23 ธ.ค. 2022 เวลา 08:56 • ข่าวรอบโลก
สีจิ้นผิงกลับลำทิศทางเศรษฐกิจจีน?
Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
2
ภายหลังการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลายคนนึกว่าสีจิ้นผิง ซึ่งได้เป็นผู้นำสูงสุดต่อ อาจจะยิ่งแรงขึ้น ยิ่งไปในทิศทางซ้ายมากขึ้น และยืนหยัดนโยบายเดิมต่อเนื่องต่อไป แต่สองเดือนภายหลังการประชุมกลับเป็นสองเดือนแห่งการกลับทิศ ตั้งแต่เกมการทูตต่างประเทศเชิงรุกไล่จากประชุมกับผู้นำเยอรมัน สหรัฐฯ เวที G20 APEC และบุกตะวันออกกลาง ไปจนถึงการกลับหลังหันนโยบาย Zero Covid ชนิด 180 องศา เรียบร้อยแล้ว
4
ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ยิ่งมีสัญญาณการกลับลำทิศทางด้านเศรษฐกิจจากการประชุมกรรมการกลางด้านเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่จะจัดทุกสิ้นปี เพื่อกำหนดทิศทางของปีหน้า
4
ปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนกำลังขาขึ้น สีจิ้นผิงใช้เป็นจังหวะในการจัดระเบียบภาคเอกชน แต่มาปีนี้ เศรษฐกิจจีนตกต่ำมากจากนโยบายโควิดที่เคร่งครัดและจากปัญหาอสังหาริมทรัพย์ สีจิ้นผิงย่อมจำเป็นต้องยอมกลับทิศทาง เพราะไม่ว่าอย่างไร เศรษฐกิจก็สำคัญต่อความชอบธรรมของพรรค
3
ดูอย่างไรว่าเริ่มกลับทิศ ไม่ได้เพียงดูว่าคำแถลงของการประชุมกรรมการกลางด้านเศรษฐกิจพูดอะไร แต่ต้องดูว่าไม่พูดอะไรด้วย
ไม่พูดแรก คือ ตลอดคำแถลง ไม่มีคำว่า “ความรุ่งเรืองร่วมกัน” (Common Prosperity) สโลแกนโปรดของสีจิ้นผิงอีกต่อไป เพราะเหมือนสโลแกนนี้จะทำให้ภาคเอกชนจีนขวัญหนีดีฝ่อในช่วงที่ผ่านมา
7
ตรงกันข้าม ประโยคเน้นของคำแถลงคือ ต้องเริ่มจากการสร้างความมั่นใจและสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก และยังย้ำแล้วย้ำอีกว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคเอกชน และต้องแก้ความเข้าใจผิดในกระแสสังคมที่ว่ารัฐบาลไม่สนับสนุนเอกชน
11
ไม่พูดสอง คือ ไม่พูดเรื่องการควบคุม “การขยายของทุนอย่างไม่มีระเบียบ” ซึ่งเป็นประโยคทองของนโยบายเศรษฐกิจเมื่อปีก่อน และได้นำมาสู่การจัดระเบียบภาคเอกชนต่างๆ มากมาย
3
ในท่อนที่พูดถึงภาคเทคโนโลยีในคำแถลง ก็ไม่พูดถึงการป้องกันการผูกขาดอีกต่อไป ทำให้คาดหมายได้ว่ากฎเกณฑ์การกำกับดูแลภาคเทคโนโลยีที่ออกมามากมายเมื่อปีก่อนแม้คงจะไม่ถอยไม่ยกเลิก แต่ก็คงไม่มีเพิ่มเติมหรือขยายขอบเขตไปมากกว่านี้
1
ไม่พูดสาม คือ ไม่พูดถึงนโยบาย “สามเส้นแดง” (Three Red Lines) ของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเคยส่งผลให้เกิดวิกฤตหนี้ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนจำนวนมาก จนเกิดเป็นปัญหาเชิงระบบที่ลามกระทบเศรษฐกิจจีนทั้งหมดอย่างหนัก
1
ในคำแถลงครั้งนี้ ยังคงมีประโยคที่บอกว่ารัฐบาลจะยึดหลักการ “บ้านมีไว้อยู่ ไม่ได้มีไว้เก็งกำไร” แต่จะต้องช่วยให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่โมเดลใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนเป็นไปอย่างราบรื่น ความหมายคือต้องพยายาม Soft Landing ให้ได้
4
ก่อนหน้านี้ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ 16 ข้อ ซึ่งเป็นการกลับทิศทางที่เคร่งครัดจากก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน และส่งสัญญาณแน่ชัดว่ารัฐบาลจีนรู้ว่าปัญหานั้นหนักหนาสาหัสและต้องการพยุงไม่ให้แย่ไปกว่านี้ให้ได้
4
หลายคนถามว่า แล้วในคำแถลงของคณะกรรมการกลางด้านเศรษฐกิจในครั้งนี้ มีพูดถึงอะไรบ้างที่น่าสนใจ หลักใหญ่ใจความน่าจะมีอยู่ 3 เรื่องเด่น
1
เรื่องแรกและเป็นเรื่องที่เน้นมากที่สุด คือ การขยายดีมานด์ภายในประเทศ ซึ่งมีพูดเรื่องนี้ต่อเนื่องถึง 5 ย่อหน้า โดยเรื่องดีมานด์ไม่ได้รวมเพียงการบริโภค (ที่ยังไม่ฟื้นจากโควิด) แต่รวมถึงการลงทุนด้วย ผมจึงคาดหมายว่าภายหลังเดือนมีนาคมปีหน้าที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ารับตำแหน่ง น่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการการลงทุนขนาดใหญ่อีกครั้ง
3
เรื่องที่สองคือ การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้อยู่ในภาวะที่ตกต่ำที่สุดตั้งแต่จีนเปิดประเทศมา ทั้งจากนโยบาย Zero Covid และสงครามการค้าและความสัมพันธ์ที่ตกต่ำลงกับชาติตะวันตก ในประเด็นนี้ คำแถลงบอกว่าจีนจะเดินหน้าเต็มที่กับการเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP
4
หลายคนอาจงงว่า CPTPP เป็นข้อตกลงที่สหรัฐฯ ทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือ แต่กฎเกณฑ์หลายอย่างในข้อตกลงเป็นกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการเปิดตลาด เอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติ และเป็นกฎเกณฑ์ที่ชาติตะวันตกต้องการ การประกาศเดินหน้าจะเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP ส่งสัญญาณว่าจีนจะพยายามแก้เงื่อนไขกฎเกณฑ์ภายในประเทศให้เป็นประโยชน์กับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้กลับมาจีนอีกครั้ง
3
เรื่องที่สามคือ การพูดถึงนโยบายโควิดว่าตอนนี้เปลี่ยนจากการป้องกันการแพร่ระบาดมาเป็นการรักษาผู้ป่วย และย้ำเน้นว่านโยบายโควิดต้องรักษาสมดุลกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ชัดเจนว่าเรื่องโควิดมีแต่จะเดินต่อไปให้สุดปลายอุโมงค์ ไม่มีกลับลำมาปิดเมืองอีกแน่นอน
4
ส่วนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมสำคัญที่ได้รับการพูดถึงในคำแถลง ได้แก่ พลังงานใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ การผลิตชีวภาพ (bio-manufacturing) เศรษฐกิจสีเขียวคาร์บอนต่ำ และควอนตัวคอมพิวติ้ง
3
ก่อนหน้านี้ หลายคนคิดว่าสีจิ้นผิงอาจเป็นผู้นำที่มีอุดมการณ์ซ้ายค่อนข้างแรงกล้า จีนจึงกลายเป็นจีนอุดมการณ์มากกว่าจีนปฏิบัตินิยมดังในอดีต แต่ผมไม่เชื่อเช่นนั้น ผมคิดว่าสองปีที่ผ่านมา ด้วยการต่อสู้ทางการเมืองและความจำเป็นที่ต้องสร้างคะแนนิยมในหมู่รากหญ้า สีจิ้นผิงจำเป็นต้องแสดงความแกร่งในการต่อสู้กับทุนใหญ่เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กตัวน้อย
6
และเน้นเสถียรภาพหลีกเลี่ยงการระบาดใหญ่ก่อนการประชุมพรรคที่สำคัญ ทั้งขั้วการเมืองที่เขาต่อสู้ด้วยก็เป็นฝ่ายขวาและฝ่ายเสรีนิยมที่อยากให้ผ่อนคลายนโยบายเศรษฐกิจและโควิดเร็วกว่านี้
1
แต่วันนี้เขารวบอำนาจได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเรียบร้อย ไม่ต้องต่อสู้กับใครหรือขั้วการเมืองใดอีก ในขณะเดียวกัน สถานการณ์เศรษฐกิจและความนิยมของเขาก็ย่ำแย่กว่าที่ผ่านมามาก จึงไม่แปลกที่เขาพร้อมจะกลับทิศทาง และหันกลับมาเน้นเศรษฐกิจ เน้นเอกชน และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอีกครั้ง
4
ด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะดีดตัวกลับได้แรงหลังการระบาดใหญ่ของโควิดในจีน ซึ่งหลายคนคาดหมายจะเป็นช่วงหลังตรุษจีนปีหน้า ต่อเนื่องกับการเข้ารับตำแหน่งของทีมนายกฯ และทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ในเดือนมีนาคม
5
โฆษณา