27 ธ.ค. 2022 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
EP.5 ถ้าไม่ดุ ก็ไม่โต
(ข้อคิดดี ๆ จากประเทศญี่ปุ่น สู่คนไทย)
ฟัง podcast คลิ๊กลิ้งค์ https://spotifyanchor-web.app.link/e/PMYL8KRv5vb
สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ เซย์เก่ง podcast
รายการที่จะนำสาระ ข้อคิดดี ๆ จากประเทศญี่ปุ่น สู่คนไทย
ผมเซย์เก่ง จากเพจ “เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ By เซย์เก่ง”
วันนี้จะมาแบ่งปันข้อคิดที่ได้ฟังมาจากคนญี่ปุ่น
เรื่องนี้ผมได้ฟังมาจากคุณ Nishino Akihiro
สิ่งที่ได้รับจากเรื่องนี้ก็คือ เราไม่ควรจะทำงานไปวัน ๆ เท่านั้น
เราควรจะมีเป้าหมายที่เติบโตขั้นในด้านต่าง ๆ ด้วย
และการที่เราจะเติบได้นั้น เราต้องเปิดใจให้คนอื่นเข้ามาชี้จุดบกพร่องของเราได้
เพื่อเราจะสามารถแก้ไขจุดบกพร่องนั้นได้ทันที่
เพื่อน ๆ ลองติดตามรับฟังกันดูนะครับ
เป็นเรื่องที่ Nishino-san ดุรุ่นน้องหรือเด็กฝึกงาน
อาจจะเป็นเนื้อหาที่พูดแทนของหัวหน้าทั่วโลกก็เป็นได้
ปัจจุบันนี้อาจเป็นยุคแห่งความสุข สำหรับคนหนุ่มสาวที่ทำงานที่บริษัท ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมไม่มีการดุ ว่ากล่าว หรือตักเตือน
การดุ การว่ากล่าว ตักเตือน
มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาต้องการอะไรจากบริษัทด้วย
ถ้าเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบมาทำงานไปวัน ๆ ตกเย็นกลับบ้าน สิ้นเดือนก็รอรับเงินเดือน ถ้าคิดแค่นี้ ไม่โดนดุ ไม่ต้องโดนตำหนิ ก็น่าจะสบายกว่า
แต่ถ้าอยากจะเติบโต มีเป้าหมายที่จะเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นต่อไป ถ้าเช่นนั้นต้องรีบค้นหาว่าอะไรเป็นจุดบอดของของตัวเรา แล้วรีบแก้ไขให้เรียบร้อยภายในไม่กี่นาทีจะดีว่า
ถ้าต้องการเช่นนั้น ถ้าไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการดุ ตำหนิ ตักเตือน เพื่อให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็ถือว่าขาดทุนเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการชื่นชมเลยก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่คนหนุ่มสาวควรรู้คือ อะไรที่ OUT ไปแล้ว อะไรที่ยัง OKใช้ได้อยู่ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ทำซ้ำกับสิ่งที่รุ่นพี่เคยทำผิดพลาดมาในอดีต และพยายามลองทำสิ่งที่ท้าทายที่รุ่นพี่ยังไม่เคยทำมาก่อน
ถ้าไม่ทำเช่นนี้การส่งต่อไม้ผลัดไปก็ไม่มีความหมายอะไร
แต่ถ้าบอกว่าสิ่งนี้ห้ามทำเป็นอันขาด แต่ยังฝืนทำอยู่ ก็จะต้องมีการดุ ว่ากล่าว ตักเตือนกันอย่างแน่นอน
Nishino-san พูดต่อว่า บริษัทที่ทำอยู่ชื่อว่า CHIMNEY TOWN เป็นบริษัทที่สร้าง Content เกี่ยวกับความบันเทิง ที่มีลูกค้าทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น แน่นอนคนที่อยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป คงไม่สมัครงานมาทำบริษัทผมแน่ๆ
อย่างเช่นตอนนี้บริษัทได้ทำ Project NFT ที่มีช่ือเสียงอยู่ตอนนี้ก็คือ CHIMNEY TOWN Poubelle ซึ่งเราก็ไม่ได้ให้คนที่มีประสบการณ์ทำงาน 5 ปี มาเป็นหัวหน้า Project แต่อย่างใด แต่ได้มอบหมายให้เด็กฝึกงานเป็นหัวหน้า Project เพื่อให้โอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่
ก็เป็นบริษัทประมาณนี้ เด็กที่ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานเช่นนี้ จึงได้สมัครเข้ามาเพื่อขอฝึกงาน ดังนั้นเมื่อทำผิดก็จะมีจะมีการดุ ว่ากล่าว ตักเตือนบ้างธรรมดา
บอกไว้ก่อนนะครับ เวลา Nishito-san ดุ จะไม่ขึ้นเสียงดังแต่อย่างใด
ก็จะบอกแค่ว่า ถ้าทำแบบนี้ สิ่งที่จะได้ก็จะเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ทำก็จะเป็นแบบนี้ ก็จะแนะนำด้วยความสุขุมใจเย็น
เรื่องที่ Nishino-san จะดุ หรือไม่ดุนั้นมีเส้นแบ่งที่ชัดเจน ง่าย ๆ คือ ถ้าเป็นการ Challenge ทำสิ่งใหม่ถ้าเกิดผิดพลาด อันนี้ผมจะไม่ดุอย่างเด็ดขาด
ถ้าดุในสิ่งที่เขาทำพลาด วันหลังเขาจะไม่กล้า Challenge ทำสิ่งใหม่อีก
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าบอกว่า “ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด” แต่ยังเพิกเฉย ดันทุรังทำอยู่ หรือ ลืมในสิ่งที่ย้ำเอาไว้ อันนี้จะดุอย่างจริงจังเลย
เหตุผล คือ ไม่มีความรับผิดชอบจัดการดูแลได้ นั่นเองครับ
พูดตรง ๆ ก็คือ สิ่งที่รุ่นน้อง Challenge แล้วเกิดพลาดอันที่จริงแล้วสามารถเข้าไป Cover หรือ แก้ให้ได้ภายในไม่กี่นาที
แต่ถ้าบอกว่า อันนี้ห้ามทำนะ แต่ยังเพิกเฉยทำอยู่ อาจจะไม่สามารถเข้าไปช่วยแก้ไขได้ทันเวลาได้
อันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ เช่น ถ้าเพิกเฉยคำเตือนที่ว่า “เมาอย่าขับ” แต่ขืนไปขับอยู่เกิดไปชนคนตาย ก็ไม่สามารถไปช่วยอะไรได้
Nishino-san ยังพูดต่อว่า มีคนที่บ้า ๆ บอๆ จำนวนมาก ที่เข้าใจความหมายของคำว่า Challenge ผิดไป
เช่น จะทำ Challenge ตอนเมา จะลองขับรถกลับบ้านดูว่าจะไปถึงปลอดภัยไหม? อันนี้ไม่ใช่ Challenge อะไรทั้งสิ้นอย่างเข้าใจผิด
ถ้าไม่ลองทำก็ไม่รู้นะ คนที่ลองทำก็มีอยู่นะ
แบบนี้ไม่เรียกว่า Challenge แต่เรียกว่า “พยายามฆ่า” หรือ “ฆาตกรรม” ก็ว่าได้ ซึ่งเราไม่ควรทำเด็ดขาด
อันนี้อาจจะเป็นตัวอย่างที่รุนแรงสักหน่อย
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมานั้นในทางธุรกิจอาจตีความว่าเป็นอุบัติเหตุ 100% เพราะผลมันเกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้นต้อง list up ออกมาแล้วมาสอนรุ่นน้องว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ
Nishino-san บอกว่า ผมมักจะพูดว่า “อย่าทำอย่างนี้เด็ดขาด” หลายคนอาจจะได้ยินผมพูดบ่อย ๆ
ว่า “อย่าขว้างลูกโค้ง “ อย่าคิดว่าไอเดียที่ตัวเองคิดมานั้น เป็นไอเดียใหม่ที่ไม่เคยมีมาในโลกนี้มาก่อน
วันก่อนที่ผมโมโหรุ่นน้องนั้น หลักๆ มีอยู่ 2 ประเด็น
สิ่งที่เราทำตอนนี้คือ ทุกวันจะเปิดประมูล NFT CHIMNEY TOWN Poubelle
ก็จะถามว่า เวลาเปิด-ปิดประมูล เปิดกี่โมง ปิดกี่โมง
วันนี้เปิด 19:00 น. ปิดอีกที 19:00 น. วันถัดไป อันนี้เป็นเวลาของวันนี้นะครับ
ผมก็เริ่มสังสัย
แล้ว เวลาเปิด-ปิดประมูล พรุ่งนี้ล่ะ
พรุ่งนี้เวลาไม่เหมือนเดิมหรอกเหรอ? ก็ถามไปแบบนั้น
คำตอบที่ได้มาตกใจอย่างมาก พรุ่งนี้เปิดประมูล 22:00 น. ปิด 22:00 น. วันถัดไป
แล้ววันมะรื่นละ อ้อ..เปิด 19:00 น. ปิดอีกที 19:00 น.ของวันถัดไป
แลัววันหลังจากนั้นละ อ้อ เปิด 12:00 น. ปิดอีกที 12:00 น.ของวันถัดไป
แล้วต่อไปละ อ้อเริ่ม 15:00 น. แล้วต่อไปล่ะ เริ่ม 18:00 น.
น่ากลัวใช่ไหม?
ทุกคนคิดเหมือนผมหรือเปล่า?
ทำไมถึงต้องจัดเวลาแบบนั้น
ก็ได้คำตอบกลับมาว่า คนที่จะเข้าร่วมประมูลติดเวลาเรื่องงาน จึงต้องจัดเวลาประมูลกระจายออกมาแบบนั้น
สิ่งที่เป็นห่วงคือ เวลเปิดปิดประมูลแต่ละวันต่างกันไป แล้วจะประชาสัมพันธ์อย่างไร? ใช่ไหมครับ
เช่นถ้าเวลาประมูลปิด 19:00 น.เราก็ไป standby รอ 18:40 ก็ได้ใช่ไหม แต่ถ้าวันนั้นเกิดประมูลปิด 15:00 น. จะทำอย่างไร?
คิดระบบเวลานี้ขึ้นมาแล้วเรามีระบบการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้คนทั่วโลกหรือยัง?
หรือจะให้ทุกคนมานั่งค้นหาว่า วันนี้เราจะเปิดประมูลกี่โมง?
วัตถุประสงค์ของ Poubelle คือการเพิ่มประชากร NFT ในญี่ปุ่น ดังนั้นจะต้องประชาสัมพันธ์คนที่ไม่สนใจ NFT
แล้วเวลาเปิดปิดประมูลแต่ละวันก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ แล้วจะแจ้งให้คนเหล่านี้ให้ทราบอย่างไร คำตอบคือ เงียบ
พนักงานที่ใจดีก็เข้าข้างว่าเด็กใหม่ว่า “ที่ทำแบบนี้เพราะคำนึงถึงเวลาลูกค้าใช่ไหม?
ผมคิดว่าอันนี้เป็นเรื่องที่โง่มาก อันดับแรกคือ “อย่าขว้างลูกโค้ง”
และอย่าคิดว่า ความคิดที่ตัวเองคิดมานั้น เป็นความคิดที่ใหม่ ที่ในโลกนี้ยังไม่มีมาก่อน
ขว้างลูกโค้ง (โชว์ความเหนือกว่า)
ทำไมการแสดง street show หรือ การแสดงสดตามท้องถนน ถึงต้องแสดงที่เดิมและเวลาเดิมอยู่เสมอ
ทำไมการ Live สดทาง youtube ถึงต้อง Live เวลาเดิมเสมอ
นั่นก็เพราะไม่มีโฆษณาไหนที่ชนะ พฤติกรรมที่ทำซ้ำ ๆ ใช่ไหม?
ในเมื่อไม่สามารโฆษณาให้ทุกคนได้ ก็ต้องทำให้ทุกคนรู้ว่า เวลานี้ สถานที่นี่ เราจะอยู่ที่นี่เสมอ ซึ่งทำกันมาเป็นพัน ๆ ปี มาแล้ว
และอีกประเด็มหนึ่ง
ทำไมจึงคิดว่า สิ่งที่ตัวเองคิดมานั้น เป็นความคิดใหม่ ที่ในโลกนี้ยังไม่มีมาก่อน
ที่เขาไม่ใช้กัน เพราะมันเป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้หรือเปล่า จึงไม่มีใครใช้
การจัดเวลาที่แตกต่างกันอาจจะสนุก ผลการการทดสอบกับ 4 พันล้านคน ผลคือมันใช้ไม่ได้ เขาจึงไม่ใช้กันหรือเปล่า
ที่ดุไปก็คือ 2 ประเด็นนี้
ขว้างลูกให้ตรงยังทำไม่ได้ แต่กลับจะขว้างลูกโค้ง
เผลอไปเอาความคิดที่ ใช้ไม่ได้มาใช้ น่าจะรู้สึกระอายใจบ้าง เพราะมันเป็นความคิดที่ out ไปแล้ว
และสิ่งที่ย้ำก็คือก่อนจะทำอะไรให้คิดอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน
ทำสิ่งที่ควรทำให้ดีเสียก่อน
ทำในส่ิงที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ทำให้ดีเสียก่อน 平凡徹底
ทำสิ่งธรรมดาที่ใคร ๆ  ก็ทำได้ แต่ทำให้มากว่าและดีกว่า
นี่ก็คือเรื่องที่ตำหนิรุ่นน้องที่บอกไปแล้วว่า ห้ามทำแต่ก็ยังทำเอง
ตามหัวข้อที่ว่า ถ้าไม่ดุ ก็ไม่โต
เจอกันใน EP ต่อไปนะคับ じゃまたね。
โฆษณา