2. ความโปรดักทีฟ กลายเป็นค่านิยมที่ทุนนิยมดูจะชื่นชอบ เพราะมันสร้างผลงานได้มากกว่า สร้างกำไรได้มากกว่า และทำให้เราและบริษัทเป็นผู้ชนะในตลาด เราผู้ติดอยู่ในค่านิยมเหล่านี้จึงยัดสิ่งที่ต้องทำมากมายเข้ามาโดยที่เวลาของเราไม่ได้เพิ่มเลย เหมือนเราถูกเชปให้เป็นนักล่า to do list
3. ปัญหามันอยู่ที่ว่าเวลาเราไล่ล่า to do list จนเสร็จเรียบร้อย เราเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่มองหา to do litst อันถัดไปตลอดเวลา บางครั้งเราทำเสร็จโดยที่ไม่ได้รู้สึกดีอะไร บางครั้งทำไปเพื่อให้มันเสร็จ ไม่ได้ผูกพันหรือสัมผัสคุณค่าของสิ่งที่ทำ เราผลาญเวลาเหล่านี้ไปกับสิ่งที่เราไม่อยากทำ เราบรรลุค่านิยมของสัมคม แต่ไม่เติมเต็มความอยากมีชีวิต หรือเป้าประสงค์ของการมีชีวิตของเราเลย สุดท้ายเรารู้สึกกลวงเปล่าและเหนื่อยล้า
4. เราสรรหาเครื่องมือบริหารเวลา หรือเทคโนโลยีประหยัดเวลามามากมาย ซึ่งก็ช่วยได้แหละ แต่มันเป็นการยัด to do list เข้าไปให้มากขึ้นในเวลาที่มีเท่าเดิม สุดท้ายมันไม่ได้ทำให้เราสบายขึ้นเลย แต่กลับยุ่งมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ