ ลูกบอลสีแดงกลิ้งไปมาอยู่ที่ขอบผนังห้อง ผมจำได้ว่าเก็บลูกบอลนี้เอาไว้เอาข้างล่างแล้วมันจะเข้าไปอยู่ในห้องผมได้ไง
ลูกบอลกลิ้งเข้ามาที่ใต้เตียงช้าๆผมเอื้อมมือลงไปหยิบลูกบอลขึ้นมาดู มันเข้ามาในห้องนี้ได้ไงว่ะ! ถ้าลูกบอลนี้เข้ามาในห้องได้มันก็หมายความว่า......
“คิดว่าตัวเก่งสินะ นี่แค่หยอกๆเอง ฮึฮึฮึ” เสียงตัวตลกดังมาจากข้างในห้องนอน
ผมมองไปรอบๆว่ามันอยู่ตรงไหน บอกตามตรงว่าตอนนี้ผมกลัวมาก ผมรู้ว่าเสียงมันมาจากในห้องแต่ผมยังหาตัวมันไม่เจอ ระหว่างที่กำลังหวาดระแวงอยู่นั้นลูกบอลในมือผมเริ่มเกิดการสั่นไหวอย่างแรงก่อนที่มันจะเด้งออกจากมือแล้วพุ่งขึ้นไปบนเพดาน ผมมองตามลูกบอลที่เด้งขึ้นไปแล้วก็ต้องแทบช็อคเพราะว่าไอ้ตัวตลกมันเกาะอยู่บนเพดาน
ตัวตลกหยิบลูกบอลที่เด้งขึ้นมาเอาใส่เข้าปากแล้วกลืนลงทองไปทันที มันหันมามองผมฉีกยิ้มกว้างอย่างโรคจิตชั่วโมงนี้ผมคิดออกแค่อย่างเดียวคือต้องรีบวิ่งออกจากห้องแล้วลงไปที่ข้างล่าง พอคิดได้เช่นนั้นไม่รอช้าผมรีบออกตัวลุกขึ้นวิ่งจากเตียงทันที
“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไป มาคุยกันก่อน” ตัวตลกได้ทำอะไรบางอย่างกับร่างกายผมซึ่งมันทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้
ร่างกายของผมเหมือนถูกทำให้หยุดนิ่งแต่ส่วนคอยังพอขยับได้อยู่นิดหน่อย ผมพยายามฝืนเงยหน้าขึ้นไปดูมันที่เกาะอยู่บนเพดาน ผมเห็นตัวตลกกำลังชี้นิ้วมาที่ตัวผมโดยที่ปลายนิ้วมีแสงสีเขียวสว่างออกมาคล้ายกับตอนที่มันทำร้ายพวกลูกน้องพ่อสามคน ไอ้บ้าเอยผมเสร็จมันแล้วแบบนี้ไม่รอดแน่...
“ใครเอ่ย นิสัยไม่ดีชอบแย่งของคนอื่น ยกมือขึ้น!” ตัวตลกตั้งคำถามกับตัวผม
ร่างกายผมถูกอำนาจบางอย่างบังคับให้ยกยกมือขึ้นเพื่อยอมรับความผิดว่าผมคือเด็กนิสัยไม่ดี
“ผมขอโทษ ผมกลัวแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ” ผมร้องขอชีวิตกับตัวตลกด้วยความกลัวตาย
“ตอนทำไม่คิด ตอนทำผิดชอบแก้ตัว ฮึฮึฮึ” ตัวตลกพูดจายอกย้อนไม่สนใจคำพูดของผมเลย
“ผมสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่แย่งของคนอื่นอีกแล้ว ผมขอโทษ” ผมอ้อนวอนทั้งน้ำตา
“เอาไงดีหว่า อ่า.... คิดออกแล้ว ฉันจะกินความทรงจำของแกดีกว่า” ตัวตลกพูดสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
กินความทรงจำ… ผมไม่เข้าใจว่าคำพูดนั้นหมายถึงอะไร แต่สิ่งที่ผมจะเห็นต่อจากนี้เป็นอะไรที่น่าสยองขวัญมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา ตัวตลกขยายร่างให้ใหญ่ขึ้นมันมีแขนขายาวเก้งก้างจนสามารถแตะไปถึงที่ผนังอีกฝั่งได้ หน้าตาของมันค่อยๆเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็นอสูรกายที่มีหัวคล้ายกับแมลงวัน มันเอื้อมมือมาจับตัวผมยกขึ้นสูงจนเสมอกับหัวมัน
“ไอ้หนู ลาก่อนนะ มื้อนี้คงอิ่มไปอีกหลายปี โฮะๆ” ตัวตลกมองผมเหมือนตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างหลังจากนี้
มันบีบร่างกายผมจนแน่นขึ้นแล้วค่อยๆออกแรงใช้มือหักแขนหักขาผมทีละท่อน กร๊อบ!...เสียงกระดูกผมหักดังชัดเจน มันใช้มือนวดปั้นส่วนต่างๆในร่างกายผมจนกล้ามเนื้อทุกส่วนมีความอ่อนนิ่มมากขึ้น น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บกับการกระทำนี้เลย แต่ผมฝืนทนดูสภาพร่างกายที่ถูกนวดจนเละเหมือนเนื้อเน่าแบบนี้ไม่ไหวมันน่ากลัวเกินกว่าที่ผมจะรับได้ ผมพยายามกรีดร้องสุดเสียงมันเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ในตอนนนี้
ตัวตลกยื่นหน้าที่เหมือนแมลงวันเข้ามาใกล้หัวผม มีท่อเล็กๆยืดยาวออกมาจากปากของมัน ท่อนั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนเหมือนดอกลำโพงเก่าตามงานวัด มันใช้ท่อนั้นครอบหัวผมเอาไว้แล้วออกแรงสูบร่างกายผมเข้าไปในปาก ผมเห็นร่างตัวเองกำลังถูกดูดเข้าไปในท่ออันใหญ่โตอย่างช้าๆก่อนที่ภาพทุกอย่างจะถูกตัดไป
เสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านในตอนกลางดึก มีคนกำลังเดินมาที่ห้องผมไขกุญแจเปิดประตูเข้ามาข้างใน
“อ้าวนัท หนูยังไม่นอนเหรอลูก หิวรึเปล่าพ่อซื้อโจ๊กมาฝาก” เสียงคุณพ่อกล่าวทักทายเมื่อเห็นว่าผมยังไม่นอน
ผมรู้สึกตัวลืมตามองคุณพ่อที่อยู่เบื่องหน้า ร่างกายของผมมันลุกขึ้นเดินขยับไปหาคุณพ่อเองโดยที่ตัวผมไม่ได้เป็นคนทำ อะไรว่ะเนี่ยทำไม่ร่างกายมันถึงขยับไปเองล่ะ...
“ขอยืมร่างไปใช้ก่อนนะ ถ้าเบื่อแล้วเดี๋ยวคืนให้ ฮึฮึฮึ” เสียงตัวตลกดังก้องเข้ามาในหัวสมองผม มันกำลังยึดร่างผม!
“เดี๋ยวพ่อลงไปรอข้างล่างนะ ถ้าหิวก็ตามลงมาแล้วกัน” คุณพ่อเดินลงไปรอที่โตะอาหารข้างล่าง
“หิวครับ หิวมากด้วย ผมจะกินให้หมดเลย” ตัวตลกแกล้งดัดเป็นเสียงผม มันตอบคุณพ่อไปอย่างอารมณ์ดี
ไอ้ตัวตลกมันยึดร่างผมเอาไว้ ผมทำได้แค่มองผ่านดวงตาคู่หน้าเท่านั้น ส่วนเรื่องการขยับตัวและความนึกคิดต่างๆถูกตัวตลกควบคุมเอาไว้ทั้งหมด ผมรู้สึกว่าตัวตนของผมกำลังจะหายไป ภาพต่างๆเริ่มมืดลงสติของผมดับวูบไปอีกครั้ง
วันเวลาผ่านไปนานหลายปี ผมรู้สึกตัวอีกทีและพบว่าตอนนี้ผมมีอายุครบสามสิบปี ผมได้ร่างกายกลับคืนมาแล้วแถมยังเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกด้วย ความทรงจำของผมจำได้แค่ช่วงงานวันเกิดแต่เรื่องอื่นหลังจากนั้นผมนึกอะไรไม่ออกเลย ผมพยายามค้นหาข้อมูลว่าที่ผ่านมาผมได้ไปทำอะไรมาบ้างหรือเติบโตมาแบบไหน
ผมเจอเอกสารเก่าๆภายในบ้านที่ข้างในระบุเอาไว้ว่า... พ่อแม่ของผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันในคืนงานวันเกิดตอนผมอายุสิบขวบ ผมถูกญาติผู้ใหญ่คนอื่นรับตัวไปอุปการะดูแลต่อ ได้เรียนหนังสือจนจบมหาวิทยาลัย ได้ทำงานในบริษัทเอกชนจนมีความก้าวหน้า
แต่ไอ้เรื่องที่ผมอ่านเจอเนี่ยผมกลับนึกความทรงจำช่วงนั้นไม่ออกเลยนะสิ จำไม่ได้ว่ามีเพื่อนสนิทชื่ออะไร เคยไปเดทกับสาวกี่ครั้ง แบบนี้มันเท่ากับว่าความทรงจำช่วงวัยรุ่นจนถึงช่วงเป็นผู้ใหญ่ได้หายไปทั้งหมด
ฉันจะกินความทรงจำของแก… ผมนึกถึงคำพูดของไอ้ตัวตลกนั่นที่บอกว่าจะกินความทรงจำ นี่มันทำแบบนั้นได้จริงเหรอ แบบนี้มันเท่ากับว่าตัวผมที่ใช้ชีวิตช่วงเรียนหนังสือจนถึงเริ่มต้นทำงาน... อย่าบอกนะว่ามันคือไอ้ตัวตลกที่แกล้งทำตัวเป็นผมมาโดยตลอด....
ทุกคนคิดว่าไง คงคิดว่าผมบ้าไปแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ผมนึกความทรงจำหลังจากนั้นไม่ออกจริงๆนะ นอกจากเอกสารที่ผมได้อ่านมันไม่มีอย่างอื่นยืนยันได้เลยว่าตัวผมเคยทำอะไรมาบ้าง ไม่มีแม้แต่รูปถ่าย มันไม่มีอะไรเลย ผมคิดว่าไอ้ห่านั่นมันคงใช้ร่างกายผมจนเบื่อก่อนที่จะยอมคืนให้แบบนี้
แต่ผมไม่อยากให้จบแค่นี้หรอกนะ ตอนนี้ผมพยายามรวบรวบข้อมูลเกี่ยวกับไอ้ตัวตลกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นตัวอะไร เป็นผีหรือปีศาจกันแน่.... คราวนี้แหละผมจะเอาคืนมันโทษฐานที่มาแย่งชิงความทรงจำช่วงวัยรุ่นของผมไป ถ้ามีความคืบน่าผมจะกลับเล่าให้ทุกคนได้ฟังอีกครั้งอย่างแน่นอน
เยี่ยมชม แฟนเพจ : ชายขี้เล่า Story
https://www.facebook.com/10868553802964
เรื่องผี
เรื่องสั้น
เล่าเรื่องผี
2 บันทึก
1
1
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย