8 ม.ค. 2023 เวลา 06:42 • ประวัติศาสตร์

หลี่กงกง จากชายเสเพลสู่มหาขันที

หลี่เหลียนอิง
ขันทีหลี่รับใช้พระนางซูสีไทเฮาตั้งแต่ 1869ถึง 1908 เรียกได้ว่าเขาอยู่รับใช้จนว่าระสุดท้ายของพระนาง ขันทีหลี่เขามารับช่วงต่อจาก ขันทีอานเต๋อ หลังขันทีอานเต๋อต้องอาญาแผ่นดินถูกประหารชีวิตในปี 1869 หลังพระนางซูสีไทเฮาสวรรคตในวัย 73 ขันทีหลี่ก็ปลดระวางจากหน้าที่
หลี่เหลียนอิง ขณะยังรับใช้พระนางซูสีไทเฮา
จากหนังสือ เรื่องลับๆจากปากขันที ที่เรียบเรียงเรื่องเล่าจากขันที รุ่นสุดท้าย กล่าวว่า ขันทีหลี่ หรือ หลี่กงกง มีชื่อแรกว่า หลี่อิงไท่ ต่อมาเขาก็เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น หลี่จินสี ส่วนชื่อที่เป็นที่รู้จักกันนั้น คือ หลี่เหลียนอิง เป็นชื่อที่พระนางซูสีไทเฮาเปลี่ยนให้เขา หลังเข้ามาถวายงานรับใช้ มีความหมายว่า คู่บุญ
ว่ากันว่า ชายหนุ่มแซ่ หลี่ ผู้นี้ใช้ชีวิตเสเพล ชื่นชอบการพนัน ดื่มสุราเมามาย เขาหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพ คนฟอกหนัง ในชนบท แต่ด้วยความที่ เขาติดการพนันทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้มากมาย ในที่สุดชายแซ่หลี่ผู้นี้จับพลัดจับผลู เดินทางมายังนครปักกิ่ง (คาดกันว่าหลี่หนีเจ้าหนี้มา)
เมื่อโชคชะตาพามาที่ปักกิ่ง โชคชะตายังพาให้ หลี่ มีโอกาสได้รู้จักมักคุ้น พวกขันทีสูงวัยหลายคนที่ทำงานอยู่ในราชวังต้องห้าม เรื่องราวในวังมากมายถูกเล่าผ่านปากขันทีเฒ่าพวกนั้น
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ ชี้ให้ หลี่ ได้เห็นถึงโอกาสยิ่งใหญ่
1
นั่นคือ พระนางซุสีไทเฮาทรงเปลี่ยนตัวขันที ที่มีหน้าที่ดูแลทรงผมพระนางอยู่บ่อยๆ ไม่มีขันทีรายใดจะสามารถ จัดแต่งทรงผมพระนางให้เป็นที่พอพระทัย​ได้ ส่วนใหญ่ขันทีเหล่านั้นจะถูกเอ็ดตะโร หรือเรียกตัวไปลงโทษ ในบรรดาเหล่าขันทีไม่มีผู้ใดอยากรับผิดชอบหน้าที่นี้ ด้วยเหตุนี้เอง หลี่ เห็นถึงโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตล้มเหลวของเขาสักที การเข้าถึงหญิง ผู้มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หลี่ มีความคิดที่จะเข้าทำงานในราชวังต้องห้าม ในฐานะขันที แต่อายุเขาในขณะนั้นน่าจะประมาณ20ต้นๆแล้ว ถือว่าเกินเกณฑ์ค่าเฉลี่ยการผ่าตัดอัวยะเพศของขันทีมามาก โดยช่วยใหญ่จะเริ่มการตัดเมื่ออายุ 8-10ปี ยิ่งอายุมาก การผ่าตัดอวัยะเพศในสมัยนั้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หลี่ยอมแพ้ เขาขอให้พวกพ้องขันทีสูงอายุช่วยแนะนำผู้ที่มีฝีมือดี ทำการผ่าตัดอวัยวะเพศให้เขา
ก่อนทำการผ่าตัด หลี่ ยังหาผู้ที่มีความสามารถทำผมสตรีมาสอนตนเอง ด้วยความที่หลี่ ผ่านชีวิตเสเพลมามากพอสมควร เขารู้ว่าจะหาคนสอนได้จากไหน หลี่ เดินทางไปเที่ยวตามหอนางโรมต่างๆ เพื่อขอให้เหล่านางโรมสอนการทำผมสวยๆของพวกนางให้เขา ประกอบกับพื้นฐานอาชีพฟอกหนังที่เคยทำ ทำให้ หลี่ คุ้นเคยกับขนสัตว์ นั่นช่วยเขาเรียนรู้การแต่งทรงผมสตรีได้ไม่ยากเย็น
เมื่อการผ่าตัด ผ่านพ้นไป หลี่ รอดชีวิตมาได้ หลังจากการพักฟื้นอยู่พักใหญ่
หลี่จินสี (ชื่อในขณะนั้น) ก็ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นขันทีในราชวังต้องห้าม แม้ว่าเขาจะถูกล้อเลียนอยู่บ่อยครั้งเรื่องอายุ
ที่มากกว่าขันทีใหม่ทั่วไป หลี่ ก็ไม่ยอมแพ้ มุ่งหน้าเรียนรู้ กฏมากมาย ในราชวัง ข้อปฎิบัติ การเป็นขันทีที่ดี
ในที่สุด ขันทีหลี่ ก็ได้รับโอกาส รับหน้าที่ จัดแต่งทรงผมให้พระนางซูสีไทเฮา เขาสามารถทำให้พระนางประทับใจในฝืมือได้ในทันที
อีกทั้ง ด้วยความที่ขันทีหลี่ ใช้ชีวิตนอกพระราชวังมานานกว่า ขันทีคนอื่นๆ เรียกได้ว่า ขันทีหลี่ผ่านโลกมาเยอะ เขารู้จักวิธีรับมืออารมณ์แสนเกี้ยวกราดของพระนางซูสีไทเฮาได้ดี เรียกได้ว่าจับทางพระนางได้ทุกทาง ทั้งยังสรรหาคำเยินยอพระนางได้ไม่ขาดปาก
มีเรื่องเล่าเม้ามอย กันถึงความปากหวานของ ขันทีหลี่
เมื่อพระนางซูสีไทเฮาทรงทำบุญปล่อยนก ปรากฏว่ามีนกที่บินออกไปย้อนกลับมาเข้ากรง
ขันทีหลี่ทูลพระนางว่า
"นี่เป็นเพราะพระเมตาของพระองค์ แม้แต่นก ยังปารถณาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร"
พระนางซูสีไทเฮา ทรงว่าขันทีหลี่ ประจบสอพอ
ขันทีหลี่จึงทูลต่อว่า
"ไว้ครั้งหน้า เมื่อทรงปล่อยปลา ปลาก็จะไม่ว่ายหนี นั่นจะเป็นเครื่องยืนยันคำพูดกระหม่อมได้"
เมื่อถึง วันที่พระนางซุสีไทเฮา ทำบุญปล่อยปลา ปลาพวกนั้นก็ไม่วายหนีจริงๆ สร้างความพอใจแก่พระนางซูสีไทเฮาเป็นอย่างมาก
แท้จริงแล้ว ว่ากันว่าเพราะขันทีหลี ได้แอบนำน้ำที่มีกลิ่นอาหารปลาเทไว้บริเวณที่พระนางจะทรงปล่อยปลา อีกทั้งยังงดให้อาหารพวกปลาที่จะถูกปล่อยมาสักพักทำให้พวกมันหิว เมื่อพวกมันถูกปล่อยลงน้ำ จึงว่าย วนบริเวณที่ได้กลิ่นอาหาร
1
และนี่คือเรื่องเล่าของ หลี่กงกงมหาขันทีคู่ใจซูสีไทเฮา ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
โฆษณา