4 ม.ค. 2023 เวลา 13:01
ฎีกาที่ 4569/2562
ตามคำพิพากษาระบุไว้ชัดเจนว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่ชำระหนี้ให้ยึดที่ดินทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 1 และของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ ดังนั้น การที่โจทก์รับชำระหนี้จากจำเลยที่ 1 ภายหลังทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับจำเลยทั้งสามจึงเป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาในลำดับแรกแล้ว กรณีไม่จำต้องนำที่ดินทรัพย์จำนองจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดเพราะเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะใช้สิทธิเรียกร้องในฐานะเจ้าหนี้สามัญหรือจะบังคับจำนองอย่างใดอย่างหนึ่งก็ย่อมทำได้
การที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมรับชำระหนี้และไถ่ถอนจำนองที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 ย่อมทำให้หนี้ของจำเลยที่ 1 ที่ชำระหนี้ในการไถ่ถอนจำนองระงับลงเท่าจำนวนที่ชำระหนี้ ซึ่งมีผลถึงจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่เป็นลูกหนี้ร่วมตามคำพิพากษาด้วย แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ตกลงปลดหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 หนี้ของจำเลยทั้งสามจึงยังไม่ระงับสิ้นไป
หนี้ยังเหลืออยู่อีกจำนวนเท่าใดจำเลยทั้งสามยังคงต้องรับผิดร่วมกันอยู่ทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291 บัญญัติว่า ถ้าบุคคลหลายคนจะต้องทำการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิงไซร้ แม้ถึงว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงได้แต่เพียงครั้งเดียว (กล่าวคือลูกหนี้ร่วม) ก็ดี เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้แต่คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก
แต่ลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระหนี้เสร็จสิ้นเชิง ดังนั้น เมื่อปรากฏว่า จำเลยที่ 3 ยังชำระหนี้ส่วนที่ตนต้องรับผิดไม่ครบและโจทก์ยังมิได้รับชำระหนี้เสร็จสิ้น โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงเรียกให้จำเลยที่ 3 ชำระหนี้สิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ย่อมได้
โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 3 ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป การกระทำของโจทก์จึงเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนในคำพิพากษาแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อาจปฏิเสธการยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ได้ (พิพากษากลับ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 86062…เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา