5 ม.ค. 2023 เวลา 03:46
ฎีกาที่ 4725/2562
คำพิพากษาในคดีเดิมถึงที่สุดกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติตามคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่จดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสองกึ่งหนึ่ง โดยให้ตกลงแบ่งกันระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยทั้งสี่ก่อน หากตกลงกันไม่ได้ให้ประมูลกันระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยทั้งสี่ ให้ฝ่ายที่เสนอราคาสูงสุดเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ไปทั้งหมด
หากตกลงประมูลราคากันไม่ได้ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วนำเงินมาแบ่งกันระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยทั้งสี่ ดังนั้น โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสี่จึงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ในคำพิพากษา เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสี่ไม่อาจตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทระหว่างกันได้
อีกทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสี่มีการประมูลราคาที่ดินพิพาทระหว่างกัน ดังนั้น เมื่อการบังคับตามคำพิพากษาไม่อาจดำเนินการได้ตามลำดับขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364
การที่โจทก์ทั้งสองขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้ดำเนินการยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาแบ่งกันระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยทั้งสี่ จึงชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่มีเหตุให้เพิกถอนหมายบังคับคดีหรืองดการบังคับคดีแต่อย่างใด กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยที่ 3 เนื่องจากไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป (พิพากษายืน (ยกคำร้อง))

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา