16 ม.ค. 2023 เวลา 16:37 • ครอบครัว & เด็ก
วันที่หมอบอกแม่เราเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยู่ได้อีก 6 เดือน สิ่งที่ทุกคนกลัว คือ กลัวแม่รู้ว่าตนเองเป็นมะเร็ง กลัวจะรับความจริงไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ แม่เรายอมรับได้ และไม่สามารถปกปิดความจริงได้ เพราะต้องพาไปรักษา ไปคีโม ยังไงก็ต้องบอก แม่เราเป็นคนเก่ง ใช้เวลาที่เหลืออยู่ จัดการเรื่องหนี้สิน และ ทรัพย์สิน โอนย้ายบัญชีทั้งหมด แต่งตั้งผู้จัดการมรดก แถมแบ่งเงินมรดก ให้ยายใช้จนตายด้วย เรียกว่า คนตายเลี้ยงดูคนเป็น
ส่วนเราร้องไห้หนักมาก กลัวแม่จะตาย มันเป็นช่วงเวลาทุกข์ใจนะ ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง กังวลมากมาย ต่างกับแม่เรา ที่ทำใจได้ เวลาเจ็บปวดจากโรค ปวดกระดูก เพราะมะเร็งปอดลุกลามกินกระดูก แม่เราจะสวดมนต์ ทำสมาธิ และปล่อยวางทุกอย่าง
พี่สาวเราเป็นคนดูแล และพาไปหาหมอ พาไปคีโม พาไปรับเลือด เลือดจางก็เติมเลือด แล้วก็อยู่ได้ 6 เดือนจริงๆ ตามที่หมอบอก แม่เราสั่งเสียไว้ว่า ไม่ต้องปั้มหัวใจ ไม่ต้องยื้อเอาไว้
1
ก่อนตาย แม่เราเหงื่อออกท่วมตัวเลย เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมด แล้วก็อ๊วกเยอะมาก จนเหนื่อย อยากจะพัก แม่บอกไม่ไหวแล้ว ยังขอจุดธูปไหว้พระ ก่อนล้มตัวลงนอน แล้วขาดสติทันที เรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาล หมอบอกก้านสมองตาย ใช้เวลา 4 ชม. หลังจากนั้น หัวใจถึงหยุดเต้น
เมื่อปล่อยให้ตายธรรมชาติ ไม่ปั้มหัวใจ สภาพศพสวยมาก เหมือนคนนอนหลับ ภายนอกดูดี หน้าสวย แต่ข้างในมะเร็งลุกลามทั่วร่างกายแล้ว ตลอด6 เดือน เราร้องไห้หนักมาก แต่พอแม่ตายจริงๆ เราไม่ร้องไห้เลย เพราะทำใจมานานมาก รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง จึงยอมรับได้
โฆษณา