31 ธ.ค. 2022 เวลา 07:50
ฎีกาที่ 2053/2563
กรณีที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งและอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยไม่ชอบดังกล่าวนั้นจะต้องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 แต่เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยเสียก่อน เห็นว่า การยื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229
ได้กำหนดให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น อันเป็นการกำหนดระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ไว้ ส่วนคำแถลงการณ์เป็นหนังสือมิได้เป็นส่วนหนึ่งของอุทธรณ์ ทั้งการยื่นคำแถลงการณ์เป็นหนังสือต้องกระทำก่อนศาลพิพากษาคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 186 วรรคสอง ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวนำมาใช้ในชั้นอุทธรณ์ด้วยตามมาตรา 246 แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 21 มีนาคม 2562 โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยฉบับดังกล่าวแล้ว
ดังนั้น ถึงแม้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จะได้พิจารณาคำแถลงการณ์เป็นหนังสือประกอบกับอุทธรณ์ของจำเลยก็ไม่อาจมีผลเปลี่ยนแปลงเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่า ต้องพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ถือได้ว่าจำเลยไม่ได้ยื่นคำแถลงการณ์เป็นหนังสือก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาคดี ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาคจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 เป็นบทบัญญัติกำหนดให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ หากผู้อุทธรณ์มิได้นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลแล้ว ศาลก็ชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ได้ทันที
เพราะมิใช่เรื่องของการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความดังที่จำเลยฎีกาไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยมานั้นจึงชอบแล้ว
อนึ่ง การที่จำเลยฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่ให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยนั้น เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 (ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกามา 4,359 บาท เป็นการเสียเกินมา จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาส่วนที่เกิน 200 บาทให้แก่จำเลย (พิพากษายืน (ยกอุทธรณ์ของจำเลย) ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกิน 200 บาท ให้แก่จำเลย)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา