3 ม.ค. 2023 เวลา 06:46
ฎีกาที่ 677/2563
ในชั้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้องเสียให้บริบูรณ์แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี นั้น เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 (2) คดีย่อมเสร็จเด็ดขาดไปจากศาลอุทธรณ์ภาค 8
โดยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ชอบที่จะยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียด้วยและสั่งคืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 วรรคหนึ่ง แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มิได้สั่งให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ต้องถือว่าอุทธรณ์ของโจทก์ตกไปในตัว เพราะกระบวนพิจารณาต้องไปเริ่มที่ศาลชั้นต้นใหม่ เมื่อศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจาณาให้ทนายโจทก์ลงลายมือชื่อในช่องผู้เรียงพิมพ์ในคำฟ้องบริบูรณ์แล้วพิพากษายกฟ้อง
หากโจทก์ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป โจทก์ต้องทำอุทธรณ์มายื่นใหม่ ซึ่งศาลชั้นต้นมีหน้าที่ตรวจอุทธรณ์และมีคำสั่งให้ส่งหรือปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์นั้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 การที่โจทก์อุทธรณ์โดยขอถือเอาอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ยื่นไว้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาใหม่และตกไปแล้วเป็นอุทธรณ์ของโจทก์
จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีเช่นนี้ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 ตามบทบัญญัติดังกล่าว และมีคำสั่งให้โจทก์ทำอุทธรณ์มายื่นใหม่ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิจารณาตามความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีอำนาจยกอุทธรณ์ของโจทก์ได้ก็ตาม
แต่อุทธรณ์ที่ไม่ชอบนั้นเกิดจากการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ที่มิได้สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ตั้งแต่แรก เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นผิดหลงส่งอุทธรณ์ที่ตกไปแล้วไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 และศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกอุทธรณ์โดยไม่ให้โอกาสแก่โจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเพื่อให้โจทก์ทำอุทธรณ์มายื่นใหม่ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งที่โจทก์ยังประสงค์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นอยู่ จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่นอุทธรณ์อันเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา (พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 และยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ทำอุทธรณ์มายื่นใหม่ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดและส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยแก้ เสร็จแล้วให้ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิจารณาพิพากษาใหม่ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งสองครั้งทั้งหมดแก่โจทก์)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา