20 ม.ค. 2023 เวลา 08:30 • กีฬา

ชาตรี ศิษย์ยอดธง : ผมจะทำให้มวยไทยฟื้นกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ศึกมวยไทย "ONE ลุมพินี" กำลังจะเปิดฉากขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยช่วงเย็นวันนี้ … รายการนี้ถือเป็นอีเวนต์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เมื่อ ONE Championship เดินเครื่องพัฒนามวยไทยอย่างเต็มตัวโดยมีเวทีมวยลุมพินีเป็นฐานที่ตั้ง
ภายใต้คำประกาศกร้าวของบอสใหญ่ "ชาตรี ศิษย์ยอดธง" ว่าจะทำให้มวยไทยฟื้นกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมทุ่มเงินรางวัลก้อนโตและพลิกโฉมมาตรฐานการแข่งขันให้ต่างจากมวยไทยรูปแบบเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
จะน่าติดตามขนาดไหน ตลอดจนปัจจัยอะไรที่ทำให้ ONE ลุมพินี เป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันมวยไทยสู่ระดับโลก และความน่าสนใจของรายการนี้มีอะไรบ้าง ติดตามได้ที่ Main Stand
รายการที่ให้ค่าตัวสูงที่สุดในประเทศ
ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ONE Championship ประกาศว่าศึก "ONE ลุมพินี" จะเป็นเวทีที่ให้ค่าตัวนักมวยสูงสุดในประเทศไทย
ที่สำคัญรายการนี้ยังเป็นสังเวียนที่เปิดโอกาสให้นักมวยทั่วประเทศได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อก้าวต่อไปสู่ระดับโลก ซึ่งแชมป์โลกมวยไทยรายการของ ONE ทุกคนจะได้ค่าตัวสูงที่สุดในโลก เป็นเงินมากถึง 4 ล้านบาทต่อไฟต์ และมีโอกาสได้โบนัสเพิ่มเป็น 6 ล้านบาทหากต่อยดีเข้าตา
รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต, ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต และ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว แชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวต คือเหล่าบรรดากำปั้นไทยที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้
ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของชาตรีที่ต้องการสร้างนักมวยไทยให้กลายเป็น "ฮีโร่" เฉกเช่นสตาร์ชื่อดังระดับโลกในกีฬาอื่น ๆ
"นักมวยของเราควรเป็นฮีโร่ คุณเป็นแชมป์มากมาย เป็นแชมป์ลุมพินี เป็นแชมป์ราชดำเนิน แต่พอเลิกชกกลับไม่มีเงิน ไปเป็นคนขับตุ๊กตุ๊ก ไปเป็นยาม หรือแม้แต่ตอนชกเสร็จออกจากเวทีเดินข้ามถนนมาไม่มีใครมาถ่ายรูป ไม่มีใครมาขอลายเซ็น นี่ฮีโร่นะ ผมอยากช่วยนักมวยของเรา พวกเขาสมควรได้รับ"
"หลายคนมาจากครอบครัวที่ยากจน ทำไมไม่มีโอกาสหนีความจน เป็นคนดี กลายเป็นฮีโร่ มีบ้าน มีรถ มีเงินสด ผมอยากให้เพราะผมอยากสร้างฮีโร่จริง ๆ อยากเป็นแรงบันดาลใจให้เห็นว่าเขามีโอกาสหนีความจนและก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จได้"
"นี่คือโอกาสจริง ๆ สมมติมีเด็กอายุ 10 ขวบอยู่บุรีรัมย์ มีฝันที่จะหนีความจน คุณมีโอกาสจริง ๆ ใน ONE ตอนเขากลายเป็นฮีโร่ นักมวยไทยจะให้แรงบันดาลใจกับทุกคน"
"ไม่ใช่แค่นักมวย แต่ทุกอาชีพถ้าได้รับรู้เรื่องราวของนักมวยเหล่านี้ก็จะให้แรงบันดาลใจคุณ ให้ทำงานหนัก ให้ใจสู้ และนี่แค่เริ่มต้น อนาคตผมจะขึ้นค่าตัวให้นักมวยอีกเรื่อย ๆ แน่นอน" ชาตรี ยืนยัน
เซตมาตรฐานการชกใหม่
หากใครเคยดูการชกมวยไทยในศึก ONE Championship จะเห็นว่าการชกแต่ละไฟต์นั้นมีความดุเดือดมากกว่าการชกมวยไทยที่คุ้นเคยกันในบ้านเรา
ภายใต้แนวทางการให้คะแนนที่เน้นให้นักมวยเดินหน้าออกอาวุธแลกกันเป็นหลัก คนที่ออกอาวุธได้ดุดันจะเป็นผู้ที่ถือแต้มต่อมากกว่า ทำให้การชกแต่ละยกมีความน่าติดตาม และไม่น่าเบื่อเหมือนการชกที่อาศัยการเต้นดูเชิงกันเสียเป็นส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
ในศึก ONE ลุมพินีนั้นนักมวยจะสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ ซึ่งเป็นนวมขนาดเล็กที่ทำให้ออกอาวุธได้คล่องแคล่วว่องไว ชกกัน 3 ยก บนสังเวียนเชือกสีขาว
เกณฑ์การตัดสินและให้คะแนนมีความชัดเจน ถอดแบบมาจากศึก ONE Championship … หากไม่มีการน็อกหรือนับเกิดขึ้นจะพิจารณาให้คะแนนโดยดูที่ความเสียหายเป็นหลักทั้งแผลภายนอกและอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากการช้ำใน จนมาตัดสินกันที่ทรงมวยว่าใครมีความมุ่งมั่นและคุมเกมได้มากกว่ากัน
"เวลาชกคุณต้องชกด้วยความมุ่งมั่นว่าจะน็อกคู่ต่อสู้ ต้องชกให้จบ ไม่ใช่เต้นแล้วออก ชกแค่ยก 1 ยก 2 แต่ต้องมุ่งมั่นทุกวินาที ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นมวยบุก เป็นมวยสวยก็ได้แต่ต้องมีอาวุธที่หนัก มีความมุ่งมั่นที่จะน็อกคู่แข่ง เหมือนอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ แต่จะมาเป็นมวยฝีมืออยากเก็บคะแนนอย่างเดียวไม่ได้" ชาตรี เผย
นอกจากนี้กรรมการที่ใช้ยังเป็นผู้ตัดสินต่างชาติที่ทำหน้าที่และมีมาตรฐานเดียวกับศึก ONE Championship โดยเพิ่มกรรมการไทยที่ผ่านการอบรมอีกอย่างน้อย 1 คนขึ้นเป็นกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที พร้อมดึงกรรมการไทยอีกส่วนหนึ่งเข้ามาเรียนรู้งาน เพื่อโอกาสต่อยอดสู่การทำหน้าที่บนเวทีระดับโลกในอนาคต
"ผมพยายามให้ ONE เป็นกีฬาจริง ๆ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมามวยไทยไม่มีใครดูเพราะไม่ใช่กีฬา หลายคนเล่นการพนัน แล้วคนที่เล่นการพนันก็จ่ายกรรมการด้วย มันไม่แฟร์ การพนันไม่ใช่เรื่องผิด มีได้แต่ต้องเล่นนอกเวทีและไม่จ่ายกรรมการ"
"เราต้องทำให้สะอาด 100% การให้คะแนนต้องแฟร์ มีมาตรฐาน ไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่ ONE ลุมพินี" ชาตรี กล่าวหนักแน่น
ถ่ายทอดสดทั่วโลกทุกสัปดาห์
ในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา ONE ในฐานะผู้จัดและองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนก้าวขึ้นมารั้งอันดับ 4 กลุ่มสื่อกีฬาที่มียอดเข้าถึงทางทีวีและรับชมวิดีโอออนไลน์สูงสุด
ในปี 2021 ONE มียอดคนดูทั่วโลกมากถึง 406 ล้านคน เป็นรองเพียงโอลิมปิกเกมส์, ฟุตบอลยูโร และฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งอยู่ในอันดับ 1-3 เท่านั้น … และแน่นอนว่าศึก "ONE ลุมพินี" จะถูกเผยแพร่ไปสู่สายตาคนทั่วโลกเช่นกัน
ศึกมวยไทย ONE ลุมพีนี จะจัดขึ้นวันศุกร์ทุกสัปดาห์ โดยมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศผ่านทางช่อง 7HD ในช่วงไพร์มไทม์ตั้งแต่เวลา 20.30 น. พร้อมส่งสัญญาณสดไปให้แฟน ๆ ทั่วโลกมากกว่า 170 ประเทศ ซึ่งมีผู้ชมกว่า 60 ล้านคนในทุกแพลตฟอร์ม
นอกจากมาตรฐานการชกบนสังเวียนแล้ว ONE ยังนำโปรดักชั่นดีไซน์แบบใหม่ที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกับ ONE Championship ทั้งแสง สี เสียง มาเซตให้กับเวทีลุมพินี รวมถึงยังเปิดให้มีการรำมวยไหว้ครูในคู่เอกเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยด้วยเช่นกัน
สิ่งเหล่านี้นอกจากจะเพิ่มความน่าติดตามให้กับแฟนมวยชาวไทยทั้งผู้ที่เดินทางมาชมติดขอบเวทีหรือผู้ชมที่ดูทีวีทางบ้านแล้ว ยังเป็นการโชว์ภาพลักษณ์ของมวยไทยไปสู่สายตานานาประเทศอีกด้วย
"ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะถ่ายสดแค่ในเมืองไทยอย่างเดียว ทำให้ไม่มีโอกาสได้เป็นมรดกโลกจริง ๆ ONE ลุมพินี จะถ่ายทอดสดไป 170 ประเทศทั่วโลก ลองคิดดูว่าถ้าทั่วโลกจะมานั่งดูมวยไทยชกทุกสัปดาห์เหมือนที่ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, NBA หรือ NFL จะน่าตื่นเต้นขนาดไหน ผมภูมิใจมาก"
"นอกจากนี้เรายังเตรียมสร้างโฆษณาโปรโมตฮีโร่ของเรารวมถึงโปรโมตสถานที่และความน่าสนใจต่าง ๆ ของเมืองไทยให้ทั่วโลกได้เห็น" ชาตรี กล่าว
ลงลึกถึงรากฐาน
ความตั้งใจของชาตรีคือการพลิกฟื้นมวยไทยให้กลับมายิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนา ONE ลุมพินี ไปสู่ระดับโลกเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการเสริมสร้างรากฐานของมวยไทยให้แกร่งกล้า
นอกจากจะเปิดโอกาสให้ทุกค่ายทุกโปรโมเตอร์ทั่วประเทศไทยและทั่วโลกส่งนักมวยเข้าชิงชัยเพื่อเฟ้นหากำปั้นที่ดีที่สุดโดยมีเงินรางวัลและอนาคตอันสดใสรออยู่เบื้องหน้าแล้ว เขายังมีแผนอีกมากมายที่เตรียมไว้
ชาตรีได้เชิญหัวหน้าค่ายมวยและโปรโมเตอร์รายใหญ่ ๆ ของเมืองไทยมาหาแนวทางในการพัฒนาร่วมกันในเรื่องต่าง ๆ พร้อมยังเตรียมบริจาคเงิน 10 ล้านบาท สนับสนุนช่วยเหลือค่ายมวยเล็ก ๆ ทั่วเมืองไทยให้มีกำลังในการปลุกปั้นนักมวยขึ้นมาประดับวงการ
ขณะที่ในระดับนานาชาติยังมีแผนการลงทุนกว่า 3,600 ล้านบาทในอุตสาหกรรมและระบบนิเวศน์มวยไทยในตลาดโลก รวมถึงเตรียมจัดการแข่งขันมวยไทย กรังด์ปรีซ์ ด้วยการนำยอดมวยไทย 16 คนที่มีดีกรีระดับแชมป์โลก มาชกกันแบบไม่มีรุ่นน้ำหนัก เพื่อชิงเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ ตื่นเต้น เร้าใจ ให้ทั่วโลกหันมาสนใจประเทศไทย
"ผมอยากสร้างมาตรฐานให้กับมวยไทย ทั้งการแข่งขันและระบบที่แฟร์ในการแบ่งเงิน เพื่อลดโอกาสที่จะเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ผมอยากให้นักมวยได้เปอร์เซ็นต์มากที่สุด ตามด้วยค่ายมวยและโปรโมเตอร์ ทุกคนต้องชนะด้วยกัน โปรโมเตอร์คนไทย หัวหน้าค่ายคนไทย แล้วก็นักมวยของเรา"
"ONE ไม่ใช่บริษัทของฝรั่ง ผมเป็นคนไทย ลูกครึ่งไทย มวยไทยอยู่ในใจผม ผมจริงใจ ไม่ใช่ผมจะเอาเงินจะเอาเปรียบใคร ผมอยากสร้างฮีโร่ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าคนไทยสุดยอดขนาดไหน ผมจะทำให้มวยไทยฟื้นกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ให้ได้" ชาตรี ทิ้งท้าย
ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องมาร่วมติดตามและให้กำลังใจกันว่าความตั้งใจของชาตรีจะประสบความสำเร็จอย่างที่หวังหรือไม่ หรือแฟนกำปั้นไทยจะยังยึดติดกับภาพลักษณ์และการแข่งขันมวยไทยในรูปแบบเดิมที่เป็นอยู่
บทความโดย ชมณัฐ รัตตะสุข
โฆษณา