3 ม.ค. 2023 เวลา 01:32 • ความคิดเห็น

23 บทเรียนชีวิตของพี่จิ๋ม สุวภา เจริญยิ่ง

พี่จิ๋ม สุวภา เจริญยิ่ง เป็นทั้งเจ้านายคนแรกๆของผมและเป็นเหมือนพี่สาวที่คอยเป็นห่วงเป็นใย มีโอกาสดีๆอะไรก็จะมาชวนมาแนะนำ เมตตากับผมเสมอ พี่จิ๋มเป็นผู้หญิงเก่งมากๆคนหนึ่งของไทย เคยเป็น CEO บริษัทฝรั่งตั้งแต่อายุสามสิบต้นๆ เป็นที่ปรึกษาการเงินเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเกือบร้อยบริษัท ปัจจุบันไม่ได้ทำงานประจำแต่ก็เป็นบอร์ดในบริษัทใหญ่ๆอยู่หลายแห่ง
4
ในวัยย่างหกสิบของพี่จิ๋มที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ประกอบกับความใส่ใจในผู้คนและเรื่องราวชีวิต ประสบการณ์ที่หลากหลายและการเข้าใจโลกหลังจากทำงานอย่างหนักมาหลายสิบปี ทำให้บทเรียนชีวิตของพี่จิ๋มที่ตกผลึกจากเส้นทางแห่งความทะเยอทะยานจนมาสู่ความเข้าใจในธุรกิจ การทำงานและการใช้ชีวิตที่มีความสุขนั้นน่าอ่านและน่าเรียนรู้ตามเป็นอย่างยิ่ง
ปีใหม่นี้จึงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการนำเอาข้อเขียนบทเรียนชีวิตของผู้ใหญ่ที่ผมเคารพมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านเพจเขียนไว้ให้เธอและหวังว่าจะเป็นการเปิดปีใหม่ที่ดีงามสำหรับทุกท่านนะครับ…
1
“เมื่อฉันเป็น CEO ตอนที่อายุ 33” ประโยคนี้เป็นคำโปรยหลังปกหนังสือ Show me the money บอกสิจะมีเงินได้ยังไง หนังสือเล่มแรกในชีวิต รวบรวมบทความที่เขียนไว้ช่วงอายุ 30 เกี่ยวกับการออมการลงทุนด้วยการประกาศว่าเมื่อ ครบรอบอายุ 60 จะเขียนหนังสือ เล่าถึง เมื่อฉันเป็น CEO ตอนที่อายุ 33
1
มีความมุ่งมั่นแกมน่าหมั่นไส้ ที่คิดว่า อีก 30 ปีข้างหน้า คงมีเรื่องราวที่ได้แบ่งปัน คงมีแนวความคิดที่ลึกซึ้ง คมคาย ที่สมควรจดบันทึก แม้ว่า จากวันที่อายุ ได้ 33 จวบจนเลิกทำงานประจำ จะได้มีโอกาส นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดขององค์กร มาโดยตลอด ได้ทำงานร่วมกับคนที่เก่งๆ มีความรู้ ความสามารถ มากมาย
6
แต่ จนถึงวันนี้ที่ จะจากลา เลข 5 สู่ เลข 6 ความคิดที่อยากทำหนังสือเกี่ยวกับตัวเอง กลับลดน้อยถอยลงมาก แปรเปลี่ยนเป็นหนังสือ ในมุมตัวเองสู่ เรื่องราวผู้คนที่น่าสนใจกว่า
1
แต่เพื่อไม่ผิดคำพูด ที่ประกาศออกสื่อ เลยลดทอนมาเป็นบทความนี้แทนและนี่คือเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต ของคนบ้างานคนนึง ที่เหลือเชื่อว่าสิ่งสำคัญเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผ่านมา 30 ปี แทบไม่เปลี่ยน
1. ความผิดหวัง คือ แรงผลักดันที่มหาศาล
6
ความผิดหวังที่รุนแรงที่สุด คือ การที่ไม่เคยเตรียมใจ หรือ คิดว่าจะผิดหวังและที่แย่ที่สุดคือการ ที่ทำให้คนที่รักเราผิดหวัง
5
มันเศร้ามาก มันเด่นชัดตอกย้ำ และวันที่ไม่มีใคร ครอบครัวที่เคียงข้างจึงสำคัญที่สุดจนตั้งใจว่าจะต้องไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังอีก
7
จากตรงนั้น จึงกลายเป็นแรงผลักดันที่มหาศาล มากมาย และอยากตะโกน ดังๆว่าไม่ต้องกลัว ความผิดหวัง ยิ่งเจอตอนอายุน้อยๆยิ่งดี และขอให้กำลังใจพ่อแม่ทุกคนที่กล้าสอนให้ลูกผิดหวัง
3
2. ประสบการณ์ เป็นครูที่ดี พอๆกับหนังสือนับร้อยเล่ม
1
ถ้าอยากมีความรู้ ก็เริ่มต้นจากการอ่าน เราจะพบว่าคนเก่งๆรักการอ่านทุกคนแต่สิ่งที่เพิ่มเติม คือ อ่านหนังสือนับร้อยเล่ม แต่ไม่เคยหัดทำข้อสอบ ทำข้อสอบ แต่ไม่เคยจับเวลา จับเวลาแต่ไม่เคยทำโจทย์พลิกแพลง และถึงจะซ้อมมามากมาย แต่ไม่เคยลงสนามจริง
5
เรื่องราวในชีวิต มันต้องล้มจริง เจ็บจริง มันถึงจะ เป็น ประสบการณ์ สิ่งที่ ใช้เป็นบทเรียนที่ดีได้ คือ ล้มเร็ว ลุกเร็ว ไม่ใช่ล้มเร็ว เจ็บเร็ว เจ็บก่อน
3
3. เวลาเป็นต้นทุนที่สำคัญมาก
2
ผ่านมาถึงจุดนี้ ค่อยตระหนักรู้ว่า ของที่แพงที่สุด คือ สิ่งที่เงินซื้อไม่ได้และในเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่แพงมาก คือ เวลา
2
เพราะทุกคนมีเวลาในชีวิตที่จำกัด แถมยังไม่รู้ว่าเวลาแต่ล่ะคนเหลืออยู่เท่าไหร่ เมื่ออายุล่วงเลยผ่านเลข 5 ก็เตือนตนเสมอว่า หนทางข้างหน้าน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมาแน่นอน จากนี้การใช้เวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ
2
4. Book Smart กับ Street Smart กับการประสานจุดแข็ง
1
มีประสบการณ์แต่ไม่เติมความรู็ ก็เหมือนมีดที่ไม่เคยลับ วันนึงก็หมดความคม คนที่มีแต่ความรู้แต่ไม่กล้าลอง ก็เหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน สุดท้ายไม่รู้จริงๆว่าความรู้ที่มีอยู่นั้นรู้จริงทำงานได้รึเปล่า ชีวิตจริง ไม่ใช่โต้วาที ไม่ต้องเลือกข้าง ไม่ต้องยึดติดกับทฤษฎีใด
6
การเรียนรู้ไม่ว่าวิธีใด อ่านหนังสือ นั่งฟังคนเก่งคุยกัน ล้วนเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น เราควรใช้ในจุดที่ดี ของทุกสิ่ง เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดีที่สุด
3
5. เสริมจุดแข็ง เสริมจุดแข็ง เสริมจุดแข็ง
1
ชัดเจนที่สุด เก่งตรงไหนไปตรงนั้น. ชำนาญอะไรก็ทำให้ดีที่สุด ทำงานกับใครแล้วดี ก็ไม่ต้องขวนขวายไปไหนอีก
8
6.ฝึกตั้งคำถาม ฝึกเตรียมคำตอบ
1
สิ่งที่นางงามเวเนซูเอลล่าชนะมากที่สุด เพราะพวกเธอฝึกตั้งคำถาม เป็นพันๆข้อ เพื่อเตรียมสำหรับคำถาม 3 นาที บนเวที ฉะนั้นการตอบก็สำคัญ จึงต้องฝึกตอบ อีก หลายพันข้อ เพื่อที่จะได้คำตอบที่ตรงประเด็นและประทับใจ
5
ชีวิตการ pitch งานเป็นพันๆครั้ง สัมภาษณ์และถูกสัมภาษณ์ ที่รอดได้ก็เพราะ การถูกฝึกในเรื่องเหล่านี้ ใครที่เคยทำงานด้วย คงคุ้นกับ FAQ ที่หนาเป็นปึก
1
7.เปิดต้องสวย ปิดต้องประทับใจ
เริ่มต้นสวยไม่เท่าปิดประทับใจ แต่ที่จริงต้องสวยทั้งตอนเปิดและปิด ไม่มีอะไร สำเร็จได้จากโชคช่วย อาจมีดวงดาวมาช่วยบ้าง
1
แต่เนื้อแท้หนีไม่พ้น ความสำเร็จ มาจากคนที่เตรียมพร้อมเมื่อโอกาสมาถึง และถ้าเตรียมตัวได้ดีพอก็ ไม่ต้องรอโอกาส ออกไป หาโอกาสเองได้
3
8.คู่แข่ง คือ ยาชูกำลัง
2
ตอนแรก ก็เหมือนกินยาขม แต่พอเปลี่ยนมุมมอง ก็เห็นภาพที่แตกต่าง เลยสังเกตความเก่งของเขา น่าทึ่งมาก ทำไมเขาทำได้บนต้นทุน ที่ต่ำกว่า ในเวลาที่รวดเร็วกว่า เขาเติบโตแบบไหน ลูกค้าเป็นใคร และหาคนจากที่ไหน เขาฝึกคนอย่างไร ยิ่งดูยิ่งสนุก ยิ่ง research ยิ่งน่าค้นหา เห็นเขาทำอะไรใหม่ก็ให้ตื่นเต้น เลยพบว่า ยาชูกำลัง ไม่ต้องไปหาจากที่ไหนเลย
3
9. การถูกลูกค้าตำหนิ คือ คำชม
คนไม่รู้จักกัน ใครอยากมาเสียเวลา เรียกอีกคนมาดุด่าว่ากล่าว ทุกเวลาเป็นเงินเป็นทองกันทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครเสียสละเวลาที่มีค่าของเขาให้ เราต้องมีสมาธิ รับฟังโดยไม่โต้ตอบ จดจำ เรื่องราว และนำมาประมวลผล หาทางแก้ไข รับผิด แล้วตอบกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมคำขอบคุณด้วยใจ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวเช็คขั้นตอนการทำงาน operation procedure ที่ดีมากๆ
2
10. ลูกน้องที่ดี กับลูกน้องที่น่ากลัว มีค่าพอๆกัน
แม้จะชอบบอกว่าเลือกลูกน้องที่หน้าตา แต่ความจริงแล้วเลือกที่แววตาต่างหาก และพบว่า จะผิดพลาดน้อยมาก เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจที่แท้จริง เนื่องจากสายงานที่ทำ มันกินพลังงานชีวิต ของผู้คนเป็นอาหาร ถ้าใจไม่พร้อมก็ไม่ควรเสียเวลา
2
ส่วนที่ว่าลูกน้องจะดีหรือน่ากลัวล้วนมีค่า เพราะลูกน้องที่ดี จะทำให้รู้ว่า เราทำอะไรถูก ส่วนอีกแบบก็เหมือนกระจกสะท้อนว่า มีอะไรที่ไม่ถูก และเห็นข้อบกพร่องของเราได้ชัดเจน อยากรู้ว่า คนนี้เป็นนายที่ดีไหม ขอให้ดูที่ลูกน้องของเขา
5
11. สัดส่วนที่ดี ก็คือสัดส่วนที่ดี
มีเงินเท่าไหร่ดี ควรกันเงินเท่าไหร่เพื่อไปเที่ยว ทำงานถึงอายุเท่าไหร่ เมื่อไหร่ควรแต่งงาน ซื้อบ้านแบบไหน ใช้ชีวิตในเมืองหรือต่างจังหวัด อยู่แบบ luxury หรือ simplicity คำถามเหล่านี้ มีมาตลอดชีวิต
1
ชีวิตจริง ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จ ไม่มีใครตอบเรื่องนี้ได้ดีกว่าตัวเอง แค่ไม่มีหนี้ที่ใช้คืนไม่ได้ มีงานหรือการลงทุนที่มีรายได้ พอเลี้ยงตัว ดูแลคนได้ มีสุขภาพแข็งแรง อยู่ท่ามกลางคนที่รัก สัดส่วนนี้ดีที่สุดแล้ว …เรื่องราวของกิจการ ก็เช่นเดียวกัน
7
12 ทำงานให้คนรัก กับ ทำงานให้คนเกลียดยากพอๆกัน
1
เพราะการทำงานให้คนเกลียด มันต้องเบอร์ไหนถึงจะแรงพอ แต่การทำให้คนรัก ก็มีคนบอกว่า จ้างมาทำงานไม่ได้จ้างมารักกัน ต้องเป็นเบ๊ฝ่ายมั้ง เราเลยมักจบกันที่กลางๆ ไม่รักไม่เกลียด ต่อหน้าก็ยิ้มแย้ม ลับหลังก็นินทาเล็กน้อย
2
แต่ถ้าอยากให้เป็นที่จดจำ มันต้องสุดทาง เพราะในการทำงาน มันมีเรื่องที่ต้องทั้งประสานงาน และประสานงากันอยู่แล้ว
1
ยอมถูกเกลียดเพราะยึดมั่นในหลักการ ทำอะไรด้วยเหตุผล ยอมหักไม่ยอมงอ แต่ก็สามารถ เปลี่ยน เป็นคนที่รัก โดยอย่าลืมให้ใจ ช่วยตัดสิน เพราะอยากได้ใจ ต้องให้ใจ และมองความสำเร็จของงาน ไม่ใช่ เสร็จ แค่งานส่วนตน
2
13. ธุรกรรมทำเกิน ทำให้เต็มที่ ตราบเท่าที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น
4
อยากแก้ presentation ให้งานเนี้ยบขึ้น ทำเลย เปลี่ยนเป็น 10 ครั้งก็ได้ แต่อย่าทำให้ทีมไม่ได้หลับไม่ได้นอน 3 วัน 3 คืน เพื่อความสวยขึ้นโดยเนื้อหาแทบเหมือนเดิม
7
การทำเกิน คือ คิดเผื่อ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าเป็นเรา เราอยากได้อะไรเพิ่มขึ้น ทำโครงสร้างบริษัท ก็ลองดู หลายรูปแบบ ดูผลกระทบดูค่าใช้จ่าย เงื่อนเวลา เชื่อเถอะว่าถ้าสามารถ ส่งมอบได้เกินกว่าที่รับปาก อย่างไรผู้รับก็รู้สึกดี
1
14. การส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ในทุกช่วงเวลา
ถ้าเข้าใจได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้า สำคัญที่สุด ทุกอย่างที่คุณทำได้ คือ ส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ในเวลานั้น ออกไป ไม่ว่า การใส่ใจ การตอบรับ และการรับปาก ในเรื่องที่สำคัญ
1
แม่ค้าขายไก่ทอด จะมีลูกค้ามาไม่ขาดสาย ถ้าเธอเลือกชิ้นที่ดีที่สุดตรงหน้าให้เสมอ เพราะลูกค้าคนถัดมาก็จะได้ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดตรงหน้าอยู่ดี
6
15. การมีเพื่อนดี เป็นเรื่องสำคัญมาก
3
เพื่อนดีๆ ต้องรักษาไว้ ให้มั่น ดูแลเกื้อกูลกันตลอดไป การยืมเงินเพื่อน ลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน ชวนกันเล่นหุ้น ชวนมาทำงานด้วยกัน มีความเสี่ยงสูง ที่จริงไม่ใช่จะมีปัญหากันทุกคู่ ถ้ารักและรักษาน้ำใจกัน
2
16. ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ เราต้องทุ่มเท
2
และเรื่องแบบนี้ ไม่มีทางลัด ไม่มีทางเรียบให้เดิน ทุกคนอยากมีประตูลับ เปิดออกไปปัง ประสบความสำเร็จเลย
บอกตรงๆ ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอาจง่ายกว่า การทำงานทุกจุด ไม่ว่าจะพึ่ง เริ่มทำงาน ทำไปได้ 2-3 ปี หรือทำงานเป็น 10 ปี เราจำเป็นที่จะต้องทุ่มเท ต้องลงมือทำ และทำอย่างตั้งใจ ยิ่งการเป็นหัวหน้างาน ถ้าคุณไม่พร้อมจะทุ่มเท คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ ลุกขึ้น และให้ คนอื่นทำแทน
4
17. ครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ
1
ครอบครัวมีความสำคัญมาก แต่คุณต้องจัดเวลาต้องวางแผน เพราะเราไม่มีสิทธิให้คนอื่นรอ เพราะเรื่องส่วนตัวของเรา
1
ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไม่มีเขาก็ไม่มีเรา. และถ้าครอบครัวไม่เอาคุณ ก็ไม่รู้จะทำอะไรไปเพื่อใคร
3
แต่ Work life balance ไม่ใช่ทำงานบ้างเที่ยวบ้าง หากเป็นการต้องทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จ แล้วจึงไปเที่ยวได้ ทำงานเสร็จก็จัดเวลาพักผ่อน
2
18. การลดราคา ตัดราคา ไม่เคยเป็น กลยุทธที่ยั่งยืน
1
ประเภทลดราคางานนี้ เผื่อทำงานหน้าด้วยกันอีก ไม่เคยมีงานหน้า งานหน้าก็ต่อราคากันอยู่ดี สู้บอกตรงๆว่า ราคาเท่านี้ แล้วถ้าเราทำได้ดี งานหน้าช่วย พิจารณา เราด้วย
1
เพราะไม่มีทางมีงานหน้า ถ้างานวันนี้ทำไม่ดี และถ้าเราต้องทำบนงบที่เรารู้ว่าทำไม่ได้ โอกาสที่จะได้งานดี หาแทบไม่เจอ เราผิดหวัง ลูกค้าผิดหวัง งานหน้าไม่มี
1
19. เรื่องที่คนอื่นทำได้ เราก็ควรทำได้
1
ต่อเนื่องว่า ราคาที่เราทำไม่ได้ แต่คนอื่นทำได้ งานที่เราทำไม่ได้ ทำไมคนอื่นทำได้ ก็ต้องมาหาสาเหตุ ว่าเพราะอะไร
1
เขาสายป่านยาวกว่า เขาทำได้เร็วกว่า เขาแม่นกว่า เขาตีโจทย์แตกมากกว่าเรา หรือเราปล่อย จนต้นทุนบวมไปหมด
1
ถึงจะรู้ว่าทำไม่ได้เหมือนเขา ถึงจะแพ้ แต่อย่างน้อยรู้ตัวว่าแพ้เพราะอะไร
1
20. ความฉลาดมีกันทุกคน แต่เพิ่มความเฉลียวบ้าง
1
ถ้าทุกอย่างไม่เป็นตามแผนจะแก้ไขอย่างไร ความฉลาดคือ การวางแผน เตรียมขั้นตอน แต่ความเฉลียว คือ การรับมือ หากสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นไปตามแผน
1
21. ความไม่มีเหตุผล คือ เหตุผล
เรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลย กลับเป็นเหตุผลในทุกเรื่อง ทำไมวู่วาม ทำไมไม่ใช้เหตุผล ทำไมเราเสนอสินค้าที่ดีที่สุด ราคาถูกสุด ยังไม่มีใครเอา เพราะนั่นเป็นเหตุผลของเรา ไม่ใช่เหตุผลลูกค้า
2
สินค้าดีที่สุดวัสดุทนทาน ใช้ได้นานปี ราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับต้นทุน แทบไม่มีกำไร แต่ลูกค้า กลับชอบของมีดีไซน์ ราคาไม่แพงมากเปลี่ยนได้บ่อยๆ ความไม่มีเหตุผลที่เรามองคนอื่น คือเหตุผลของเขา ขณะที่เหตุผลของเรา ก็อาจถูกมองว่า ไม่มีเหตุผลจากคนอื่นเช่นกัน
22. กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ
สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ของคนเป็นนาย คือ กล้าตัดสินใจ และความรับผิดชอบสิ่งที่ตามมา แต่การตัดสินใจที่ดี จะมาจากการฝึก สังเกต และ ความรอบรู้ จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้
1
การคิดแบบเป็นระบบ critical thinking การคิดแบบวิเคราะห์ เข้าใจปัจจัยเหตุและผล ส่วน ความรู้ที่จะเปลี่ยนจาก facts —>data—>information—>decision making เป็นการจัดลำดับข้อมูลที่น่าสนใจ สู่การตัดสินใจ เป็นเรื่องของวิธีการของแต่ละคน
23. ความสุขของเรา มาจากคนรอบข้างมีความสุข
สมัยก่อน อยากทำอย่างนี้ มองว่าไม่ได้เบียดเบียนใคร เรามีความสุข คนที่เรารักมีความสุข แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
แต่พอเปลี่ยนความคิด เพิ่มเติม คือ ถ้าสิ่งที่เราทำ ทำให้คนรอบข้างมีความสุขด้วย เรากลับพบว่า ตัวเองมีความสุข มากยิ่งกว่า
2
ใครมาขอให้ช่วยอะไร ให้ได้ ก็อยากทำให้ทันที เห็นเขาแก้ปัญหาได้ มีความสุขขึ้น แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แล้วผลของมันก็ส่งต่อเราไปสู่ งานที่ทำแล้วมีความสุขมากขึ้น เหมือนเราส่ง พลังงานบวกออกไป เขาก็ส่งพลังงานนั้นกลับคืนมาได้มากขึ้นอีก
1
ปีใหม่ 2566 คงเป็นปีที่ท้าทาย ของใครหลายต่อหลายคน และรวมทั้งของตัวเองด้วย
2
ขออนุญาต ส่งคำอวยพรและความปรารถนาดี ไม่เจ็บไม่จน ให้แก่ทุกท่าน
ส่วนท่านที่ส่งคำอวยพรมา ก็ขอให้พรนั้น ย้อนคืนกลับทบเท่าทวีคูณ
1
มีความสุขมากๆทุกคนนะคะ
1
สุวภา เจริญยิ่ง…
2
โฆษณา