3 ม.ค. 2023 เวลา 01:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วโลก คาดว่าจะชะลอความร้อนแรงลงในปี 2023

จากข้อมูลของ Fitch Ratings ใน Global Housing and Mortgage Outlook
การเติบโตของราคาบ้านจะลดลงหรือชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2023 ในหลายประเทศ
สาเหตุหลักมาจากอุปสงค์ที่ลดลงจากดอกเบี้ยบ้านที่สูงและวิกฤติค่าครองชีพ
อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านจะยังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนักและอัตราเงินเฟ้อจะลดค่าจ้างที่แท้จริงลง
ส่งผลให้คุณภาพสินเชื่อลดลงของแต่ละประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี สเปน และ สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่อยู่อาศัยที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยบ้านในประเทศเหล่านี้เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรือคงที่ในระยะสั้น
โดยราคาบ้านในประเทศที่พัฒนาแล้วคาดว่าจะลดลงระหว่าง 10% ถึง 18% จากจุดสูงสุด
ยกเว้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนพร้อมกับอินเดียและดูไบเท่านั้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ตลาดที่อยู่อาศัยได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่การเพิ่มขึ้นของราคาในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ไม่มีเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และลดลงสู่เลขหลักเดียวในเดือนตุลาคม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านเพิ่มขึ้นสูงกว่า 7%
ดัชนีราคาบ้านระดับประเทศของ S&P CoreLogic Case Shiller เพิ่มขึ้นเป็นเลขหลักเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ในเดือนตุลาคม โดยเพิ่มขึ้น 9.2% เทียบกับ 10.7% ในเดือนกันยายน
ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของ Federal Housing Finance Agency ซึ่งกำกับดูแลบริษัทการเงินจำนองของสหรัฐฯ อัตราการเติบโตของราคาบ้านประจำปีลดลงเหลือ 9.8% ในเดือนตุลาคมจาก 11.1% ในเดือนกันยายน
📌 ตลาดที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลไปยังต้นทุนการกู้ยืมในทันที
ดังนั้นหากเฟดใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ตลาดที่อยู่อาศัยก็จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกในปีหน้า
อัตราการขายบ้านที่สร้างใหม่และบ้านเก่าแบบปีต่อปีตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนลดลง 35% ซึ่งเป็นหนึ่งในการลดลงที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเป็นการลดลงจนถึงจุดต่ำสุด ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011
Freddie Mac and Mortgage Bankers Association รายงานว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านได้ลดลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเหลือประมาณ 6.3% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ยังคงสูงเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้จะยังคงมีผลกระทบในทางลบ ในตลาดที่อยู่อาศัย
📌 สหราชอาณาจักรเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง
เนื่องจากสหราชอาณาจักรจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านที่สูงขึ้น ตลาดที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในปีหน้า ราคาบ้านแบบเดือนต่อเดือนได้เริ่มลดลงแล้วเนื่องจากวิกฤติค่าครองชีพ ที่เป็นผลมาจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
จากข้อมูลของ Halifax พบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉลี่ยลดลง 2.3% ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งลดลงสูงที่สุดนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินในปี 2008
ดัชนีในตลาดที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง เนื่องจากคาดว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะเลวร้ายลงเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นและสหราชอาณาจักรเผชิญกับภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงปี 2023 จากระดับปัจจุบันที่ 3.5% ไปจนถึงสูงสุดที่ประมาณ 4.75% ซึ่งยิ่งกดดันความต้องการบ้านของผู้บริโภค
ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ราคาบ้านลดลงระหว่าง 5% ถึง 12% ในปี 2023 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ราคาบ้านอาจตกต่ำถึง 15% ถึง 20%
ในขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีแนวโน้มลดลงอีกในปี 2023 ประมาณ 16%-18% จากจุดสูงสุด
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา