1. ผู้บังคับบัญชา ตั้งคำถามว่า "อุปสงค์เท่ากับอุปทานนี่ ภาษาศศ.เขาเรียกอะไรรู้ป่ะ? เขามีศัพท์ว่าไงนะ?" ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า "ดีมานด์ซัพพลายครับท่าน"
ถ้ามองด้วยใจเป็นกลาง ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ตอบผิดค่ะ เพราะเมื่ออุปสงค์เท่ากับอุปทาน จะเกิด "ดุลยภาพของราคา" นี่คือคำตอบที่ถูกต้องและตรงไปตรงมาในฐานะนักวิชาการ
2. ประโยคหมิ่นแคลนที่ถัดจากบทสนทนาเริ่มต้น คนที่เป็นถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง และโดยเฉพาะเป็นการประจานต่อหน้าธารกำนัล ตรงนี้ ผู้บังคับบัญชา บกพร่องเรื่อง Soft Skill สำคัญอย่าง emphaty
ถ้ามองแบบคนวงใน เมื่อผู้บังคับบัญชา ทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชา จบจากสถาบันเดียวกันกับตน เท่ากับเป็นรุ่นน้องคนหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาที่เรามักจะพบเห็นว่า รุ่นพี่มักจะคอยสั่งสอนรุ่นน้อง เพื่อรักษาความเป็นกลุ่มก้อนของตน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฉายาว่า "สิงห์ดำ" คือกลุ่มคนที่จบรัฐศาสตร์ CU และกลุ่มคนที่จบรัฐศาสตร์ TU จะเรียกว่า "สิงห์แดง"
3. ผู้บังคับบัญชา พูดขึ้นว่า "อุปสงค์เท่ากับอุปทาน เขาเรียกว่าตลาดสัมบูรณ์" คำว่าสัมบูรณ์นั้น มีที่มาจากการแปลตำราศศ.จากตำราภาษาตปท. และเพื่อให้มีความหมายว่า "ยิ่งกว่าสมบูรณ์" ผู้แปล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ที่จบมาจากต่างประเทศ จึงเลือกใช้คำว่า สัมบูรณ์ ในตำราศศ.ไทยนั่นเอง
จากคำกล่าวนี้ ของผู้บังคับบัญชา ไม่ได้สอนผิด แต่ควรเรียกว่าสอนพร่อง (ตามที่ได้อธิบายในข้อ 1)
คำว่าตลาดสัมบูรณ์ ในภาษาปาก มาจากคำว่า ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ในภาษาตำรา Perfect Competition Market จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อ "ในตลาดนั้นๆ มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ที่สามารถจะรู้และเข้าถึงข้อมูลสินค้าในตลาดนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่มีอุปสรรคหรือการแทรกแซงจากกลไกภาครัฐ ต่างฝ่ายสามารถเข้า-ออก จากตลาดได้โดยเสรีที่สุด สินค้าที่ซื้อขายในตลาดนั้น ทดแทนกันได้โดยสมบุรณ์ที่สุด" ถ้าองค์ประกอบทั้งหมดนี้เกิดขึ้น "โดยสมบูรณ์" ก็จะทำให้เกิดจุดดุลยภาพของราคา ณ จุดที่ดีมานด์เท่ากับซัพพลาย นั่นเองค่ะ
ดังนั้น การที่ผู้บังคับบัญชา กล่าวสรุปว่า "การที่คุณบอกว่าความต้องการของราชทัณฑ์ เท่ากับ ซัพพลายของภาคเกษตรนั้น มันไม่ใช่! ถ้าใช่! คุณจะต้องพาสินค้าเกษตรออกนอกทำไมเล่า ถ้าคุณมีตลาดสมบูรณ์แล้ว คุณไม่ต้องช่วยอะไรแล้ว!" จะเห็นได้ว่า ผู้บังคับบัญชา ก็มิได้กล่าวสอนผิดแต่อย่างใดเลยนะคะ
คำหมิ่นแคลนถัดจากนี้ ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะพูดออกมา แต่ที่ผ่านมาน่าจะเคยพูดบ่อยจนเคยชิน จนมาถึงยุคนี้ที่มีเครื่องมือสังหารอย่างโซเชี่ยลมีเดีย ....
คำพูดจึงเป็นนายเสมอ
คำพูดฆ่าคนอื่นก็ได้ ฆ่าตัวเองก็ได้
และบทเรียนนี้ ก็คือสิ่งที่คนภายนอก
ควรจะเรียนรู้ไว้เพื่อสอนตนเองมากกว่าจะดราม่าค่ะ
Chen Eing
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
